14 ก.ค. 2024 เวลา 06:27 • การศึกษา
เรื่องมีกาย นั่น มันมีกาย .กายที่ครบอาการสามสิบสอง ประกอบกับ สิ่งที่สะสมมา ที่จะต้องมารับใช้ ชดใช้กรรม ที่เกิดขึ้นที่กาย อารมณ์ความรู้สึก นึกคิดอะไรต่างๆ เราลองศึกษาเรื่องราวขององค์พระสิทธัตถะดู ดูหนังเรื่องพระพุทธเจ้าก็ได้ ..ว่า การที่ท่าออกจากเวียงวังนั้น จากคนทีเคยสุขสบาย ..ออกไปผจญ ใฝ่หาเรื่องราว หนทางที่จะดับทุกข์
แล้วก็ไปเรียนรู้จาก ฤาษี เรื่องกายทำกายนิ่ง จิตนิ่ง ..ฤาษีท่านก็สอนให้ ..แล้วสิ่งที่ท่านเรียนรู้ในเรื่องกายนิ่ง จิตนิ่ง ท่านทำด้วย ความขันติ ..ท่านเป็นจิตที่สะสมบุญบารมีมาเต็มที่ ..เรียนรู้อะไร ก็เหมือนของง่ายไปหมด แล้วขนาดที่ท่านสะสมบุญบารมีมาเต็มที่ ท่านยังต้องใช้เวลา กว่าหกปี ในการปฏิบัติปฏิบัติธรรม ในป่า ..
มีพระ ที่ท่านสอนบอกว่า เมื่อเราปฏิบัติธรรม ไปจนถึงที่สุด ก็จะมาจบที่การ ทำกายนิ่ง จิตนิ่ง จิตเฉย ..เมื่อสามารถทำได้ ก็จะเกิดปัญญาธรรม .ท่านก็บอกมาเพียงแค่นั้น แล้วก็บอกว่า ให้เอารอยทั้งสี่ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้ามา ฝึกหัด ..ทำจิตให้เป็นมัชฌิมา เฉย..อะไรเกิดขึ้น ก็เฉย ..นั่งพับเพียบ ..นั่งกายตรงๆ หายใจลึก ก็ประคองจิตประคองกาย นั่งนิ่ง..
นั่งนิ่งๆ อย่ากระดุกกระดิก มดกัด ยุงกัด เจ็บปวด ..นั่นก็คือ อารมณ์ นั้นคือทุกข์ นั่นคือ จิตที่ไปยึด เราก็นนั่งๆ เฉยๆ ไม่ต้องนึกคิดอะไร นั่งกายนิ่งๆๆๆ จิตๆนิ่ง ไม่นึกคิดอะไร ..ความเฉยของจิต ที่หมั่นตรวจสอบ รักษากายให้นิ่งได้ มีสติสัมปชัญญะ รักษากายนิ่ง จิตไม่ต้องมีอารมณ์ มีสติปัญญารักษากายนิ่ง จิตนิ่งไม่อารมณ์นั่นได้ ก็จะเกิด เรื่องราวปัญญาธรรม นำพาจิตให้พ้นจากเรื่องราวของอารมณ์กรรมต่างๆ
เมื่อเราออกจากกิริยาปฏิบัติธรรมฝึกหัด .จิตก็จะค่อยเข้มแข็ง ..เข้มแข็งขึ้น ..ไม่ได้ไปเข้มแข็งกับคนนั้นคนนี้ ที่อยู่นอกกาย ..แต่จะเข้มแข็งต่ออารมณ์ที่เกิดขึ้นในกาย ..มีสติสัมปชัญญะ เท่าทันอารมณ์ ละวางอารมณ์ในเรือนกายได้เร็วขึ้น ..
แล้วเราไปลองฝึกหัด ดู ..ทำให้มันได้ ..กายนิ่ง จิตนิ่ง จิตมันหวั่นไหว ..อะไรเกิดขึ้น ก็ให้จิตยึดภาวนาพุทโธดู .. ดูซิว่า ..นั่นนิ่งๆ จิตเโย..เราปลดเปลื้อง ทุกข์ ปลดเปลื้องอารมณ์ ปลดเปลื้อง..เรื่องราว ที่ว่า คนนั้นคนนี้ ..เป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ….เรามาแก้ไขที่ตัวเอง จับตนค้นตน ..จับจิต จับกาย จับอารมณ์ของตัวเอง ยังไม่ต้องพิจารณาอะไรหรอก ..เอาแค่กายนิ่ง จิตนิ่ง..ให้ได้ แล้วเมื่อทำได้ ..เราก็ได้เรียนรู้จัก นิสัยสันดานของตนเอง ..ว่ามันเป็นมาอย่างไร อารมณ์กรรม ตัวกระทำ เกิดขึ้นในกาย มันน่าชื่นชมมั้ย .
เรื่องราวขององค์พระสิทธัตถะนั้น หากนำมาฝึกหัด ..มันขุดรากถอนโคน ..ในสิ่งที่ทีเราสะสมกรรมมาเอง ..เค้าบอกว่า ดีทีสุด ..ฝึกหัด ที่กายตนเอง ..ทำเสียก่อนค่อยรู้ ..อย่าไปรู้ก่อนทำ ลองทำดูว่าทำได้มั้ย กายนิ่ง จิตนิ่ง..ไม่ต้องนึกคิดอะไร .. หากว่ามันทำไม่ได้ ก็สำรวจตรวจสอบตนเอง เสียหน่อยว่าเป็นเพราะอะไร ถึงทำไม่ได้
. เวลาฝึกหัด ..เค้าค่อยๆทำน่ะ อย่าไปโลภ .เอาเวลา ..ทำไปไป ..นั่งนิ่งๆ จิตเฉยๆ นั่งไปห้านาที สิบนาที ครึ่งชั่วโมง ..ให้มันนิ่งได้ สักนาทีเนี่ย ..เค้าจิตก็เป็นแล้ว แล้วหากทำได้มาก ๆ นิสัยสันดาน ..มันก็เปลี่ยนแปลง ไปในทางที่ดี ..เหมือนเดืนขึ้นที่สูง ..สูงยังไง ..สูงที่มีกายดี จิตดีๆ เกิดขึ้น ..ละเรื่องราวอารมณ์โลภโกรธหลงไปทีเล็กๆน้อยๆ กายมันก็ไม่หนักด้วยเวรกรรม..มันดีมั้ยหนอ
เรื่องรู้จำ นั้นมันเรียนรู้ได้ ..แต่เรื่ิองเรืยนรู้ ที่จะแก้ไข ตนเอง ..แก้ไขอารมณ์ ที่นำพาไปสร้างกรรม จะแก้ไขอย่างไร หากเราไม่เอารอยของที่ท่านเดินผ่านทุกข์ ไปแล้ว ที่ท่านก็ชี้ทางไว้ให้ .แล้ว ..เพียงแต่ว่า ..เราจะเดินไปทางที่ท่านชี้ไว้หรือไม่ ..นั่นก็เรื่องของจิตใครจิจมันเลือทางเดินเอง
ไม้อ่อนนั้นดัดง่าย ..ไม่แก่ดัดยาก ..ตอนที่ร่างกาย แข็งแรง มีอาการครบสามสิบ นั่น สามารถนำมีประพฤติปฏิบัติธรรมได้ดี นั่งพับเพียบ ..เส้นสายมันไม่ตึง พังผืดไม่ค่อยมี ..ตอนแก่เฒ่านี้ นี่..จะเอากายมานั่งนิ่งๆ กายมันก็ไม่อำนวย ..เลือดลมติดขัด บังคับให้นิ่งได้ยาก .. เวลามันผ่านรวดเร็ว ..หากเริ่มต้นแต่อายุน้อย . จิตก็จะเข้มแข็งต่ออารมณ์กายต้นเองได้เร็วขึ้น แก่เฒ่าก็ยังมีสติสัมปชัญญะ เท่าทันอารมณ์ได้มากขึ้น ..
โฆษณา