ประเพณีวันสงกรานต์กับความหมายที่ถูกซ่อนไว้ ?

สงกรานต์เป็นที่ทราบดีกันอยู่แล้วว่าเป็นเทศกาลขึ้นปีใหม่ของไทย และรวมไปถึงบางประเทศทางตะวันออกเฉียงใต้ เช่น พม่า ลาว
สมัยก่อนเมื่อพูดถึงสงกรานต์ก็จะคิดถึงวันปีใหม่ ความผูกพันกัน บางปีประกาศเป็นวันครอบครัว เพราะวันสงกรานต์เป็นช่วงที่หยุดยาวที่สุด เป็นช่วงที่คนที่ทำงานต่างถิ่น ต่างบ้านต่างเมือง ภูมิลำเนาที่อยู่ต่างจังหวัดได้มีเวลากลับบ้านพบกับครอบครัว
ในประเทศไทยรวมถึงประเทศอื่นที่ใกล้เคียงโดยใน 1 ปี จะมี 12 นักษัตรคือกลุ่มดาวราศีต่างๆ เป็นเรื่องของกลุ่มดาวบนท้องฟ้าที่เกิดการหมุนเวียนโคจรรอบดวงอาทิตย์ จึงเป็นช่วงรอยต่อจากราศีหนึ่งไปสู่อีกราศีหนึ่ง เกิดจากช่วงวันที่ 13-15 เมษายน ของทุกปี ดวงอาทิตย์ตั้งฉากกับโลกดวงดาวจึงเกิดการเปลี่ยนแปลงจากเดิม คนสมัยก่อนจึงนับช่วงเวลานี้เป็นการเริ่มต้นปีใหม่
แต่เดิมคือไปทำบุญกับครอบครัว รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ ถือเป็นการสร้างความอบอุ่นสามัคคีในครอบครัว รวมไปถึงการเข้าวัดทำบุญ สร้างความสามัคคีกันในชุมชนและวัด เพราะสงกรานต์เป็นหน้าร้อนจึงใช้น้ำเป็นสื่อกลางไม่ว่าจะเป็นการ รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่หรือการสาดน้ำเล่นกันก็ตาม ช่วยดับร้อน และทำให้ชุ่มชื่น
แต่การเล่นน้ำสมัยก่อนต่างจากสมัยนี้ เพราะสมัยก่อนเน้นเรื่องการทำบุญโดยแบ่งเป็นวันที่ตั้งแต่วันที่ 13-15 วันขึ้นปีใหม่เป็นวันที่ 15 เมษายนของทุกปี  การเรียกของแต่ละวันจะเรียกชื่อต่างกันออกไป
ประเพณีแต่เดิมจะเป็นการรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ สรงน้ำพระหรือการก่อเจดีย์ทรายให้พระท่านนำไปใช้ประโยชน์ตามความเชื่อว่าของวัดเราไม่สามารถเอาไปใช้ได้  เมื่อเราเดินทรายติดเท้าออกจากวัดก็ขนทรายเข้าวัด มีการปล่อยสัตว์ ปล่อยปลา
ส่วนการเล่นน้ำเป็นการใช้ขันเล็กๆตักน้ำมารดกันโดยใช้น้ำที่มีกลิ่นหอมดอกมะลลิหรือน้ำอบ  เพราะการสาดน้ำสมัยก่อนเป็นการไม่สุภาพซึ่งต่างจากในปัจจุบัน จึงกลายเป็นการละเล่นที่เปลี่ยนแปลงไป
สงกรานต์จึงกลายเป็นเทศกาลท่องเที่ยวหรือ Water Festival ทำให้มีรายได้เข้าประเทศ แต่ทำให้ภาพลักษณ์ของประเพณีสงกรานต์ถูกเปลี่ยนมุมมองจากเดิมไป แต่ละที่จึงต้องมีการจัดสงกรานต์ที่แท้จริงเพื่อสืบสานประเพณีดั้งเดิมไว้
เพราะฉะนั้นเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายและทุกคนต้องช่วยกันสืบสานวัฒนธรรมดั้งเดิมไว้  เพราะเทศกาลสงกรานต์ไม่ใช่แค่การเล่นสาดน้ำ สนุกสนาน แต่เป็นการสร้างความอบอุ่นภายในครอบครัวและสามัคคีภายในชุมชนพร้อมทั้งยึดถือประเพณีสงกรานต์ในด้านที่ดีงามไว้
ช่วงวันสงกรานต์เป็นช่วงที่อากาศร้อนเราจึงมีการรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ เพื่อปัดเป่าสิ่งที่ไม่ดีออกไป และรับแต่สิ่งดีๆเข้ามา เนื่องจากเป็นประเพณีที่คนไทยให้ความสำคัญกันมาก
รัฐบาลเอื้อเฟื้อโดยให้วันสงกรานต์มีวันหยุดยาวเป็นพิเศษถือเป็นเทศกาลที่คนกลับไปเยียมบ้านกันมาก  ตามวัดต่างๆก็จัดงานเพื่อเป็นการต้อนรับการกลับคืนสู่เหย้าของแต่ละคนสู่บ้านเกิด เราจึงถือกันว่าสงกรานต์เป็นเสมือนวันครอบครัว วันที่ได้มาพบปะกันทั้งครอบครัว
ในเมืองกรุงก็รวมตัวในสถานที่ชื่อดังเล่นน้ำสงกรานต์แต่ไม่ได้มีเฉพาะคนไทยเท่านั้นยังมีชาวต่างชาติ เกิดเป็นเทศกาลการท่องเที่ยวใหญ่เมื่อพูดถึงเทศกาลน้ำหรือ Water Festival ทั่วโลกต่างรู้จัก ถ้าในประเทศญี่ปุ่นคือเทศกาลรดน้ำเมื่อพูดถึงทุกคนจะนึกถึงประเทศไทยเพราะเราโปรโมทไปทั่วโลกมากกว่าประเทศอื่นๆ
 
ย้อนไปในปี 2534 สมาคมนักเรียนไทยในญี่ปุ่นไปจัดงานสงกรานต์ใหญ่ครั้งแรกที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นช่วงเดียวกับที่พระอาจารย์ไปที่ญี่ปุ่น ซึ่งมีพระไทยแค่ 2 รูปจากวัดพระธรรมกาย
ทางสมาคมนักเรียนไทยจึงมาอาราธนาท่านไปเป็นประธานสงฆ์ให้ ซึ่งมีชาวไทยกับชาวญี่ปุ่นที่รักความเป็นไทยกว่า 3,000 คนมากันเนืองแน่น การละเล่นเหมือนย้อนยุควัฒนธรรมในประเทศไทย เป็นการรดน้ำโดยให้ผู้ใหญ่นั่งเรียงกันและให้เด็กนักเรียนไทยและญี่ปุ่นไปรดน้ำขอพร
 
 
 ทำให้เห็นว่าถึงแม้เราจะอยู่ต่างประเทศแต่เราก็สามารถรักษาประเพณีเก่า ทั้งยังทำให้คนต่างประเทศได้ปลื้มใจ  เพราะฉะนั้นไม่ว่าอย่างไรเราทุกคนไม่ควรทิ้งรากฐานวัฒนธรรมอันดีงามเพราะมีสิ่งที่น่าประทับใจมาก
ความสนุกสนานทำได้ง่ายแต่มิติลึกของวัฒนธรรมไทยเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก วันสงกรานต์ วันครอบครัวให้ทุกคนได้สืบสานประเพณีอย่างถูกต้องตามวัตถุประสงค์ เว้นจากอบายมุข สุรา การพนัน การใช้ความรุนแรง การสาดน้ำ ล่วงละเมิดเพศตรงข้ามเราจึงควรหลีกเลี่ยง แต่ให้เป็นสงกรานต์อันดีงามสร้างความประทับใจให้ทั้งชาวไทยและชาวโลก
ในปีนี้ จึงขอโอกาสในวันขึ้นปีใหม่ไทย 2568 และวันครอบครัว จึงขออาราธนา ด้วยอานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย จงคุ้มครองรักษาท่านทุกคน ให้เดินทางโดยปลอดภัย จงทุกท่านด้วยเทอญ
เจริญพร
โฆษณา