สรุปหนังสือ ใช้สมองพลังบวก เอาชนะอารมณ์ลบ
สำหรับใครก็ตามที่รู้สึกเหนื่อยล้าทางใจ จมอยู่กับความรู้สึกไม่แน่ใจในตนเองหรือกำลังพยายามวิ่งหนีความรู้สึกแย่ ๆ อย่างไม่มีวันจบ
หนังสือที่นำมาสรุปวันนี้จะพาทุกคนไปสำรวจวิธีคิดของสมองที่มักสร้าง “โลกอันตรายปลอม ๆ” พร้อมทั้งแนะนำวิธีตั้งสติ พูดคุยกับตนเองอย่างอ่อนโยน และใช้พลังของสมองอย่างสร้างสรรค์เพื่อเปลี่ยนมุมมองเดิม ๆ ให้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเยียวยา
หนังสือเล่มนี้ไม่ได้พยายามให้ผู้อ่านกำจัดความรู้สึกแย่ ๆ อย่างวิตกกังวล ความกลัว หรือความไม่มั่นคงในใจ แต่ชวนให้เราทำความรู้จักกับมันอย่างลึกซึ้ง เพราะอูโบย็องเชื่อว่าอารมณ์ลบไม่ใช่สิ่งผิดหรือควรถูกปิดทิ้ง สิ่งที่เราควรทำคือการ “หยุด ฟัง และเข้าใจตนเอง”
อูโบย็อง (Woo Boyoung) จบการศึกษาจากสาขา Human Development & Family Studies และสาขา Korean Language and Literature ที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล ศึกษาต่อปริญญาโทด้านจิตบำบัด
ปัจจุบันเป็นนักให้คำปรึกษาครอบครัว นักให้คำปรึกษาชำนาญการของสมาคมวิชาการด้านการให้คำปรึกษาแห่งเกาหลี ได้รับเชิญเป็นวิทยากรด้านจิตวิทยาเชิงบวกและให้ความรู้ในบริษัทหลายแห่ง เช่น Samsung, Hyundai
อูโบย็อง มีประสบการณ์ตรงในการเผชิญกับความวิตกกังวลและโรคตื่นตระหนก (Panic Disorder) มาหลายปี ประสบการณ์เหล่านี้ทำให้เธอเข้าใจลึกซึ้งถึงกลไกของอารมณ์ลบและพฤติกรรมของสมอง เธอจึงนำความเข้าใจนี้มาแบ่งปันผ่านงานเขียน เพื่อช่วยให้ผู้อ่านสามารถอยู่ร่วมกับความกังวลได้อย่างสร้างสรรค์และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
[สาเหตุของความวิตกกังวล]
บรรพบุรุษในยุคล่าสัตว์ต้องมีความพร้อมตลอดเวลาในการหลบหนีจากการล่าของสัตว์ที่ดุร้าย จนทำให้สมองได้วิวัฒนาการทักษะการตัวรอดเหล่านั้นมาจนถึงปัจจุบัน แต่เปลี่ยนไปอยู่ในรูปแบบของคำว่า “อคติเชิงลบ”นอกจากนี้ความเครียด ความกังวล ไม่ว่าจะเกิดจากวิกฤตการเงิน โรคระบาด ก็ทำให้มนุษย์ต้องคอยหลบการโจมตีอยู่เสมอไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร
ความกังวลที่เกิดจาก “นักวิจารณ์ภายใน” หรือก็คือสิ่งที่เราพูดกับตัวเอง ผู้ซึ่งไม่เคยให้กำลังใจแถมยังทำให้เจ็บใจอีกต่างหาก ซึ่งนักวิจารณ์ภายในถูกหล่อหลอมมากจากพ่อแม่ กลุ่มเพื่อน รวมไปถึงสื่อต่างๆ สิ่งที่ควรรู้เอาไว้ก็คือเสียงในหัวนี้มีอิทธิพลต่อความคิดและความรู้สึกของเรามากกว่าที่คิด
“ความไม่แน่นอน” ก็เป็นหนึ่งในสาเหตุของความกังวลเนื่องจากเราไม่รู้เลยว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคต สิ่งที่เราทำได้ก็คือการวางแผนและยอมรับการเปลี่ยนแปลง
การใช้ชีวิตอย่างเต็มที่เป็นสิ่งที่ที่ดี แต่ถ้าไม่อยากหมดแรงสลบ การสร้างเสริมความยืดหยุ่นทางความคิดก็เป็นสิ่งสำคัญ
หนังสือใช้สมองพลังบวก เอาชนะอารมณ์ลบ
[อารมณ์พื้นฐาน 6 ชนิด]
นักจิตวิทยาแบ่งอารมณ์พื้นฐานเอาไว้ ได้แก่ ความสุข ความเศร้า ความโกรธ ความแปลกใจ ความกลัวและความเกลียด ถ้าเราไม่มีการตระหนักรู้ในอารมณ์ก็เหมือนกับการที่เราผสมสีหลายๆ สีจนมันกลายเป็นสีดำ เราจะไม่รู้เลยว่าสีเดิมของความรู้สึกคือสีอะไร ดังนั้นสิ่งที่ควรทำคือการแยกแยะและหาสาเหตุที่ทำให้รู้สึกแบบนั้น
สัญญาณที่ควรตรวจสอบ
1. ความคิดที่วนเวียนและไม่สามารถควบคุมได้
เช่น ความคิดซ้ำ ๆ เกี่ยวกับสิ่งที่อาจผิดพลาด หรือความกลัวที่ไม่มีเหตุผลชัดเจน
2. ความรู้สึกไม่ปลอดภัยและไม่มั่นคง
รู้สึกว่าตนเองอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้ หรือมีความไม่แน่นอนในชีวิต
3. การหลีกเลี่ยงสถานการณ์หรือกิจกรรมบางอย่าง
เช่น หลีกเลี่ยงการพบปะผู้คน หรือสถานที่ที่เคยเกิดความวิตกกังวล
4. อาการทางกายภาพ
เช่น หัวใจเต้นเร็ว เหงื่อออก มือสั่น หรือรู้สึกหายใจไม่อิ่ม
5. ความรู้สึกเหนื่อยล้าและหมดแรง
ความวิตกกังวลที่ต่อเนื่องสามารถทำให้รู้สึกเหนื่อยล้า และไม่มีพลังในการทำกิจกรรมต่าง ๆ
[จุดไม้ขีดไฟในถังแก๊ส]
เรื่องราวต่อไปนี้เป็นการอธิบาย สาเหตุของปัญหาต่างๆที่มาจากแรงกระตุ้นภายนอกทำปฏิกิริยากับสภาพแวดล้อมภายใน
ชายคนหนึ่งอาศัยอยู่ในแท็งก์แก๊สและหญิงคนหนึ่งอาศัยอยู่ในแท็งก์น้ำ ทั้งคู่เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันจึงไปกินข้าวที่บ้านของอีกฝ่ายอยู่บ่อยๆ วันหนึ่งขณะกินข้าวเย็นของบ้านผู้หญิง ฝ่ายชายถูกใจเข้ากับไม้ขีดไฟจึงขอเอาเก็บไปไว้ที่บ้านสุดท้ายก็เกิดการระเบิด
ถ้าให้สรุปสาเหตุของการระเบิดครั้งนี้หลายคนก็อาจจะคิดถึงไม้ขีดไฟ แต่ฝ่ายหญิงไม่เห็นด้วยเพราะตอนที่ไม้ขีดไฟอยู่ในบ้านของเธอก็ไม่เกิดปัญหา สรุปสาเหตุที่แท้จริงก็คือไม้ขีดไฟที่เป็นปัจจัยกระตุ้นภายนอกทำปฏิกิริยากับแก๊สซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมภายใน
เปรียบเทียบกับตัวของเราก็คือแท็งก์แก๊สเต็มไปด้วยใจที่อยากจะควบคุม เก็บกดความกังวลเอาไว้เมื่อเจอกับแรงกระตุ้นภายนอกที่ยิ่งทำให้เกิดความวิตกกังวล สุดท้ายก็เกิดการระเบิดดังนั้นสิ่งที่ควรทำก็คือยอมรับความกังวลเปิดหน้าต่างออกเพื่อระบายแก๊สที่อัดแน่นอยู่ข้างในออกมา แม้จะเจอแรงกระตุ้นจากภายนอกอย่างไม้ขีดไฟก็ไม่อาจทำให้ความกังวลนั้นระเบิด
[เกิดมาเพื่อใช้ชีวิต]
ถ้าเคยดูภาพยนต์เรื่อง Soul จะเข้าใจชีวิตในอีกแง่มุมหนึ่ง บทเรียนที่สำคัญคือ “เรามายังโลกนี้ในสถานะที่พร้อมจะใช้ชีวิตที่อยู่ตรงหน้า ดังนั้นจงรักชะตาชีวิตของตัวเองและต้องทำให้วิญญาณของตนมีความสุขในทุกช่วงเวลาของชีวิต”
[กิจกรรมคลายความกังวล]
แก้ไขนักวิจารณ์ภายใน
1. ให้คิดตามว่าเสียงนั้นเป็นเสียงที่ออกมาจากเด็กอายุ 3-4 ขวบ ยอมรับและทำความเข้าใจเธอ
2. ค้นหาความคิดที่บิดเบือนและเปลี่ยนความเชื่อที่ไม่สมเหตุผล
ตัวอย่างคำพูดที่เอาไว้บอกตัวเอง
•แม้ไม่ทำตามที่วางแผนไว้ก็ยังมีชีวิตที่ดีต่อไปได้
•ถ้าใครผิดหวังในตัวเราก็เป็นแค่ความคิดของคนนั้น
•ไม่จำเป็นต้องประสบความสำเร็จเพื่อที่จะได้รับความรัก
ตระหนักรู้ในตนเอง
ฉันกำลังคิดว่า... (สิ่งที่คิด)
ฉันกำลังคิดว่า... ถูกกดดันจาก (สิ่งที่คิด)
Detox ความคิด
1. เตรียมกระดาษและปากกา
2. หลับตา ผ่อนคลาย
3. เขียนความคิดที่ผุดขึ้นมา จนคิดไม่ออก
4. จัดหมวดหมู่ความคิดตามช่วงเวลา “อดีต” “ปัจจุบัน” “อนาคต”
5. สังเกตจำนวนในแต่ละช่วงเวลาเป็นว่าอย่างไร
6. เลือก 1 ความคิดที่สำคัญบันทึกไว้ในมือถือ ส่วนความคิดที่เหลือก็ทิ้งไปได้เลย
โลกนี้ไม่ได้เต็มไปด้วยสิ่งน่ากลัวเหมือนที่เราคิด ไม่จำเป็นต้องใจร้ายกับตัวเองเพื่อเป็นมนุษย์ที่ดีพอสำหรับใครสักคน จงตัดวงจรเหล่านั้นแล้วหันมาดูแลหัวใจตัวเองก่อนที่จะสายเกินไป
หนังสือใช้สมองพลังบวก เอาชนะอารมณ์ลบ
หนังสือเล่มนี้คือพื้นที่ปลอดภัย ที่จะช่วยให้คุณไม่รู้สึกโดดเดี่ยวในวันที่อ่อนแรง พร้อมมอบวิธีคิดและเครื่องมือเล็ก ๆ ที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง เพื่อเปลี่ยน “อคติเชิงลบ” ที่ฝังรากลึกในสมอง ให้กลายเป็นแรงขับเคลื่อนสู่ความเข้าใจตนเองและการเยียวยาที่แท้จริง
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
