Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Productive Girl
•
ติดตาม
28 เม.ย. เวลา 12:00 • หนังสือ
สรุปหนังสือ อะไรไม่จำเป็นก็ทิ้งไป Way to Be Minimalist
ทุกวันเราถูกห้อมล้อมด้วยข้าวของและเรื่องราวมากมายจนเหนื่อยล้าโดยไม่รู้ตัว การใช้ชีวิตแบบ "มินิมอล" คือการเลือกเก็บเฉพาะสิ่งที่จำเป็นจริงๆ เพื่อให้ใจเรามีที่ว่างสำหรับความสุขที่แท้จริง หนังสือ "อะไรไม่จำเป็นก็ทิ้งไป" โดย ซะซะกิ ฟุมิโอะ จะพาเราไปรู้จักวิธีลดของ ลดภาระ และเปลี่ยนชีวิตให้เบาสบายกว่าที่เคย
ซะซะกิ ฟุมิโอะ (Fumio Sasaki) เกิดในปี ค.ศ. 1979 จบการศึกษาจากคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยวาเซดะ เขาเริ่มต้นเส้นทางอาชีพในฝ่ายบรรณาธิการนิตยสารของบริษัท INFAS Publications ก่อนจะย้ายมาทำงานที่บริษัทวะนิบุ๊กส์ (Wani Books)
ก่อนจะหันมาใช้ชีวิตแบบมินิมัลลิสต์ ซะซะกิเคยอาศัยอยู่ในห้องที่เต็มไปด้วยข้าวของ มีนิสัยรักการสะสม และแทบไม่สามารถตัดใจทิ้งสิ่งของได้เลย จนกระทั่งในปี 2010 เขาตัดสินใจเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตอย่างจริงจัง และในปี 2014 ได้ร่วมกับคุณนูมะฮาตะ นาโอะคิ (Naoki Numahata) ก่อตั้งเว็บไซต์ "minimal & ism – Less is Future" เพื่อเผยแพร่แนวคิดการใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย
ทำความรู้จักคำว่า “มินิมอลลิสต์”
มินิมอลลิสต์ คือ คนที่รู้ว่าสิ่งไหนสำคัญสำหรับตัวเองจริงๆ ไม่ใช่คนที่อยากได้ของต่างๆ และเอาแต่สนใจคนรอบข้าง มินิมอลลิสต์ยังเป็นคนที่พยายามลดข้าวของที่ไม่จำเป็นให้น้อยลง
เหตุผลที่มินิมอลควรอยู่ในชีวิตประจำวัน
1. เวลาในชีวิตหมดไปอย่างเปล่าประโยชน์
สาเหตุที่เวลาในชีวิตของเราน้อยลงมักมาจากการที่เรามีข้าวของมากเกินไป เช่น การทำความสะอาดข้าวของที่เยอะ เสียเวลาไปกับการจัดระเบียบ การเสียเวลาหาเงินเพื่อซื้อข้าวของที่ไม่จำเป็น
2. สามารถย้ายบ้านใน 30 นาที
หากเป็นมินิมอลลิสต์จะสามารถย้ายบ้านในเวลาแค่ 30 นาที เนื่องจากข้าวของน้อยลง การจัดเก็บและการขนย้ายย่อมรวดเร็ว
3. นิสัยการทำความสะอาดที่ดีขึ้น
เมื่อข้าวของน้อยลง การทำความสะอาดก็ง่ายขึ้น เวลาที่ใช้ในการทำความสะอาดลดลง และยิ่งทำบ่อยๆ ก็จะเพิ่มความภาคภูมิใจ และทำให้เรามีนิสัยรักความสะอาด
4. มีความสุขมากขึ้น
จากชีวิตที่เรียบง่ายและผลลัพธ์ของความสะอาด มีเรื่องเล่าที่น่าสนใจก็คือ มีคุณน้าคนหนึ่งมักจะเก็บกวาดใบไม้ที่ร่วงทุกเช้า คุณซะซะกิก็สงสัยว่าคุณน้าทำเรื่องที่น่าเบื่อทุกวันได้อย่างไร จนวันที่เขาได้กลายมาเป็นมินิมอลลิสต์ เขาได้เข้าใจว่าการกวาดใบไม้ทุกวันไม่ใช่การกวาดใบไม้ แต่เป็นการทำให้ตัวเองหลุดพ้นจากนิสัยขี้เกียจ
ตัวอย่างบุคคลที่ใช้ชีวิตแบบมินิมอล
• สตีฟ จ็อบส์
สตีฟ จ็อบส์ มีแนวทางการใช้ชีวิตที่เรียบง่าย เช่น เสื้อผ้าประจำวัน เขาใส่เสื้อคอเต่าสีดำ กางเกงยีนส์ลีวายส์ และรองเท้าผ้าใบ New Balance เป็นประจำ เพื่อช่วยลดการตัดสินใจในเรื่องไม่จำเป็น รวมไปถึงแนวคิดในการออกแบบสินค้าของ Apple เช่น iPhone, iPad, MacBook ที่ถูกออกแบบตามหลัก “Minimalist Design” คือ การออกแบบที่เรียบง่าย ใช้งานได้ตรงจุด และมีความสวยงามที่ไม่ต้องอธิบาย
• แม่ชีเทเรซา
ในตอนที่เธอเสียชีวิต สิ่งที่เหลือไว้มีเพียงแค่ชุดส่าหรี เสื้อคลุม ถุงกระดาษเก่าๆ และรองเท้าแตะขาดๆ เธอเป็นแบบอย่างของการใช้ชีวิตมินิมอลที่ไม่ใช่แค่เรื่อง "ของน้อย" แต่เป็น "ใจที่ว่างพอสำหรับการรักและรับใช้ผู้อื่นอย่างเต็มที่"
• มหาตมา คานธี
คานธีได้สอนเรื่องของการไม่ครอบครอง โดยเชื่อในหลัก “Simplicity is a way of life” (ความเรียบง่ายคือหนทางการใช้ชีวิต) และเขาเชื่อว่าความสุขหรือเสรีภาพที่แท้จริงจะมาถึงเมื่อมนุษย์เรียนรู้ที่จะ "มีน้อยลง" และ "ลดความต้องการให้น้อยลง"
วิธีคิดและทำสำหรับมินิมอลลิสต์
1. การทิ้งข้าวของไม่ใช่การสูญเสีย แต่คือการได้รับ
2. ทิ้งข้าวของที่มีไว้เพื่อคนอื่น
3. ไม่ต้องใส่ใจค่าเช่าบ้านของรูมเมทที่ชื่อว่า “ข้าวของ”
4. ทำพื้นที่ว่างให้ว่างไว้
5. เมื่อคิดจะทิ้งข้าวของแล้วก็ห้ามเป็นคน “ครีเอทีฟ”
6. รู้สึกถึง “ความเปล่งประกายในหัวใจ”
7. อย่าคิดถึงราคาตอนที่ซื้อมา
8. ซื้อ 1 ชิ้น ต้องทิ้ง 1 อย่าง
9. ของที่สำคัญกับเราจริงๆ จะกลับมาหาเราอย่างแน่นอน
มินิมอลลิสต์คือผู้ที่เลือกใช้ชีวิตโดยไม่พึ่งพาของฟุ่มเฟือย และมุ่งเน้นเฉพาะสิ่งที่สำคัญและมีคุณค่าจริงๆ ช่วยให้ชีวิตเบาและมีความสุขมากขึ้น การใช้ชีวิตแบบมินิมอลไม่ได้แค่หมายถึงการลดข้าวของเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการลดความต้องการที่ไม่จำเป็น ซึ่งส่งผลให้มีเวลาและพลังงานมากขึ้นในการทำสิ่งที่สำคัญกว่า หนังสือ "อะไรไม่จำเป็นก็ทิ้งไป Way to Be Minimalist" จะพาคุณไปคิดถึงสิ่งที่มีค่าจริงๆ ในชีวิต พร้อมให้คุณได้รู้วิธีที่จะ ทิ้งสิ่งที่ไม่จำเป็น และ ใช้ชีวิตที่เบาและมีความหมาย มากขึ้น
พัฒนาตัวเอง
ไลฟ์สไตล์
หนังสือ
1 บันทึก
1
2
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
Book Zone
1
1
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย