10 พ.ค. เวลา 09:13 • ประวัติศาสตร์

ควันสีเทาในโลกอิสลาม- พัฒนาการการวินิจฉัยบุหรี่ในอิสลาม

หากวันหนึ่งมีคนมายื่นสิ่งของเล็กๆ ที่จุดไฟแล้วปล่อยควันออกมา พร้อมคำถามว่า
“สิ่งนี้...ฮาลาลหรือฮารอม?”
คำตอบไม่ได้อยู่ในกล่องบุหรี่นั้น แต่อยู่ในกระบวนการคิดที่ซับซ้อนของนิติศาสตร์อิสลาม
ศาสตร์ที่ต้องตอบคำถามต่างๆของโลก ด้วยหลักการที่วางอยู่บนบทบัญญัติที่ไม่เปลี่ยนแปลง
บุหรี่ ไม่ใช่สิ่งที่มีอยู่ในสมัยนบีมูฮัมหมัด ไม่มีการกล่าวถึงโดยตรงในอัลกุรอานหรือหะดีษ​ แต่มันอยู่ตรงหน้าเรา และอุลามาอ์ต้องตอบให้ได้ว่า มันควรถูกจัดอยู่ในฐานะใด
การวินิจฉัยเรื่องบุหรี่จึงกลายเป็นภาพสะท้อนของการที่ศาสนาเผชิญกับสิ่งใหม่
ไม่ใช่ด้วยอารมณ์ แต่ด้วยหลักการ
และนี่คือเรื่องราวของการเดินทางจาก “ความไม่รู้” สู่ “คำวินิจฉัย” ที่ชัดเจน ด้วยกลไกของฟิกฮ์ที่มีชีวิต
หลักการวินิจฉัยสิ่งที่ไม่มีในบทบัญญัติ
ศาสนาอิสลามไม่ปล่อยให้อะไรล่องลอยโดยไร้แนวทาง หากไม่มีตัวบทชัดเจน ก็ยังมีหลักการให้ยึดถือ:
"الحكم على الشيء فرع عن تصوره"
 
“การวินิจฉัยสิ่งใด ขึ้นอยู่กับการเข้าใจภาพรวมสิ่งนั้น”
กล่าวคือ การจะตัดสินว่าบุหรี่เป็นสิ่งที่ ฮาลาล (อนุมัติ) หรือ ฮารอม (ต้องห้าม) ต้องเริ่มจากความเข้าใจลึกซึ้งถึงธรรมชาติของมันก่อน
เพื่อให้เข้าใจภาพรวมของสิ่งใหม่ อุลามาอ์ใช้สองแหล่งข้อมูลหลัก:
ผู้สอบถาม: อุลามาอ์จะต้องทำความเข้าใจคำถามที่ถูกนำเสนอให้ดี หากไม่เข้าใจชัดเจน ควรสอบถามเพิ่มเติม.
ผู้เชี่ยวชาญในสาขานั้น: หากประเด็นที่สอบถามต้องการความรู้เฉพาะทาง อุลามาอ์ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญในสาขานั้น การปรึกษาหารือนี้มีจุดประสงค์เพื่อทำความเข้าใจภาพรวมของประเด็นอย่างละเอียด โดยพิจารณาถึงผลดีผลเสียของการกระทำนั้น ๆ ผู้เชี่ยวชาญควรเป็นบุคคลที่ไว้ใจได้ ไม่หลอกลวง และควรเป็นชาวมุสลิมที่มีความซื่อสัตย์.
จากหลักการนี้ จุดเริ่มต้นของการวินิจฉัยจึงไม่ได้อยู่ที่ “คำตอบ” แต่ที่ “คำถาม” และ “ภาพรวม” ที่ครบถ้วนของสิ่งที่เรากำลังเผชิญ
พัฒนาการความเข้าใจของอุลามาอ์
ตอนต้น: บุหรี่คือของใหม่ที่ยังไร้พิษสง
เมื่อบุหรี่เข้าสู่โลกมุสลิมในยุคแรก ไม่มีใครรู้จักพิษภัยของมัน อุลามาอ์ส่วนใหญ่จึงถือว่าบุหรี่เป็น มุบาฮฺ (อนุมัติ) ตามหลักเดิมที่ว่า:
"الأصل في الأشياء الإباحة"
“โดยพื้นฐาน ทุกสิ่งเป็นที่อนุมัติ เว้นแต่มีหลักฐานห้าม”
แต่ก็มีอุลามาอ์บางกลุ่มมองต่าง โดยใช้มุมมองด้านกลิ่นที่เหม็น (ซึ่งรบกวนคนอื่น) ความฟุ่มเฟือย และวัฒนธรรมตะวันตกที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อมุสลิม จึงวินิจฉัยว่า ฮารอม
ตอนกลาง: ความนิยมที่พุ่งขึ้น​ vs ความเห็นที่แตกแยก
เมื่อบุหรี่กลายเป็นกระแสหลัก ความเห็นของอุลามาอ์ก็เริ่มหลากหลาย มีทั้ง:
ฮารอม – หากชัดเจนว่าอันตราย
มักรูฮ์ – เพราะกลิ่นรบกวน
มันดูบ์ – หากมีประโยชน์ทางการแพทย์
มุบาฮ์ – หากไม่มีอันตรายชัดเจน
วาญิบ – ถ้าการรักษาโรคบางอย่างพึ่งพาบุหรี่
บางกลุ่มจึงวินิจฉัยแบบ "ตามสถานการณ์" โดยอิงหลัก อะห์กาม ค็อมซะฮ์ (ห้าสถานะทางศาสนา)
ตอนปลาย: วิทยาศาสตร์ชี้ชัด – บุหรี่เป็นพิษ
ในยุคสมัยที่ความรู้การแพทย์ก้าวหน้า เครื่องมือวิทยาศาสตร์พิสูจน์ชัดเจนว่าบุหรี่เป็นอันตราย ทั้งทางสุขภาพ เศรษฐกิจ และสังคม จึงเกิดฉันทามติในหมู่อุลามาอ์ส่วนใหญ่ว่า:
"การสูบบุหรี่เป็นฮะรอม"
แต่ยังมีกลุ่มที่ยืนหยัดในทัศนะว่า “บุหรี่ยังคงเป็นมุบาฮฺ” ด้วยเหตุผลที่น่าสนใจ
เหตุผลของทัศนะ “มุบาฮฺ” (อนุมัติ)
ผู้ที่สนับสนุนว่าบุหรี่ยังเป็น มุบาฮฺ ใช้หลักการต่าง ๆ เช่น:
อัลกุรอาน ซูเราะฮ์อัลบะเกาะเราะฮ์ 2:29
 
ٱلَّذِى خَلَقَ لَكُم مَّا فِى ٱلْأَرْضِ جَمِيعًۭا
 
“พระองค์ทรงสร้างสิ่งทั้งหลายในแผ่นดินให้แก่พวกเจ้า”
ซูเราะฮ์อัลอะอ์รอฟ 7:32
مَنْ حَرَّمَ زِينَةَ ٱللَّهِ ٱلَّتِىٓ أَخْرَجَ
“ใครบ้างที่ห้ามสิ่งที่ดีงามที่อัลลอฮ์ทรงให้ไว้แก่ปวงบ่าวของพระองค์?”
หะดีษ
«وَسَكَتَ عَنْ أَشْيَاءَ رَحْمَةً لَكُمْ، غَيْرَ نِسْيَانٍ، فَلَا تَبْحَثُوا عَنْهَا»
“...และพระองค์ (อัลลอฮ์) ได้ทรงนิ่งเงียบ (ไม่ได้กล่าวถึง) บางสิ่งไว้ เพื่อความเมตตาแก่พวกท่าน มิใช่เพราะพระองค์ลืม ดังนั้นจงอย่าแสวงหามัน (อย่าค้นเจาะหาสิ่งที่พระองค์ไม่ได้กล่าวไว้)” (อัด​-ดารุกุฏนีหะดีษหมายเลข 1832)
หลักการ อุมูม อัลบัลวา (عموم البلوى) ความแพร่หลาย:
สิ่งที่แพร่หลายจนหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถือว่าได้รับการผ่อนปรน
การเปรียบเทียบ (Qiyas) กับน้ำตาลและน้ำมันที่เป็นอันตรายบางระดับเช่นกัน แต่ไม่ถูกห้าม
คำตอบที่ค่อยๆ เปิดออก: การหักล้างทัศนะ "มุบาฮฺ"
แต่คำตอบเริ่มชัดเมื่อย้อนกลับไปดูที่ “ภาพรวม” และ “ผู้เชี่ยวชาญ”:
ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพพิสูจน์แล้วว่าบุหรี่ เป็นอันตรายโดยตรง
หลักการเดิม “อนุมัติ” ใช้กับสิ่งที่ไม่เป็นอันตราย
หะดีษที่อ้างถึง “สิ่งที่ถูกละไว้” ไม่ครอบคลุมสิ่งที่ก่อให้เกิดอันตราย
หลัก อุมูม อัลบัลวา ไม่ใช้กับสิ่งที่ ศาสนาห้ามอย่างชัดเจน
การเปรียบเทียบกับน้ำตาล/น้ำมัน ผิดเงื่อนไขการเปรียบเทียบ (Qiyas) เพราะน้ำตาลมีประโยชน์จริง แต่บุหรี่ ไม่มีประโยชน์ที่พิสูจน์ได้
ทัศนะ “ฮารอม” และคำวินิจฉัยร่วมสมัย
บรรดาอุลามาอ์และหน่วยงานฟัตวาในยุคปัจจุบัน เช่น:
คณะกรรมการฟัตวาแห่งซาอุดีอาระเบีย
ดร. ยูซุฟ อัลก็อรฎอวี
คณะฟัตวามาเลเซีย ปี 1995
ต่างเห็นพ้องว่า:
"การสูบบุหรี่เป็นฮารอมอย่างชัดเจน"
โดยอิงหลักฐาน เช่น:
تُلْقُوا۟ بِأَيْدِيكُمْ إِلَى
(อัลบะเกาะเราะฮ์ 2:195)
– ห้ามนำตัวเองสู่หายนะ
تَقْتُلُوٓا۟ أَنفُسَكُمْ إِنَّ ٱللَّهَ كَانَ بِكُمْ
(อันนิสาอ์ 4:29)
– ห้ามฆ่าตัวตาย (ทางตรงและทางอ้อม)
لا ضرر ولا ضرار
“ห้ามทำอันตราย (ต่อผู้อื่น) และห้ามตอบโต้ด้วยอันตราย” อิบนุ มาญะฮฺ หะดีษเลขที่ 2341
บทสรุป: เมื่อควันจางลง
บุหรี่เริ่มต้นในฐานะ “สิ่งที่ไม่แน่ใจ” แต่เมื่อวิทยาศาสตร์ให้แสงสว่าง ข้อมูลก็ชี้ไปทางเดียวกัน: บุหรี่เป็นพิษ
แม้จะมีผู้พยายามมองในแง่ดี แต่น้ำหนักของหลักฐานจากศาสนา วิทยาศาสตร์ สุขภาพ​ และสังคม​ กลับตอกย้ำคำตอบเดียว​ คือ ฮารอม
และเมื่อมีทางเลือกในการเลิกที่ง่ายกว่าเดิม ทั้งยา บริการ และคำแนะนำ
ยังมีเหตุผลใดที่เราจะยังสูบบุหรี่อีก?
วัลลอฮุอะอ์ลัม – และอัลลอฮ์ทรงรู้ดีที่สุด

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา