หน่วยงานความร่วมมือเพื่อกำกับดูแลกิจการพลังงานของยุโรป (European Union Agency for the Cooperation of Energy Regulators หรือ “ACER”) ให้ข้อมูลว่า เมื่อวันที่ 28 เมษายน ค.ศ. 2025 ได้เกิดเหตุไฟฟ้าดับขนาดใหญ่ (Large-Scale blackout) ในประเทศสเปนและโปรตุเกส
PWC ให้คำอธิบายในบทความชื่อ “Grid Modernization For Electric And Gas Utilities – A Strategy For Success” ว่า ในทางเทคนิคแล้ว ระบบโครงข่ายนั้นถูกพัฒนาโดยอาศัยเทคโนโลยีที่เพิ่มความเชื่อถือได้ของระบบโครงข่ายไฟฟ้าด้วยการทำให้ระบบโครงข่ายกลายเป็น “Smart Grid” นำเอามิเตอร์อัจฉริยะมาใช้ ทำให้การจ่ายไฟฟ้าเป็นโดยระบบอัตโนมัติ ระบบโครงข่ายที่จะต้องสามารถรองรับการไหลเวียนพลังงานสองทิศทาง (Two-Way Power Flow) อีกทั้งยังจะต้องมีศักยภาพที่จะป้องกันภัยทางไซเบอร์อีกด้วย
เพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของระบบโครงข่ายสมาร์ทกริดเป็นสิ่งที่ต้องมีการ “ลงทุน” และเป็นการลงทุนที่ “แพง” อีกด้วย PWC ได้เผยแพร่บทความชื่อ “Laying The Foundation For Sustainable, Long-Term Resiliency And Growth In Utilities” ให้ข้อมูลว่าการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของระบบโครงข่ายสมาร์ท กริดในสหรัฐอเมริกานั้นจะต้องใช้เงินถึง 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี ค.ศ. 2030 เมื่อการพัฒนาต้องใช้เงินลงทุนจึงเกิดคำถามตามมาว่า