29 พ.ค. เวลา 06:00 • อาหาร

6 อาหารช่วยลดอาการปวดหัวบ่อย บำรุงปลายประสาท ช่วยผ่อนคลาย

อาการปวดหัวบ่อยควรเลี่ยงยาบ่อยๆ หันมากินอาหารบำรุงประสาท เช่น อัลมอนด์ แซลมอน กล้วย พร้อมเทคนิคลดปวดที่ทำได้เลย!
หลายคนมีอาการปวดหัวบ่อย ไม่ว่าจะจากความเครียดสะสมหรือปัจจัยอื่นๆ ซึ่ง เมื่อเกิดขึ้นแล้วอาจทำให้บางคนไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ จำเป็นต้องทานยาระงับปวดดังกล่าว ซึ่ง ควรหยุดพฤติกรรมรับประทานยาแก้ปวดบ่อยๆ ได้แล้ว เพราะนอกจากจะทำให้ตับพังไม่รู้ตัว ยังเป็นการแก้ที่ปลายเหตุอีกด้วย รู้หรือไม่ ? มีอาหารบางชนิดช่วยบำรุงระบบประสาท ช่วยผ่อนคลาย มีวิตามิน ช่วยให้คุณผ่อนคลาย ลดการตึงเครียดของกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ บรรเทาการอักเสบของร่างกาย ทำให้คุณหายปวดหัวได้!
ข้าวโพด
6 อาหารลดอาการปวดหัวบ่อย
  • ข้าวโพด มีสารวิตามินบี3 สูง ช่วยลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ
  • อัลมอนด์ ช่วยบำรุงระบบประสาทและช่วยผ่อนคลายจากความตึงเครียด
  • ผักใบเขียว มีเส้นใยอาหารสูงและวิตามิน ลดอาการปวดศีรษะได้
  • แซลมอน อุดมไปด้วยโอเมก้า3 ลดการแข็งตัวของเลือด และบรรเทาอาการอักเสบ
  • กล้วย มีแมกนีเซียมสูง ช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลาย แก้อาการนอนไม่หลับได้
  • แตงโม มีแมกนีเซียมสูง บรรเทาอาการปวดหัวได้ดี
เทคนิคลดปวดหัว
  • นวดกดจุด และยืดกล้ามเนื้อ ลองนวดกดตรงกล้ามเนื้อบริเวณที่เรียกว่า Trapezius คือช่วงบ่า และ ไหล่ นวดกดไว้จนกล้ามเนื้อมัดที่จับเป็นก้อนเริ่มคลายตัว หลังจากนั้นให้ยืดกล้ามเนื้อคอ โดยใช้มือขวาดึงศีรษะเอียงไปด้านขวาค้างไว้ 10 วินาที แล้วสลับข้าง อาการปวดหัวจะผ่อนคลายลง
  • เติมน้ำให้ร่างกาย คนที่ปวดศีรษะเป็นประจำ ควรสังเกตตัวเองว่า เป็นคนไม่ค่อยดื่มน้ำหรือเปล่า การที่ร่างกายขาดน้ำคือสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ปวดศีรษะ ให้ดื่มน้ำเปล่าให้มากขึ้น หากไม่ชอบน้ำเปล่า ควรเปลี่ยนมาเป็นน้ำมะนาวใส่น้ำผึ้ง หรือน้ำขิงอุ่นๆ หรือ ชาเปปเปอร์มิ้นท์ ที่มีกลิ่นที่ช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะลงได้
  • ออกกำลังกาย ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังสมอง และยังทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมน ที่เป็นสารบรรเทาอาการปวดตามธรรมชาติในร่างกาย
  • ดมกลิ่นน้ำมันหอมระเหย อาทิ น้ำมันเปปเปอร์มิ้นต์ หรือลาเวนเดอร์ที่มีคุณสมบัติช่วยลดอาการปวดหัว ความเครียด หรือไมเกรนได้โดยตรง
ทั้งนี้หากมีอาการ ไม่มีอาการคลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วยตาไม่พร่ามัว มองไม่เบลอไม่มีอาการแขนขาอ่อนแรงอาการปวดหัวแต่ละครั้งไม่ได้รุนแรงขึ้นกว่าเดิม ควรรีบพบแพทย์โดยด่วน
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลพญาไท พหลโยธิน และ สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร
อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ : https://www.pptvhd36.com/health/food/7001
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://www.pptvhd36.com
และช่องทาง Social Media
โฆษณา