31 พ.ค. เวลา 14:43 • ไลฟ์สไตล์
Bangkok Thailand

ปัญญาประดิษฐ์ตัดสินใจแทนเราได้แค่ไหน? คำถามด้านจริยธรรมที่ยังไร้คำตอบ

ผู้เขียน: นางสาวอมาวสี วิริยะนุเคราะห์
ในยุคที่ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) พัฒนาอย่างรวดเร็วและเข้ามามีบทบาทในการตัดสินใจที่มีผลกระทบต่อชีวิตมนุษย์ ตั้งแต่กระบวนการยุติธรรม การแพทย์ การเงิน ไปจนถึงการจัดสรรทรัพยากร คำถามสำคัญจึงอยู่ที่ว่า เราควรมอบอำนาจในการตัดสินใจให้ AI มากเพียงใด และผลกระทบทางจริยธรรมจากการกระทำของ AI ควรได้รับการกำกับอย่างไร บทความนี้นำเสนอกรณีศึกษาในระดับนานาชาติและประเทศไทย เพื่อชี้ให้เห็นประเด็นจริยธรรมหลัก
เช่น ความโปร่งใส ความลำเอียงของอัลกอริธึม ความรับผิดทางกฎหมาย และสิทธิของผู้ได้รับผลกระทบ พร้อมทั้งเสนอแนวทางเชิงนโยบายสำหรับการออกแบบระบบกำกับดูแล AI ที่มีจริยธรรมและความรับผิดชอบ
AI ไม่ใช่เพียงเครื่องมือในการประมวลผลข้อมูลอีกต่อไป แต่ได้กลายเป็นระบบที่สามารถตัดสินใจในขอบเขตของข้อมูลและอัลกอริธึม ตัวอย่างเช่น ระบบคัดกรองผู้สมัครงาน การวินิจฉัยทางการแพทย์ หรือแม้แต่การตัดสินโทษจำคุกในบางประเทศ เช่น กรณีระบบ COMPAS ในสหรัฐอเมริกา (Angwin et al., 2016) ปัญหาคือ เราควรมอบอำนาจในการตัดสินใจให้ AI มากน้อยเพียงใด และใครควรรับผิดชอบเมื่อเกิดความผิดพลาด
ศักยภาพและข้อจำกัดของ AI ในการตัดสินใจ AI มีความสามารถในการประมวลผลข้อมูลจำนวนมหาศาลอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ยังขาดความสามารถในการตีความบริบททางสังคมหรือจริยธรรมอย่างลึกซึ้ง เช่น การเข้าใจเจตนา แรงจูงใจ หรือค่านิยมที่แตกต่างกันตามวัฒนธรรม นอกจากนี้ การฝึก AI ด้วยข้อมูลในอดีตที่มีอคติอาจนำไปสู่การตอกย้ำความไม่เท่าเทียมเดิม (O'Neil, 2016)
ประเด็นจริยธรรมหลัก
1. ความโปร่งใส: ระบบ AI โดยเฉพาะที่ใช้ deep learning มักเป็น "กล่องดำ" (black box) ที่ตรวจสอบได้ยาก ทำให้ผู้ได้รับผลกระทบไม่สามารถทราบเหตุผลเบื้องหลังคำตัดสิน หรือยื่นอุทธรณ์อย่างเป็นธรรม (Burrell, 2016)
2. ความลำเอียงและความเป็นธรรม: กรณี COMPAS แสดงให้เห็นว่า AI สามารถสะท้อนและขยายอคติทางเชื้อชาติได้อย่างไม่ตั้งใจ อันเป็นผลจากข้อมูลฝึกสอนที่มีอคติในอดีต
3. ความรับผิด: ปัจจุบันยังไม่มีกรอบกฎหมายระดับนานาชาติที่ชัดเจนว่า หาก AI ทำให้เกิดผลเสีย ใครควรรับผิดชอบ ระหว่างโปรแกรมเมอร์ บริษัทผู้พัฒนา หรือ AI เอง (Calo, 2015)
4. สิทธิมนุษยชนและเจตจำนงเสรี: การปล่อยให้ AI ตัดสินใจแทนมนุษย์ในบางกรณี อาจลดทอนเสรีภาพและศักดิ์ศรีของปัจเจกบุคคล โดยเฉพาะในระบบที่ไม่มีช่องทางให้มนุษย์เข้าแทรกแซง
กรอบจริยธรรมและกฎหมายระหว่างประเทศ องค์กร
ระดับนานาชาติ เช่น OECD (2019), UNESCO (2021)
และคณะกรรมาธิการยุโรป ต่างเสนอกรอบจริยธรรม
ในการพัฒนา AI โดยเน้นหลักการ เช่น ความโปร่งใส
ความไม่เลือกปฏิบัติ การรับผิดชอบ และการเคารพสิทธิมนุษยชน อย่างไรก็ตาม การนำนโยบายไปใช้จริงยังเผชิญข้อจำกัด โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนา
กรณีศึกษาในประเทศไทย ประเทศไทยเริ่มนำ AI มาใช้ในหลายภาคส่วน เช่น การสาธารณสุข เกษตรกรรม และระบบตรวจสอบของรัฐ กรณีที่น่าสนใจคือ การใช้ระบบจดจำใบหน้า (facial recognition) โดยหน่วยงานความมั่นคงและตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งถูกวิจารณ์เรื่องการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและขาดความโปร่งใส โดยเฉพาะในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ (iLaw, 2021)
อีกกรณีคือแอปพลิเคชันติดตามผู้ติดเชื้อโควิด-19 เช่น "หมอชนะ" ที่ใช้ AI ในการวิเคราะห์ความเสี่ยง ซึ่งจุดประเด็นถกเถียงด้านความยินยอมและการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในช่วงที่กฎหมายยังไม่สมบูรณ์
กรณีเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า แม้หลักจริยธรรมจะมีลักษณะสากล แต่การนำไปใช้ต้องพิจารณาภูมิหลังทางวัฒนธรรม การเมือง และศักยภาพของรัฐในการกำกับดูแล
➡️ข้อเสนอเชิงนโยบาย
1. ออกกฎหมายที่มีผลบังคับใช้จริง เพื่อกำกับดูแลความรับผิดและความโปร่งใสของระบบ AI
2. ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการกำหนดหลักจริยธรรม AI
3. สนับสนุนความร่วมมือระดับภูมิภาคและนานาชาติในการกำกับดูแลเทคโนโลยี AI
4. เสริมสร้างบทบาทของภาคประชาสังคมและองค์กรอิสระในการตรวจสอบการใช้ AI
AI มีศักยภาพในการสนับสนุนการตัดสินใจของมนุษย์ในหลายบริบท แต่ไม่ควรแทนที่วิจารณญาณและศีลธรรมของมนุษย์ การออกแบบระบบ AI ที่มีจริยธรรมและรับผิดชอบจึงเป็นภารกิจสำคัญที่ไม่อาจละเลย หากเราต้องการให้เทคโนโลยีนี้เป็นเครื่องมือรับใช้มนุษยชาติ ไม่ใช่ผู้ควบคุม
บรรณานุกรม:
Angwin, J., Larson, J., Mattu, S., & Kirchner, L. (2016).
Machine Bias. ProPublica. Burrell, J. (2016).
How the machine ‘thinks’: Understanding opacity in machine learning algorithms. Big Data & Society. Calo, R. (2015).
Robotics and the Lessons of Cyberlaw. California Law Review. OECD. (2019).
Principles on Artificial Intelligence. O’Neil, C. (2016).
Weapons of Math Destruction. Crown Publishing. Topol, E. (2019).
Deep Medicine. Basic Books. UNESCO. (2021).
Recommendation on the Ethics of Artificial Intelligence. European Commission. (2020).
White Paper on Artificial Intelligence. iLaw. (2021).
Facial Recognition and Rights in Southern Thailand. iLaw Human Rights Reports.
โฆษณา