Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Vate's Pharma Scope
•
ติดตาม
24 มิ.ย. เวลา 13:30 • สุขภาพ
บทความพิเศษ สัปดาห์เภสัชกรรม EP 04 เภสัชกรคุ้มครองผู้บริโภค ผู้พิทักษ์มาตรฐานยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพ
อีกหนึ่งบทบาทของเภสัชกรที่ผมคิดว่าหลายคนอาจจะไม่ค่อยรู้จัก นั่นก็คือเภสัชกรคุ้มครองผู้บริโภค หน้าที่หลักคือการเป็น "ด่านหน้า" ที่คอยดูแลความปลอดภัยด้านยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพให้กับประชาชน คำถามที่มักจะเจอเช่น "กินยาตัวนี้แล้วมีผื่นขึ้น แบบนี้ปกติหรือเปล่าครับ" หรือ "อาหารเสริมตัวนี้ เห็นเขาว่าแก้ปวดข้อเข่าได้ มันปลอดภัยไหม"
คำถามเหล่านี้สะท้อนความจริงที่สำคัญว่า แม้ยาจะผ่านการทดลองมาอย่างดีเยี่ยม แต่ความปลอดภัยที่แท้จริงจะถูกพิสูจน์เมื่อยาถูกใช้โดยคนจำนวนมากในชีวิตจริง และนี่คือภารกิจของเภสัชกรคุ้มครองผู้บริโภค...บทความนี้ผมจะพาทุกท่านไปรู้จักกับโลกของ "การเฝ้าระวังความปลอดภัยของยา" (Pharmacovigilance) ผ่านมุมมองของเภสัชกรที่ทำงานในพื้นที่ และแสดงให้เห็นว่าเสียงของท่านมีความสำคัญต่อระบบความปลอดภัยนี้อย่างไร
ทำไมยาที่ผ่านการอนุมัติแล้วยังต้องเฝ้าระวัง?
อย่างที่เกริ่นไปครับ การทดลองทางคลินิก (Clinical Trials) แม้จะเข้มงวด แต่ก็มีข้อจำกัดอยู่บ้าง ทั้งในแง่ของจำนวนคน ระยะเวลา และความหลากหลายของกลุ่มตัวอย่าง ดังนั้น อาการไม่พึงประสงค์ที่พบได้ยาก (เช่น เกิดขึ้น 1 ใน 10,000 คน) หรือที่เกิดขึ้นเมื่อใช้ยาเป็นเวลานาน อาจไม่ถูกตรวจพบในการทดลองระยะแรก
นี่คือช่องว่างสำคัญที่ระบบ การเฝ้าระวังหลังยาออกสู่ตลาด (Post-Marketing Surveillance) และบทบาทของเภสัชกรคุ้มครองผู้บริโภคต้องเข้ามาเติมเต็ม เพื่อให้มั่นใจว่ายาที่ทุกคนใช้ มีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยงอย่างแท้จริงครับ
ระบบ Pharmacovigilance ทำงานอย่างไร?
ทุกท่านลองนึกภาพถึงเครือข่ายใยแมงมุมขนาดมหึมาที่เชื่อมต่อกันทั่วโลกนะครับ นั่นคือระบบ Pharmacovigilance โดยมีเป้าหมายเพื่อ ตรวจจับ ประเมิน ทำความเข้าใจ และป้องกัน ผลเสียจากยา กระบวนการหลักๆ มีดังนี้
การรวบรวมข้อมูล (Monitoring): รวบรวมรายงานอาการไม่พึงประสงค์จากทุกแหล่ง ทั้งแพทย์ พยาบาล เภสัชกรโรงพยาบาล ร้านยา และที่สำคัญที่สุดคือ รายงานตรงจากผู้ป่วย ผ่านเภสัชกรคุ้มครองผู้บริโภค
การตรวจจับสัญญาณ (Signal Detection): ข้อมูลมหาศาลจะถูกนำไปวิเคราะห์เพื่อหาสัญญาณความผิดปกติ เช่น ยา A อาจสัมพันธ์กับการเกิดภาวะตับอักเสบเพิ่มขึ้นในประชากรกลุ่มหนึ่ง
การประเมินความเสี่ยง (Risk Assessment): เมื่อพบสัญญาณเตือน ผู้เชี่ยวชาญจะสืบสวนเชิงลึกเพื่อยืนยันว่าเป็นความเสี่ยงจริงและประเมินความรุนแรง
การจัดการ (Action): หากยืนยันความเสี่ยง อาจนำไปสู่การเปลี่ยนข้อมูลบนฉลากยา การแจ้งเตือนบุคลากรทางการแพทย์ หรือในกรณีเลวร้ายที่สุด คือการถอนยาออกจากตลาด เดี๋ยวมีเคสตัวอย่างมาเล่าให้ฟังครับ
กรณีศึกษาที่ต้องจำ... บทเรียนจากยา Vioxx
ตัวอย่างสุดคลาสสิกคือ ยาแก้ปวด Vioxx (rofecoxib) ที่เคยโด่งดังมากในอดีต แต่สุดท้ายระบบเฝ้าระวังทั่วโลกก็ตรวจพบ "สัญญาณ" ที่ชี้ว่ายาตัวนี้เพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะหัวใจวายและหลอดเลือดสมองอย่างมีนัยสำคัญ จนต้องถูกถอนออกจากตลาดไปในปี 2004 เหตุการณ์นี้เป็นเครื่องย้ำเตือนว่าทุกรายงานจากผู้ป่วยและบุคลากรด่านหน้ามีความสำคัญมหาศาล และเป็นสิ่งที่เภสัชกรคุ้มครองผู้บริโภค ให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกครับ
เภสัชกรคุ้มครองผู้บริโภค ทำอะไรบ้าง?
แล้วบทบาทของเภสัชกรคุ้มครองผู้บริโภคเข้ามาเชื่อมต่อกับระบบใหญ่นี้ตรงไหน? พูดง่ายๆ คือ "หน่วยรับข้อมูลภาคสนาม" และ "ผู้ปฏิบัติการด่านหน้า" ภารกิจหลักๆ คือ
1. รับเรื่องร้องเรียนและรายงานอาการไม่พึงประสงค์: ตรงนี้คือจุดแรกที่ประชาชนจะสามารถเข้ามาปรึกษาและแจ้งปัญหาการใช้ยาได้โดยตรง ณ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ หรือโรงพยาบาลทั่วประเทศ (ในโรงพยาบาลก็จะมีเภสัชกรที่ทำงานด้านคุ้มครองผู้บริโภคอยู่เหมือนกัน)
2. สืบสวนและรวบรวมข้อมูลเบื้องต้น: เมื่อได้รับรายงาน ก็จะซักประวัติและรวบรวมข้อมูลที่จำเป็นอย่างละเอียด เพื่อให้รายงานมีความสมบูรณ์ที่สุดสำหรับส่งไปวิเคราะห์ต่อ
3. ส่งต่อข้อมูลไปยังศูนย์กลาง: รายงานทั้งหมดจะถูกส่งต่อไปยัง ศูนย์เฝ้าระวังความปลอดภัยด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพ (HPVC) ของ อย. ซึ่งเป็นศูนย์กลางของประเทศไทยในการวิเคราะห์ข้อมูลในภาพใหญ่ และเชื่อมต่อกับเครือข่ายระดับโลก
4. เฝ้าระวังเชิงรุก: นอกจากรอรับรายงานแล้ว เภสัชกรคุ้มครองผู้บริโภคยังทำงานเชิงรุก เช่น การลงพื้นที่ตรวจสอบร้านยา คลินิก หรือโรงพยาบาล เพื่อควบคุมมาตรฐานและตรวจจับยาที่ผิดกฎหมาย ยาปลอม หรือยาที่ไม่ได้คุณภาพ
5. สื่อสารและให้ความรู้: ตรงนี้คือการให้ความรู้กับประชาชนโดยตรง ให้เข้าใจถึงสิทธิของตนเอง วิธีการใช้ยาที่ถูกต้อง และกระตุ้นให้กล้าที่จะรายงานเมื่อพบความผิดปกติ
ดังนั้น เภสัชกรคุ้มครองผู้บริโภคจึงเปรียบเสมือน "จิกซอว์ชิ้นสำคัญ" ที่เชื่อมต่อระหว่างความกังวลของประชาชน เข้ากับระบบเฝ้าระวังความปลอดภัยของประเทศและของโลกครับ
เสียงของคุณคือสัญญาณเตือนที่สำคัญที่สุด
ความปลอดภัยของยาไม่ใช่หน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็น ความรับผิดชอบร่วมกัน ของทั้งระบบ ตั้งแต่หน่วยงานกำกับดูแลระดับโลก บริษัทผู้ผลิตยา บุคลากรทางการแพทย์ และที่ขาดไม่ได้เลยคือ ตัวผู้ใช้ยาเอง
ผมในฐานะเภสัชกรคุ้มครองผู้บริโภค (อยู่หลายงานจังตัวผม 😅) อยากจะบอกทุกท่านว่า อย่ามองว่าอาการผิดปกติหลังใช้ยาเป็นเรื่องเล็กน้อย หรือคิดว่า "เดี๋ยวก็คงหาย" เพราะ "เสียง" ของคุณอาจเป็นสัญญาณแรกที่ช่วยชีวิตผู้คนอีกนับล้านได้ในอนาคตก็เป็นได้
1
และหากคุณหรือคนใกล้ชิดพบอาการไม่พึงประสงค์ที่สงสัยว่าอาจเกิดจากยาหรือผลิตภัณฑ์สุขภาพ อย่าลังเลที่จะปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร และท่านสามารถติดต่อมาที่ กลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคและเภสัชสาธารณสุข ณ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ที่ท่านอาศัยอยู่ได้เสมอ
เพราะความปลอดภัยของคุณ คือภารกิจของพวกเราเภสัชกรคุ้มครองผู้บริโภคครับ
แหล่งอ้างอิง:
Pro Pharma Research Organization. (n.d.). Pharmacovigilance in Post-Marketing Surveillance: Ensuring Drug Safety in LATAM.
เภสัชกรรม
สุขภาพ
เภสัชกร
1 บันทึก
8
3
4
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
Pharmacy Anywhere เภสัชกรใกล้คุณ
1
8
3
4
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย