Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Vate's Pharma Scope
•
ติดตาม
26 มิ.ย. เวลา 13:30 • สุขภาพ
บทความพิเศษ สัปดาห์เภสัชกรรม EP 06 เภสัชกรนักวิจัยและนักวิชาการ ผู้สร้างบุคลากรรุ่นใหม่
เคยสงสัยกันไหมครับว่ากว่าที่เภสัชกรหนึ่งคนจะมายืนให้คำปรึกษาเรื่องยาแก่คุณได้นั้น พวกเขาต้องผ่านการเรียนรู้อะไรมาบ้าง และใครคือผู้อยู่เบื้องหลังการสร้างสรรค์องค์ความรู้ใหม่ๆ ที่ทำให้ยามีประสิทธิภาพและปลอดภัยยิ่งขึ้น
คำตอบของคำถามเหล่านี้อยู่ในบทบาทที่หลายคนอาจไม่ค่อยได้สัมผัสโดยตรง นั่นคือ "เภสัชกรนักวิชาการและนักวิจัย" ซึ่งเป็นทั้งครูผู้สร้างคนและนักวิทยาศาสตร์ผู้สร้างนวัตกรรมในคนเดียวกัน การพัฒนาเภสัชกรให้เป็นนักวิจัยนั้น เป็นรากฐานที่สำคัญที่สุดของกระบวนการนี้ เริ่มต้นมาจากในคณะเภสัชศาสตร์นี่เองครับ
สองบทบาทในหนึ่งเดียว อาจารย์ผู้สอนและนักวิจัยผู้สร้างสรรค์
ภาพของเภสัชกรในบทบาทนี้คือการเป็น "อาจารย์" ในคณะเภสัชศาสตร์ทั่วประเทศ พวกเขาคือผู้ที่ทำหน้าที่หลักในการสอนและบ่มเพาะนักศึกษาเภสัชศาสตร์ตลอดหลักสูตร 6 ปีอันเข้มข้น หลักสูตรนี้ไม่ได้สอนแค่ว่ายาชนิดไหนใช้รักษาโรคอะไร แต่ครอบคลุมตั้งแต่พื้นฐานทางวิทยาศาสตร์เคมี ชีววิทยา ไปจนถึงการเรียนรู้เกี่ยวกับร่างกายมนุษย์ กลไกการเกิดโรค การออกฤทธิ์ของยา การสกัดและสังเคราะห์ตัวยา การออกแบบยาในรูปแบบต่างๆ (เช่น ยาเม็ด ยาน้ำ ยาฉีด) รวมถึงการบริหารจัดการเรื่องยา และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
เรียกได้ว่าเป็นการเดินทางที่ยาวนานและต้องใช้ความทุ่มเทอย่างสูงกว่าจะสำเร็จการศึกษาออกมาเป็นเภสัชกรที่พร้อมดูแลประชาชนได้
แต่บทบาทของอาจารย์เภสัชกรไม่ได้จบอยู่แค่ในห้องบรรยายครับ อีกหมวกหนึ่งที่พวกเขาสวมอยู่เสมอคือการเป็น "นักวิจัย" พวกเขาคือกลุ่มคนที่ทำงานในห้องปฏิบัติการเพื่อศึกษา ค้นคว้า และตอบคำถามที่ยังไม่มีใครรู้เกี่ยวกับยาและสุขภาพ ตั้งแต่การค้นหาสารออกฤทธิ์ชนิดใหม่ๆ จากสมุนไพรในบ้านเรา การพัฒนาระบบนำส่งยาที่ล้ำสมัยเพื่อให้ยาออกฤทธิ์ตรงจุดและลดผลข้างเคียง ไปจนถึงการศึกษานโยบายการใช้ยาในระดับประเทศเพื่อพัฒนาระบบสาธารณสุขโดยรวม
งานวิจัยในคณะเภสัชศาสตร์ของไทยนั้นมีผลงานที่น่าสนใจและจับต้องได้มากมาย ซึ่งล้วนมีเป้าหมายเพื่อแก้ปัญหาสุขภาพของคนไทยและมวลมนุษยชาติ ตัวอย่างเช่น
การวิจัยสมุนไพรไทย ในช่วงการระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา ทุกคนคงรู้จัก "ฟ้าทะลายโจร" กันเป็นอย่างดี เบื้องหลังการยอมรับในวงกว้างนั้น มาจากงานวิจัยของคณาจารย์เภสัชฯ หลายสถาบัน เช่น คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ได้ศึกษาสารสำคัญ "แอนโดรกราโฟไลด์" ในฟ้าทะลายโจร เพื่อควบคุมคุณภาพและกำหนดขนาดการใช้ที่เหมาะสมในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการไม่รุนแรง
นี่คือตัวอย่างที่ชัดเจนของการนำภูมิปัญญาดั้งเดิมมาพิสูจน์และต่อยอดด้วยวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ (แม้ปัจจุบันจะมีคำแนะนำว่าไม่ให้ใช้ในคนไข้โควิดแล้วก็ตาม)
นวัตกรรมระบบนำส่งยา อาจารย์นักวิจัยจากคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้พัฒนานวัตกรรม "อนุภาคนาโน" เพื่อใช้กักเก็บสารสกัดจากพืชที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ เทคโนโลยีนี้ช่วยเพิ่มความคงตัวของสารสำคัญและอาจนำไปสู่การพัฒนายาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นในอนาคต
การพัฒนาชุดตรวจ ทีมนักวิจัยจากคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ยังได้พัฒนา "ชุดตรวจแบบรวดเร็ว" (Test Kit) สำหรับการตรวจสารต่างๆ เช่น ชุดตรวจการปนเปื้อนของฟอร์มาลินในอาหารทะเล หรือชุดตรวจสารก่อภูมิแพ้ในอาหาร นวัตกรรมเหล่านี้ช่วยให้ผู้บริโภคและผู้ประกอบการสามารถตรวจสอบคุณภาพและความปลอดภัยของอาหารได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น
งานวิจัยเหล่านี้คือส่วนหนึ่งของความพยายามในการสร้างองค์ความรู้และนวัตกรรมขึ้นเองภายในประเทศ เพื่อลดการพึ่งพาจากต่างชาติและสร้างความมั่นคงทางยาและสุขภาพให้กับคนไทย
มากกว่าผู้สอน คือผู้สร้างแรงบันดาลใจ
บทบาทที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของอาจารย์เภสัชกร คือการเป็น "ที่ปรึกษา" และ "ผู้สร้างแรงบันดาลใจ" ให้กับนักศึกษา พวกเขาไม่ได้เพียงแค่ถ่ายทอดความรู้ในตำรา แต่ยังเป็นพี่เลี้ยงที่คอยให้คำแนะนำในการทำโครงการวิจัยของนักศึกษา จุดประกายความอยากรู้อยากเห็น และสนับสนุนให้นักศึกษากล้าที่จะตั้งคำถามและค้นหาคำตอบด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
อาจารย์หลายท่านคือต้นแบบที่ทำให้นักศึกษาจำนวนไม่น้อยเลือกที่จะเดินบนเส้นทางของนักวิจัยหรือศึกษาต่อในระดับสูง เพื่อกลับมาเป็นพลังในการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ต่อไป
องค์ความรู้และงานวิจัยที่เกิดขึ้นในมหาวิทยาลัยจะเกิดประโยชน์สูงสุดเมื่อถูกนำไปต่อยอดให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ประชาชนสามารถเข้าถึงได้จริง นี่คือจุดที่ความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยกับภาคอุตสาหกรรมเข้ามามีบทบาทสำคัญ มหาวิทยาลัยมีความเชี่ยวชาญในการวิจัยและพัฒนาขั้นพื้นฐาน ในขณะที่บริษัทเอกชนมีความพร้อมด้านเงินทุน เทคโนโลยีการผลิตขนาดใหญ่ และการตลาด
เมื่อสองภาคส่วนนี้ทำงานร่วมกัน งานวิจัยจากห้องแล็บก็จะสามารถกลายเป็นยา นวัตกรรม หรือผลิตภัณฑ์สุขภาพที่วางจำหน่ายในท้องตลาดได้สำเร็จ ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน แต่ยังสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศอีกด้วย
เบื้องหลังความสำเร็จของวงการสาธารณสุขและเภสัชกรรม มีพลังขับเคลื่อนที่สำคัญจากกลุ่มคนที่เรียกว่า "เภสัชกรนักวิชาการและนักวิจัย" ซ่อนอยู่ พวกเขาคือผู้สร้างเภสัชกรรุ่นแล้วรุ่นเล่า และในขณะเดียวกันก็เป็นผู้บุกเบิกองค์ความรู้ใหม่ๆ ที่เป็นรากฐานของการพัฒนายาและการดูแลสุขภาพอย่างไม่หยุดนิ่ง
ดังนั้น เภสัชกรที่คุณพบในวันนี้ ไม่ได้มีเพียงความรู้ที่เรียนจบมาเมื่อหลายปีก่อน แต่ความรู้ของพวกเขานั้นถูกปรับปรุงและพัฒนาอยู่เสมอผ่านกระบวนการวิจัยและพัฒนาที่เกิดขึ้นในรั้วมหาวิทยาลัย
2
แหล่งอ้างอิง
Unni, E., & Kellar, J. (2025). Role of pharmacy education and pharmacy practice in developing pharmacists as researchers. International Journal of Pharmacy Practice, 33(2), 131–133.
เภสัชกรรม
สุขภาพ
เภสัชกร
1 บันทึก
8
6
3
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
Pharmacy Anywhere เภสัชกรใกล้คุณ
1
8
6
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย