🍻 จากเบียร์ต้องห้ามสู่ธุรกิจน้ำหวาน Murree Brewery พลิกเกมในดินแดนที่ห้ามแอลกอฮอล์
🍹 From Booze to Beverages — Pakistan’s Murree Brewery Shifts Gears Amid Alcohol Ban
📌 ในประเทศที่แอลกอฮอล์ “ผิดกฎหมาย” — โรงเบียร์ใหญ่สุดของปากีสถานกลับเติบโตได้ยังไง?
Murree Brewery คือบริษัทผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดของปากีสถาน — ประเทศที่ออกกฎหมายห้ามขายแอลกอฮอล์ให้กับประชากรมุสลิมมาตั้งแต่ทศวรรษ 1970 ยกเว้นเพียงกลุ่มศาสนาอื่น ซึ่งมีอยู่ไม่ถึง 4% ของประชากรทั้งประเทศ
แต่ท่ามกลางข้อจำกัดมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมราคาโดยรัฐ การเก็บภาษีสูงลิ่ว (มากถึง 35 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี) และการห้ามโฆษณา Murree Brewery กลับยังยืนหยัดและทำกำไรต่อเนื่องจาก “ตลาดเล็กแต่ยอมจ่าย” โดยเฉพาะกลุ่มชนชั้นสูงและชาวต่างชาติ
🥤 ยุทธศาสตร์ใหม่: หันมาโฟกัส "เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์" เต็มตัว
ด้วยข้อจำกัดจากรัฐที่แทบไม่มีช่องทางให้เติบโตต่อในตลาดแอลกอฮอล์ Isphanyar Bandhara ทายาทรุ่นที่ 3 ของกิจการจึงตัดสินใจหันมา “ปั้นธุรกิจฝั่งน้ำหวาน” ให้ไปได้ไกลกว่าเดิม โดยอาศัยฐานการผลิตเดิมใน Rawalpindi ขยายไปสู่ตลาดพลังงานดื่ม น้ำผลไม้ และมอลต์ดริ้งค์
สิ่งที่น่าสนใจคือตลาดเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ในปากีสถานใหญ่มหาศาล มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ และเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มคนอายุต่ำกว่า 30 ปี ซึ่งคิดเป็นถึง 64% ของประเทศ — จุดแข็งที่ Murree กำลังหวังจะใช้บุกเบิกตลาดนี้ให้แตกต่างจาก Pepsi และ Coca-Cola
🇵🇰 เมื่อการดื่มกลายเป็น "เรื่องต้องซ่อน" แต่ก็ไม่เคยหายไปจากสังคม
แม้จะมีบทลงโทษที่เข้มงวดตามกฎหมายอิสลาม แต่การดื่มแอลกอฮอล์ในหมู่ชาวปากีสถานยังคงดำเนินอยู่แบบหลบๆ ซ่อนๆ เช่น การซื้อเบียร์ในรถยนต์ การรินในกาแทนขวด และการเปิด “ห้องลับ” ในโรงแรมระดับ 5 ดาว
ความต้องการที่ยังคงอยู่ ทำให้ Murree Brewery ยังผลิตเบียร์และเหล้าสำหรับตลาดจำกัดภายในประเทศ พร้อมส่งออกไปยังประเทศที่ไม่อยู่ในกลุ่ม OIC (ประเทศมุสลิม 57 ประเทศ)
🌏 บทเรียนจาก Murree Brewery ที่ไทยควรจับตา
✅ Soft Drink = Safe Bet: ความมั่นคงของตลาดเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ คือบทเรียนสำคัญที่ธุรกิจในประเทศอิสลามหรือพื้นที่กฎหมายเข้มงวดควรศึกษา
🧠 Adapt or Die: การปรับตัวของธุรกิจเก่าแก่อายุ 165 ปี เป็นบทพิสูจน์ว่า แม้ในสภาพแวดล้อมที่จำกัด ธุรกิจก็สามารถขยายแนวรบใหม่ได้ หากมองเห็นจังหวะ
🧩 “รูปแบบการบริโภคแบบปิด” คือโอกาสใหม่: จากการดื่มใน “พื้นที่ลับ” หรือ “การส่งถึงรถ” ธุรกิจที่สามารถตอบสนองพฤติกรรมแบบนี้ได้ อาจกลายเป็นแพลตฟอร์มใหม่ที่แตกต่าง
💥 กระทบหุ้นไทยอย่างไร?
📦 🟩 AAI (เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล) — ผู้ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง แต่มีแนวโน้มขยายสู่ตลาด Human Food ซึ่งรวมถึงเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ หาก AAI หันมาโฟกัสสินค้าสำหรับตลาด “สุขภาพ-ไม่แอลกอฮอล์” แบบที่ Murree กำลังทำ อาจสร้างโอกาสใหม่ทั้งในไทยและตลาดส่งออก
🍹 🟩 SAPPE (เซ็ปเป้) — ผู้นำเครื่องดื่มนวัตกรรมเพื่อสุขภาพ ที่สามารถต่อยอดจากบทเรียนของ Murree สู่ตลาดในประเทศที่จำกัดแอลกอฮอล์ โดยปรับแบรนด์และแพ็กเกจให้ตอบโจทย์ลูกค้าท้องถิ่นได้
🧃 🟩 ICHI (อิชิตัน กรุ๊ป) — หากสามารถพัฒนาเครื่องดื่มที่มีรูปลักษณ์หรือรสชาติใกล้เคียงกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แบบ “ไร้แอลกอฮอล์” (Non-Alcoholic Beer/Soju) เพื่อเจาะตลาดใหม่ในเอเชียตะวันออกกลาง อาจเปิดโอกาสขยายฐานผู้บริโภคได้
📈 🟩 SCGP (เอสซีจี แพคเกจจิ้ง) และ 🟩 BGC (บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส) — อุตสาหกรรมแพคเกจจิ้งอาจได้ประโยชน์จากการเติบโตของเครื่องดื่มแบบบรรจุขวดคล้ายเบียร์ โดยเฉพาะในตลาดใหม่ที่ต้องการความ "เนียนตา"
🌍 🟩 III (ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์) และ 🟩 SONIC (โซนิค อินเตอร์เฟรท) — หากไทยกลายเป็นฐานการผลิตเครื่องดื่ม Non-Alcoholic แบบใหม่เพื่อส่งออกไปประเทศมุสลิมหรือเอเชียใต้ กลุ่มโลจิสติกส์จะได้รับอานิสงส์แน่นอน
🗣️ แล้วคุณล่ะ? คิดว่าไทยควรพัฒนา “เครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์” ให้ใกล้เคียงกับเบียร์หรือวิสกี้ เพื่อเจาะตลาดใหม่ในโลกที่เปลี่ยนไปหรือไม่?
แสดงความคิดเห็นของคุณได้เลยนะคะ 💬👇
🔖 Hashtags:
#ศึกโลกเศรษฐกิจ #ธุรกิจใต้ข้อจำกัด #ตลาดเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ #SoftDrinkEconomy #MurreeBrewery #ห้ามแต่ขายได้ #เศรษฐกิจใต้รัฐอิสลาม #ธุรกิจเปลี่ยนเกม #SETImpact #WorldScope
📎 Reference: Latestly
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
