8 ก.ค. เวลา 02:25 • สัตว์เลี้ยง

Pawdoc station EP.23 : จากการ์ฟิลด์ถึงแมวที่บ้านคุณ พฤติกรรมที่อาจสะท้อนโรคเบาหวาน

Garfield แมวการ์ตูนขวัญใจใครหลายคน โดดเด่นด้วยความอ้วนตุ้ยนุ้ย ขี้เกียจ และกินลาซานญ่าไม่รู้จักพอ พฤติกรรมเหล่านี้อาจจะดูน่ารักในโลกของแอนิเมชั่น แต่ถ้าแมวในบ้านเรามีพฤติกรรมแบบนี้ บางทีเจ้าของอาจต้องเริ่มตั้งคำถามว่า “แมวของเราเริ่มเสี่ยงเป็นเบาหวานหรือเปล่า?” เพราะโรคนี้สามารถเกิดขึ้นกับแมวได้ และหากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม อาจส่งผลร้ายแรงต่อสุขภาพในระยะยาว
เบาหวานในแมวเป็นโรคเรื้อรังที่พบมากขึ้น โดยเฉพาะในยุคที่สัตว์เลี้ยงมีวิถีชีวิตคล้ายคน เช่น การกินอาหารตามใจ ขาดกิจกรรมทางกาย และอยู่ในบ้านที่ไม่มีพื้นที่ให้เคลื่อนไหวอย่างเพียงพอ ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ส่งผลให้เกิดภาวะอ้วน และความผิดปกติของระบบเมตาบอลิซึมในแมว โดยเฉพาะแมวโตหรือแมวสูงวัยที่เคลื่อนไหวน้อยอยู่แล้ว
-----
🤒เบาหวานในแมวคืออะไร?
โรคเบาหวานในแมว (Feline Diabetes Mellitus) คือภาวะที่ร่างกายไม่สามารถใช้น้ำตาลได้อย่างเหมาะสม สาเหตุหลักมาจากการขาดฮอร์โมนอินซูลิน หรือการดื้อต่ออินซูลิน ส่งผลให้น้ำตาลสะสมอยู่ในกระแสเลือดมากเกินไปอย่างเรื้อรัง
ระดับน้ำตาลที่สูงเป็นเวลานานสามารถส่งผลเสียต่ออวัยวะภายในหลายระบบ เช่น ไต ตับ หัวใจ และระบบประสาท นอกจากนี้ หากไม่ควบคุมอย่างเหมาะสม ยังอาจนำไปสู่ภาวะฉุกเฉินอย่าง “ภาวะเบาหวานเป็นพิษ (Diabetic ketoacidosis)” ได้อีกด้วย
แมวที่เป็นเบาหวานจำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมถึงการควบคุมอาหาร การฉีดอินซูลิน และการปรับพฤติกรรม แต่หากตรวจพบตั้งแต่เนิ่น ๆ และควบคุมได้ดี โรคเบาหวานก็อาจจะไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวอีกต่อไป
-----
😺พฤติกรรมแบบ Garfield ที่เจ้าของควรระวัง
แม้ Garfield จะเป็นเพียงตัวการ์ตูน แต่ลักษณะของเขากลับคล้ายกับแมวที่เราเลี้ยงในบ้านอย่างน่าตกใจ โดยเฉพาะในประเด็นต่อไปนี้ :
• น้ำหนักเกิน: แมวที่อ้วน จะมีความเสี่ยงต่อเบาหวานเพิ่มขึ้นหลายเท่า
• กินจุ: แมวที่ร้องขอกินตลอดเวลา หรือมีพฤติกรรมหิวตลอด อาจบ่งบอกถึงการควบคุมกลูโคสที่ผิดปกติ
• ขาดกิจกรรม: แมวที่ขี้เกียจ เคลื่อนไหวน้อย ส่งผลให้ระบบเผาผลาญทำงานช้าลง และเสี่ยงต่อการดื้อต่ออินซูลิน
• แมวเพศผู้ที่ทำหมันแล้ว: กลุ่มนี้มักมีพฤติกรรมสงบ นอนเยอะ และอ้วนได้ง่าย ซึ่งสัมพันธ์กับความเสี่ยงของโรคเมตาบอลิซึม
หากแมวของคุณมีพฤติกรรมคล้าย Garfield มากกว่าหนึ่งข้อ ควรเริ่มประเมินความเสี่ยงโดยการปรึกษาสัตวแพทย์
-----
🚨สัญญาณที่อาจบ่งชี้ว่าแมวของคุณเป็นเบาหวาน
เบาหวานในแมวมักเริ่มต้นแบบเงียบ ๆ จนอาการปรากฏชัดเจนในระยะที่โรคเริ่มส่งผลกระทบต่อร่างกายแล้ว เจ้าของจึงควรใส่ใจสัญญาณเหล่านี้:
• ดื่มน้ำบ่อย หรือดูเหมือนหิวน้ำตลอดเวลา
• ปัสสาวะบ่อยขึ้น และมีปริมาณมากผิดปกติ
• กินเยอะขึ้นแต่กลับผอมลง
• ขนแห้งกร้าน ไม่ลื่นมัน หรือไม่เลียขนเหมือนเดิม
• เดินผิดปกติ เช่น เดินลงส้น (plantigrade stance)
• ดูเหนื่อยง่าย ไม่กระตือรือร้น ซึม หรือแยกตัว
อาการเหล่านี้บางครั้งอาจถูกเข้าใจผิดว่าเป็น “ความแก่” แต่จริง ๆ แล้ว อาจเป็นสัญญาณของโรคร้ายที่ควรรีบตรวจวินิจฉัย
-----
🩺หากตรวจพบว่าเป็นเบาหวาน...จะดูแลอย่างไร?
การวางแผนดูแลแมวเบาหวานต้องอาศัยความร่วมมือจากทั้งสัตวแพทย์และเจ้าของ ซึ่งแนวทางการดูแลหลักประกอบด้วย :
1. การฉีดอินซูลิน: ต้องทำเป็นประจำทุกวัน ในเวลาที่สม่ำเสมอ โดยเจ้าของจะได้รับการสอนจากสัตวแพทย์เพื่อให้ฉีดได้อย่างถูกต้อง ปลอดภัย
2. การควบคุมอาหาร: ใชอาหารเฉพาะสูตร และให้ในปริมาณที่ควบคุม
3. การลดน้ำหนัก: ถ้าแมวมีภาวะอ้วน ค่อยๆลดน้ำหนัก เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะไขมันพอกตับ
4. การกระตุ้นการออกกำลังกาย: เล่นกับแมวทุกวัน เพื่อเพิ่มการเผาผลาญพลังงาน
5. การติดตามผลอย่างใกล้ชิด: ตรวจระดับน้ำตาลในเลือดตามแผน และหมั่นสังเกตอาการ เช่น อ่อนแรง ตัวเย็น ชัก หรือล้ม หมายถึงน้ำตาลตก ต้องรีบพบสัตวแพทย์ทันที
แม้กระบวนการดูแลจะฟังดูยุ่งยากในช่วงแรก แต่เมื่อเข้าใจและจัดระบบได้ เจ้าของส่วนใหญ่สามารถดูแลแมวที่เป็นเบาหวานให้ใช้ชีวิตได้ตามปกติ
-----
บทสรุป: จากการ์ตูนการ์ฟิลด์ที่เราชื่นชอบ
แมวที่กินเก่ง อ้วน ไม่ขยับตัว อาจดูน่ารักในสายตาเราเหมือน Garfield แต่ในความเป็นจริง พฤติกรรมเหล่านี้คือสิ่งที่ควรเฝ้าระวังอย่างยิ่ง โรคเบาหวานในแมวไม่ใช่โรคที่รักษาหายขาดง่าย ๆ แต่สามารถควบคุมได้ และคุณภาพชีวิตของแมวยังดีได้ ถ้ามีการวางแผนการดูแลที่เหมาะสม
อย่าปล่อยให้ “ความน่ารักแบบอ้วน ๆ” กลายเป็นต้นเหตุของโรคที่ป้องกันได้ เริ่มตั้งแต่วันนี้ ด้วยการสังเกตพฤติกรรมพื้นฐาน ดูแลเรื่องอาหาร และพาแมวตรวจสุขภาพประจำปีเป็นประจำ เพื่อให้พวกเขามีชีวิตที่ยืนยาวและสุขภาพดีในทุกช่วงวัย
-----
Reference
- Sparkes, A. H., et al. (2015). ISFM Consensus Guidelines on the Practical Management of Diabetes Mellitus in Cats. Journal of Feline Medicine and Surgery, 17(3), 235–250. https://doi.org/10.1177/1098612X15571880
- Roomp, K., & Rand, J. (2009). Intensive blood glucose control is safe and effective in diabetic cats using home monitoring and treatment with glargine. Journal of Feline Medicine and Surgery, 11(8), 668–682. https://pmc.ncbi.nlm.nih.gov/articles/PMC11132583/
- PetMD. (2024). Feline Diabetes: Signs, Symptoms, and Treatment. Retrieved July 7, 2025, from https://www.petmd.com/cat/conditions/endocrine/c_ct_diabetes_mellitus
-----
ฝากกดไลค์ กดแชร์ กดติดตามพวกเรา Pawdoc station ทุกช่องทาง เพื่อที่จะไม่พลาดเนื้อหาใหม่ๆของพวกเรา
ติดตาม Pawdoc station ได้ที่ช่องทางหลัก ดังนี้

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา