ตอนนี้อาจชนะ แต่อนาคตสหรัฐจะแพ้….
ทรัมป์อาจกระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ในใจ กับผลงานนโยบาย
การขึ้นภาษีตอบโต้ของตัวเอง ที่พาให้ใครๆ ต้องมาพินอบพิเทา
ก็ขนาดจีนยังยอมเสียเปรียบ บางชาติถึงกับต้องยอม
ฟรีภาษีขาเข้าสินค้าสหรัฐ แถมด้วยการสั่งซื้อโน่นนี่
จากสหรัฐเป็นจำนวนมาก
ไทยก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น โดนบีบจนหน้าเขียว
และยังไม่รู้จะหาทางออกยังไงกับเรื่องนี้
…ยาก สำหรับทุกชาติ เพราะใน”วันนี้” สหรัฐถือไพ่เหนือกว่า
ทุกประเทศ ทุกคนจึงต้องยอมไปก่อน…
…แต่เขื่อเถอะว่ามันไม่ใช่ชัยชนะที่ยั่งยืน…
…และท้ายที่สุด มันจะทำลายสหรัฐเอง ถ้ายังทำต่อไป….
หลายคนสงสัย ว่าทำไมใครๆต้องยอมสหรัฐ
รวมถึงไม่ขึ้นภาษีตอบโต้กันให้สาสม
และแม้แต่จีนที่สูสีกันหน่อย ก็ไม่ทำแบบนั้น
ตอบแบบง่ายที่สุด คือสหรัฐเป็นตลาดใหญ่ที่สุด
สินค้าจากทั่วโลก มีปลายทางที่นั่น แถมขายได้ราคาดี
ผู้คนกำลังซื้อสูง
แต่ลึกๆกว่านั้น มันมีเหตุผลอื่นอีก
ไม่ใช่ว่าเขาเอาขีปนาวุธจ่อใส่แล้วบังคับ หรือเบ่งแสนยานุภาพ
ด้านการทหารใส่หรอก
ปัญหามันคือแทบทุกชาติบนโลก
ขาดสินค้าสหรัฐไม่ได้ต่างหาก
อย่างน้อยก็ตอนนี้
…การจะไปขึ้นภาษีสินค้าอะไรก็ตามที่สหรัฐผูกขาด
และไม่มีแหล่งทดแทนอื่น มันย่อมทำไม่ได้….
ลักษณะพิเศษของสินค้าสหรัฐ คือมันเป็นสินค้าที่ผูกกับ
นวัตกรรม และทรัพย์สินทางปัญญา
สิ่งนี้สร้างมูลค่าให้พวกเขามากที่สุดในปัจจุบัน
และสร้างรายได้ให้สหรัฐแซงหน้าน้ำมัน
ที่ใครๆชอบบอกว่าสหรัฐใช้หากินเป็นตัวหลักไปไกลมากแล้ว
เหมือนจะจับต้องไม่ได้ แบบสินค้าวัตถุสำเร็จรูปจากจีน
คนเลยมักมองว่า จีนนั้นมีผลผลิตที่ทำเงินมากกว่า
แต่ในความเป็นจริง เราเห็น และจับสินค้าสหรัฐทั้งวัน
ตั้งแต่ตื่นยันนอนก็ว่าได้
ตื่นมาก็จิ้มมือถือ ยี่ห้ออะไรไม่สำคัญ
แต่ระบบปฏิบัติการ และแอพยอดฮิต ส่วนมากคือของสหรัฐ
หรือไม่ก็มีฐานในสหรัฐ
พอเข้าออฟฟิศ ก็อีกยี่ห้ออะไรไม่สำคัญ
เพราะแค่เปิดคอมพิวเตอร์ทำงาน เจอ Windows
เจอ IOS พิมพ์งานก็หนีไม่พ้นผลผลิตของไมโครซอฟท์
ไม่มีองค์กรเอกชนที่ไหน ใช้ Linux หรอก นอกจากจะอินดี้
มากๆจริงๆ แบบบริษัทเทคโนโลยีสมัยใหม่ แม้จะฟรีก็ตาม
เนื่องจากลันลิงก์กับชาวบ้านเขาลำบาก
หิวหาขนมกิน เดินหยิบเลย์ หยิบโค้ก สั่งแมค
มันก็สหรัฐอีกนั่นแหละ ที่ขายหัวสินค้าเหล่านี้ออกมา
ขับรถก็เจอน้ำมันสหรัฐแฝงอยู่อีก เพราะแม้จะบอกว่า
น้ำมันมาจากแหล่งตะวันออกกลาง แต่มันก็บริษัทสหรัฐ
นี่แหละที่ขุดมากที่สุด
จนกลับบ้านดูซีรี่ย์ ฟังเพลงก็ยังเจอกับแพลตฟอร์ม
ของบริษัทสหรัฐอีกอยู่ดี
ป่วย ก็กินยาที่สหรัฐถือสิทธิบัตร
เข้าโรงพยาบาล อุปกรณ์การแพทย์ส่วนมากเลย ก็ของมันอีก
…มันเป็นแบบนี้แทบทั้งโลก ทำให้หนีมันไม่พ้น…
โดยที่สหรัฐแทบไม่จำเป็นต้องมีสินค้าเป็นตัวตนจับต้องได้เลย คนอื่นผลิต ตัวเองขายเทคโนโลยีแล้วเก็บหัวคิวกิน
สบายๆ ไม่ต้องทำเองให้เหนื่อย ….
…แล้วก็ต้องยอมมัน ในตอนนี้ในที่สุด….
แต่ไพ่ที่เหนือกว่านี้ อาจมีมุมมองจากโลกที่เปลี่ยนไป
จากนโยบายไม่แคร์โลกของทรัมป์เอง
เมื่อโลกมองว่าไม่มีหลักประกันอะไร
ว่าสหรัฐจะไม่มีผู้นำที่เห็นแก่ได้จนเกินไปแบบนี้อีก
แล้วก็จะพยายามหนีจากพวกเขามากขึ้น
แต่ไหนแต่ไรมา โลกค่อนข้างเชื่อในความเป็นเสรี
ของสหรัฐ ว่าจะไม่เกิดการกีดกัน ผูกขาดในลักษณะนี้
จึงใช้สินค้าทางปัญญาเหล่านี้อย่างสบายใจมาตลอด
สิ่งที่ทรัมป์ทำ มันจะทำให้มุมมองเหล่านี้เปลี่ยนไป
ทำให้ตลาดโลกต้องหาทางเลือกเพิ่มขึ้น
เพื่อหนีความเสี่ยงจากนโยบายของสหรัฐ
และปัจจุบัน มันก็มีหลายชาติที่มีศักยภาพ
และเทคโนโลยีที่จะแข่งกับสหรัฐได้
ไม่ใช่แค่ที่จีน แม้แต่ ยุโรป ญี่ปุ่น และชาติรองๆ ที่พอมีกำลัง
พวกนี้จะเริ่มใช้ศักยภาพที่มีให้มากขึ้นกว่าอดีต จากนี้ไป
คือ ที่ผ่านมาหลายชาติไม่อยากทำ ทั้งที่ทำได้
เพราะการใช้ของสหรัฐไปเลย มันสะดวกและประหยัดกว่า
ประหยัดสิ ยา ซอฟท์แวร์ต่างๆ มีงบวิจัยพัฒนาสูงมาก
ทำให้สหรัฐซึ่งเป็นเจ้าตลาดหลัก ได้เปรียบคู่แข่งมาก
อย่างยานี่ บริษัทยุโรปเองก็ไม่อยากทุ่มสู้ ก็เลยใช้ๆไป
ส่วนจีน มีปัญหาด้านความเป็นสากล ถ้าพูดถึงซอฟท์แวร์
พวกเขาทำแล้วขายยาก ก็เลยไม่จริงจังจังนัก
แต่ถ้าทำแล้วขายได้ จากความกลัวสหรัฐจะงี่เง่าอีก
มันก็คุ้มที่ประเทศศักยภาพสูงเหล่านี้จะทุ่มทุนอย่างจริงจัง
เพราะชาติพวกนี้ ไม่ใช่ทำไม่ได้ แค่ไม่คุ้มที่จะทำเท่านั้น
…ถ้าอเมริกายังใช้นโยบายแบบนี้ ทั่วโลกจะพัฒนา
สิ่งที่ปัจจุบันเป็นสินค้าผูกขาดของสหรัฐ และจะมีการใช้
มากขึ้นอย่างแน่นอนในภาคเอกชน…
…ซึ่งนั่น จะเป็นการแย่งส่วนแบ่งการตลาด มูลค่ามหาศาล
มาจากสหรัฐ และไม่เป็นผลดีกับพวกเขาเองในระยะยาวเลย…
สุดท้าย มันก็จะกระทบกับอาวุธหลักของสหรัฐ คิอ ดอลลาร์
สิ่งที่ทรัมป์ทำอยู่ มันทำให้ดอลลาร์ขาดความน่าเชื่อถือ
อย่างไม่เคยเป็นมาก่อนในประวัติศาสตร์
มันไม่เกี่ยวกับว่าสกุลเงินใด มีทองคำค้ำแค่ไหน
หรือแม้กระทั่งมีหนี้เท่าไหร่ ไม่งั้นทั้งดอลลาร์และหยวน
คงมีส่วนที่เป็นกระดาษเช็ดก้นเป็นจำนวนมาก
การคงอยู่ของสกุลเงินใดๆ ในปัจจุบัน มันอยู่ที่ความต้องการ
ของโลก ว่าต้องการมีปฏิสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับชาติ
ที่เป็นเจ้าของสกุลเงินเหล่านั้นเป็นหลัก
เมื่อโลกปัจจุบัน ยังต้องซื้อสินค้าผูกขาดจากสหรัฐมาก
ดอลลาร์มันก็มีความต้องการมาก จนพวกเขาพิมพ์ได้ไม่อั้น
ดอลลาร์ปัจจุบัน พิมพ์เท่าไหร่ก็มีคนเอา ก็เพราะเหตุผลนี้
เช่นเดียวกับหยวน แม้จะถูกบิดเบือนราคาจากกลไก
ควบคุมของ PBOC ทุกวัน และจีนเองมีหนี้แฝงมากกว่าสหรัฐ
แต่เพราะทุกคนต้องการซื้อสินค้าจีน หยวนจึงมีค่ามากขึ้น
ถ้าวันใดวันหนึ่ง โลกมีความต้องการสินค้าจากสหรัฐน้อยลง
พวกเขาก็จะไม่สามารถรักษาสถานะของดอลลาร์อีกต่อไปได้
ถ้าดอลลาร์พัง ก็คือสหรัฐพัง หรือแน่ๆก็ต้องตัวเล็กลง
…และสิ่งที่ทรัมป์ทำอยู่ มันกำลังพาสหรัฐไปในทางนั้น….
…และนี่แหละ คือความพ่ายแพ้ในอนาคตของสหรัฐ…
แน่นอน การที่ผู้นำคนหนึ่ง จะยกผลประโยชน์ของชาติ
ให้มาก่อน เป็นเรื่องที่ถูกต้อง
แต่ทรัมป์ดูจะมองสั้นและแคบเกินไป กับผลระยะยาว
ผมเชื่อ ว่าทรัมป์ฉลาดพอจะรู้ถึงผลเสียระยะยาว
แต่ดูเหมือนทรัมป์มองวาระทางการเมืองมากกว่า
มันเป็นการหาเสียง ที่คนอเมริกันเอง จะไม่ได้อะไรด้วยซ้ำ
ที่จริง ทุกชาติโลกมีแต่เสียกับเสีย ในสิ่งที่ทรัมป์ทำ
ไม่เว้นแม้แต่ในสหรัฐเอง
จึงไม่แปลกอะไรเลย ที่จีนกับยุโรปช่วงนี้
ดูจะอี๋อ๋อกันเป็นพิเศษในเรื่องเศรษฐกิจ การค้า
…ถ้าไม่นับเรื่องเลขานาโต้พูดอะไรบ้าๆเรื่องไต้หวันน่ะนะ….
แต่เอาเถอะ ยังไงการแข่งขันจากชาติอื่นของสหรัฐ
มันจะมากขึ้นแน่นอน ในสิ่งที่เคยควบคุมไว้ได้ง่ายๆ
…ถ้าสหรัฐและทรัมป์ยังไม่เลิกบ้า …
…สุดท้ายพวกเขาเองนั่นแหละจะพัง….
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
