เที่ยวหลุมฟ้า-สะพานสวรรค์ ที่อู่หลง
Chapter 84/2: Wulong Sky Walk
วันที่ 2 ของทริปฉงชิ่ง เราจะไปเที่ยวที่ที่เป็นหนึ่งใน highlight ของทริปนี้ และเป็นสถานที่ที่เราต้องดั้นด้นนั่งรถมาถึง 3 ชั่วโมงเพื่อมาที่นี่ อุทยานแห่งชาติหลุมฟ้า สะพานสวรรค์ค่ะ
อุทยานแห่งชาติหลุมฟ้า สะพานสวรรค์ (Three Natural Bridges) เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติระดับ 5A และเป็นกลุ่มสะพานหินธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชีย
ป.ล. แหล่งท่องเที่ยวระดับ 5A หรือ AAAAA Tourist Attractions of China หมายถึง สถานที่ที่ได้รับการประเมินและจัดอันดับโดยคณะกรรมการจัดระดับคุณภาพสถานที่ท่องเที่ยวแห่งชาติของจีน ว่ามีความงดงามทางธรรมชาติ ความสำคัญทางวัฒนธรรม ประสบการณ์ท่องเที่ยวที่ยอดเยี่ยม และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันสำหรับนักท่องเที่ยว
อุทยานแห่งนี้เกิดมาจากการยุบตัวของเปลือกโลกจนทำให้เกิดเป็นหลุมลึกขนาดใหญ่ประมาณ 300–500 เมตรทั้งหมด 3 หลุม และมีบางส่วนที่เป็นโพรงทะลุดูคล้ายกับเป็นสะพานหินที่เชื่อมระหว่างภูเขาแต่ละลูก นี่จึงเป็นที่มาของชื่อ "สามหลุมฟ้า สะพานสวรรค์" นั่นเอง
สะพานทั้ง 3 แห่งประกอบไปด้วย เทียนหลงเฉียว (Tianlong Bridge หรือสะพานมังกรฟ้า), ชิงหลงเฉียว (Qinglong Bridge หรือสะพานมังกรเขียว) และเฮยหลงเฉียว (Heilong Bridge หรือสะพานมังกรดำ) ซึ่งเดี๋ยวเราจะพาไปเดินดูกันค่ะ
มาถึงทางเข้าอุทยานเราจะเจอกับหุ่นยนต์จากเรื่อง Transformer 4 ที่ยืนต้อนรับอยู่ด้วย เอ๊ะ…เจ้าหุ่นนี่มาอยู่ที่นี่ได้ไงเนี่ย ???
เดินเข้าไปจะเจอกับระเบียงแก้วที่ทำเป็นกระจกใสให้เดินถ่ายรูปแบบใกล้ชิดธรรมชาติสุดๆ ซึ่งระเบียงนี้มีความสูงถึง 1,200 เมตรเลย ขนาดเราไม่กลัวความสูงก็ยังเสียวๆ เหมือนกัน
วิวสวยมากกกก
ส่วนทางเดินที่มองเห็นข้างล่างอยู่ลิบๆ นั่นแหละคือที่ที่เราจะต้องไปกันต่อค่ะ
จากระเบียงแก้วเราต้องเดินตามทางไปที่ลิฟต์แก้วเพื่อลงไปด้านล่างค่ะ
วันนี้โชคไม่ค่อยดีที่ฝนตกพรำๆ ทั้งวัน ทำให้ได้รูปแบบแฉะๆ หน่อย แต่ทางเดินเค้าทำไว้ค่อนข้างดีเลย
การลงไปหลุมฟ้าเราจะต้องลงลิฟท์แก้วอันนี้ที่มีความสูงกว่า 80 เมตร เป็นลิฟท์ที่หมุนได้รอบตัวด้วยนะ ใครที่กลัวความสูงต้องอดทนนิดนึงประมาณ 3 นาทีก็ลงไปถึงข้างล่างแล้วค่ะ
ลิฟท์แก้ว
จากนั้นก็เดินต่อไปตามทาง บันไดเยอะพอสมควรแต่ทีมเราไหวกันทุกคน แม้แต่สาวน้อยวัย 82 ก็ยังบอกไหว แค่ต้องระวังลื่นเพราะพื้นเปียก
มีลูกหาบบริการสำหรับคนที่ไม่อยากเดินด้วยนะ คนเหล่านี้นี่ต้องตบมือให้จริงๆ ขนาดเราเดินเองยังลำบาก นี่ต้องแบกคนด้วย สุดยอดจริงๆ 👍
ลูกหาบรอให้บริการอยู่เพียบ
ข้างบนว่าสวยแล้วข้างล่างนี่สวยกว่ามาก
ถึงอากาศจะอบอ้าวพอสมควรเพราะฝนเพิ่งหยุดไป แต่สีเขียวสดใสของใบไม้หลังฝนตกให้ความรู้สึกสดชื่นมากๆ
เราเดินมาถึงสะพานแรก สะพานเทียนหลง (Tianlong Bridge) แล้วค่ะ
สะพานเทียนหลง (Tianlong Bridge)
สะพานนี้มีความสูง 235 เมตร เป็นสะพานที่สูงที่สุดและสวยที่สุดในบรรดาสามสะพาน มีลักษณะเป็นโพรงทะลุระหว่างหน้าผาหิน ทำให้เกิดจินตนาการว่าดูคล้ายมังกรที่กำลังเลื้อยขึ้นสู่ท้องฟ้า
เห็นโรงเตี๊ยมโบราณอยู่ไกลๆ
เดินลอดสะพานมาอีกฝั่งแล้วมองย้อนกลับไปจะเห็นสะพานเป็นเหมือนนิ้วโป้ง
จุดนี้ก็เลยมีกิมมิคเวลาถ่ายรูปแบบนี้ค่ะ
เอานิ้วโป้งวางพอดีเป๊ะ
ใกล้ๆ กับสะพานเทียนหลงจะเป็นโรงเตี๊ยมโบราณที่มีชื่อว่า "เทียนฝูกวนอี้" ที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถัง (ค.ศ. 618–907)
โรงเตี๊ยมเทียนฝูกวนอี้
ที่นี่เคยถูกใช้เป็นจุดแวะพักของนักเดินทางและเป็นที่พักของเจ้าหน้าที่ราชสำนักและทหารที่ดูแลเขตชายแดนเสฉวน-ฉงชิ่ง
แต่ตัวโรงเตี๊ยมแห่งนี้ไม่ใช่ตัวอาคารดั้งเดิมเพราะถูกทำลายไปในช่วงสงคราม แต่ได้มีการบูรณะใหม่โดยยังคงเอกลักษณ์สถาปัตยกรรมแบบฮั่นและถังไว้
และจุดนี้ก็เคยถูกใช้เป็นฉากถ่ายหนังเรื่อง Curse of the Golden Flower หรือศึกโค่นบัลลังก์วังทอง และ Transformer 4: Age of Extinction อีกด้วย นั่นเลยเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงมีหุ่นยนต์จำลองมายืนอยู่ที่หน้าทางเข้าอุทยานด้วย
ระหว่างทางก็จะมีห้องน้ำให้บริการเป็นระยะๆ ด้วย สะอาดพอสมควร
เจอน้องคนนี้อีกตัวระหว่างทาง
เดินมาอีกหน่อยจะเจอกับสะพานที่ 2 สะพานชิงหลง (Qinglong Bridge)
สะพานชิงหลง (Qinglong Bridge)
สะพานนี้จะมีลักษณะเป็นโพรงยาวที่มีลำธารเล็กๆ ไหลผ่าน เป็นโพรงหน้าผาที่ดูคล้ายรูปดาบ ก็เลยเรียกจุดนี้ว่า "ดาบกวนอู" มีคำแนะนำวิธีถ่ายรูปยังไงให้เหมือนถือดาบด้วยนะ
นี่…จะเป็นแบบนี้
ตรงนี้จะมีด้ามดาบให้จับโพสท่าด้วย
ดูๆ ไปก็เหมือนอยู่นะ 😆
จากสะพานชิงหลงเราจะเดินต่อไปยังสะพานสุดท้ายค่ะ
สะพานอันนี้ก็วิวสวยมาก
ทางเดินทุกที่ทำไว้อย่างดี
ตรงนี้เป็นจุดที่เรียกว่า เซินอิ่งเทียนเคิง (Shenying Tiankeng) หรือหลุมสวรรค์เซินอิ่ง
เป็นหลุมยุบขนาดใหญ่และลึกที่สุดในโลกเลยทีเดียว
หลุมสวรรค์ (Shenying Tiankeng)
และแล้วเราก็มาถึงสะพานสุดท้าย สะพานเฮยหลง (Heilong Bridge) ค่ะ
สะพานเฮยหลง (Heilong Bridge)
สะพานสุดท้ายซึ่งอยู่ในส่วนที่แคบที่สุดจึงทำให้มีความมืดทึบ (เลยเป็นที่มาของชื่อสะพานมังกรดำ) มีความสูง 223 เมตร
เดินทะลุมาจะเจอกับหน้าผาอันนี้
ตอนแรกเราก็สงสัยว่าคนถ่ายรูปอะไรกันเพราะดูไม่ออก มาเจอป้ายอันนี้ถึงได้เข้าใจว่ามันดูเหมือนหน้าของลิงกอริลล่าในหนังเรื่อง King Kong นั่นเอง
เออ เหมือนจริงแฮะ
ตรงนี้เป็นลำธารเล็กๆ สวยมาก
จากจุดนี้ก็ใกล้ทางออกแล้วค่ะ
ข้างในมีร้านขายของที่ระลึกน่ารักๆ
มาถึงตรงนี้…ก็จบการเดินเที่ยวในอุทยานแล้วค่ะ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเหนื่อยเหมือนกันเพราะทางมันแฉะๆ เวลาเดินต้องเกร็งพอสมควรเพราะกลัวลื่น แนะนำใครมาช่วงหน้าฝนเหมือนเราเอารองเท้าสำหรับเดินมาดีที่สุด ไม่ต้องกลัวลื่นด้วย
นักท่องเที่ยวทุกคนจะต้องมารอขึ้นรถเวียนของอุทยานเพื่อนั่งไปที่ท่ารถ และจากท่ารถก็ต้องนั่งรถบัสของอุทยานอีกต่อนึงเพื่อออกจากอุทยานไปที่จุดจอดรถบัสของเรา เพราะรถภายนอกห้ามเข้ามา
จากอุทยานเราก็ออกไปทานข้าวเที่ยงกันที่ร้านอาหารใกล้ๆ เป็นสไตล์อาหารพื้นเมืองของที่อู่หลง
อาหารพื้นเมืองของอู่หลง
ซึ่งรสชาติ…เอาจริงๆ นะ ไม่ค่อยถูกปากเราเท่าไหร่ แต่ที่นี่จะมีพนักงานแต่งชุดพื้นเมืองมาร้องเพลงให้ดูเพลินๆ ระหว่างทานข้าวด้วย
เสร็จจากร้านอาหารก็ได้เวลาเดินทางกลับเข้าตัวเมืองฉงชิ่งกันละค่ะ เช่นเคยเราต้องนั่งรถยาวๆ ประมาณ 3 ชั่วโมง
อ้อ! ลืมเล่าให้ฟังว่า ที่จุดพักรถของจีนตอนนี้ทำดีมากๆ เลย เราไม่รู้ว่าเมืองอื่นดีรึป่าวแต่ของที่นี่ดีมากๆ ใหม่ ใหญ่ สะอาด ทันสมัยมาก
มีร้านอาหาร ร้านขายของให้เดินเล่น
ส่วนห้องน้ำก็ดีมาก ตรงทางเข้าจะมีจอมอนิเตอร์บอกให้รู้ว่าตอนนี้มีห้องน้ำว่างกี่ห้อง ห้องไหนว่างอยู่ เจ๋งเนอะ และเท่าที่เห็นทุกๆ ที่จะมีห้องน้ำแบบนั่งยองที่เรียกว่า Squat toilet ซะเป็นส่วนใหญ่แต่ก็จะมีห้องน้ำแบบชักโครกแอบอยู่ด้วยเสมอ อาจจะมีน้อยแค่ 1–2 ห้องแต่ก็มี ต้องดูตามรูปหน้าห้องดีๆ
จากจุดพักรถนั่งมาอีกครึ่งทางก็ถึงเมืองฉงชิ่งค่ะ
Blog นี้ก็ประมาณนี้ค่ะ เป็นยังไงกันมั่งคะกับอุทยานแห่งชาติสามหลุมฟ้า สะพานสวรรค์ สวยมากๆ เลยเนอะ เราไม่ค่อยมีโอกาสได้เห็นธรรมชาติสวยๆ แบบนี้เท่าไหร่ ได้มาทีก็จะตื่นเต้นมาก
เดี๋ยว Blog หน้าจะพาไปเที่ยวที่เมืองฉงชิ่งแล้วค่ะ ยังมีที่สวยๆ ให้ได้ว้าวกันอีกหลายที่เลย อย่าลืมตามมาอ่านกันนะคะ
สำหรับ Blog นี้ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ 😊
- 1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
