การให้บริการ DR นั้นจะต้องมีการใช้ชุดอุปกรณ์ที่ประกอบด้วยส่วนเชื่อมต่อและสื่อสารกับโครงข่ายไฟฟ้า ที่สามารถรับและตอบสนองต่อสัญญาณการร้องขอบริการ DR จากภายนอก ซึ่งอาจใช้ชื่อเรียกส่วนนี้ว่า Gateway/Micro-EMS (FEMS, BEMS, HEMS) เพื่อกำกับคุณภาพของการให้บริการ
กกพ. อาจกำหนดให้ผู้รับใบอนุญาตมีหน้าที่ต้องใช้อุปกรณ์ที่มีคุณภาพและศักยภาพตามที่กำหนด เช่น จะต้องเป็นอุปกรณ์ที่สามารถรองรับการสื่อสารด้วยโปรโตคอลมาตรฐานสำหรับการแลกเปลี่ยนข้อมูล DR ระหว่างโครงข่ายไฟฟ้าและอุปกรณ์ที่เข้าร่วมการให้บริการ DR ต้องเป็นไปตามมาตรฐานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล
อีกทั้งต้องสามารถรับและตอบสนองต่อ DR Signal ได้ภายในเวลาที่กำหนด และอุปกรณ์รองรับโหมดการทำงาน (Auto-DR , Semi-auto DR) ตามสัญญาซื้อขายบริการ DR และตามข้อกำหนดของโครงข่ายไฟฟ้าที่เกี่ยวข้องอื่น
ข้อสำคัญอีกประการคือ เมื่อการให้บริการตอบสนองด้านโหลดนี้กระทบต่อคุณภาพการให้บริการไฟฟ้าต่อผู้ใช้ไฟฟ้าที่เป็น DR Participants กกพ. สามารถใช้อำนาจตามมาตรา 89 แห่งพระราชบัญญัติการประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. 2550 ออกประกาศ กกพ. กำหนดหลักเกณฑ์ประกอบกิจการ DR
เมื่อผู้ใช้ไฟฟ้าที่เป็น DR Participants จะรับบริการจากผู้รับใบอนุญาตบริการรวบรวมโหลดไฟฟ้าหรือบริการตอบสนองด้านการใช้ไฟฟ้าก็อาจจะต้องเข้าทำสัญญารับบริการ DR ซึ่งมีรายละเอียดเกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่ของตัวผู้ใช้ไฟฟ้ากับผู้ให้บริการ หากการให้บริการ DR นั้นถูกถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของกิจการไฟฟ้าแล้ว กกพ. สามารถออกประกาศ กกพ. กำหนดหลักเกณฑ์ในการประกอบกิจการ DR
นอกจากนี้ กกพ. ยังสามารถกำหนดให้สัญญาบริการ DR นั้นมีข้อกำหนดเกี่ยวกับเกณฑ์และวิธีคิดค่าบริการที่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงและเป็นผลตอบแทนที่เหมาะสมของการลงทุนของการประกอบกิจการพลังงานที่มีประสิทธิภาพจากการให้บริการ DR ซึ่งเป็นไปตามหลักการที่บัญญัติเอาไว้ในมาตรา 65(1) โดยอัตราค่าบริการ DR ในส่วนของค่าพลังงานไฟฟ้าต่อหน่วย (EP) ควรมีค่าต่ำกว่าต้นทุนการผลิตไฟฟ้าต่อหน่วยของโรงไฟฟ้าที่ถูกทดแทนด้วยโปรแกรม DR (โรงไฟฟ้า Peak-Load Unit)
อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนขอสังเกตเพิ่มเติมว่าการให้บริการ DR นั้นควรถือได้ว่าเป็นกิจการที่สำคัญและจำเป็นต่อการเปลี่ยนผ่านทางพลังงาน ในการใช้อำนาจกำกับอัตราค่าบริการ DR นั้นควรถูกกำกับตามหลักการที่กำหนดในมาตรา 65(3) ซึ่งบัญญัติว่า “ควรจูงใจให้มีการปรับปรุงประสิทธิภาพในการประกอบกิจการพลังงาน” หากจะให้ผลตอบแทนแก่การลงทุนลงแรงให้มีการใช้ประสิทธิภาพทางพลังงานก็น่าจะเรียกได้ว่าเป็นการกำกับดูแลที่เหมาะสมในยุคการเปลี่ยนผ่านทางพลังงาน