6 ส.ค. เวลา 10:00 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

🧠 "แพ้กลูเตน" หรือ "แพ้ความคิด"? | งานวิจัยใหม่ที่ชี้ว่า "ใจ" อาจสร้างอาการป่วยได้จริง

คุณเป็นคนหนึ่งที่เชื่อว่าตัวเอง "แพ้กลูเตน" หรือรู้สึกว่าการกินข้าวสาลีทำให้อาการลำไส้แปรปรวน (IBS) ของคุณแย่ลงหรือเปล่าครับ? นี่คือความเชื่อที่แพร่หลายอย่างมาก...
แต่ถ้าเราบอกว่างานวิจัยล่าสุดที่ออกแบบมาอย่างรัดกุมที่สุดชิ้นหนึ่ง พบว่าสำหรับผู้ป่วยจำนวนมากแล้ว "กลูเตน" อาจไม่ใช่ผู้ร้ายตัวจริง แต่เป็น "ความคาดหวัง" ของเราเองที่กำลังสร้างอาการป่วยขึ้นมา
🌾 ปริศนาแห่งกลูเตนและ IBS
คนบางกลุ่มคิดว่ากลูเตนทำให้อาการโรคลำไส้แปรปรวน (Irritable Bowel Syndrome - IBS) ของพวกเขาแย่ลง แท้จริงแล้วกลับไม่พบว่ามีอาการเพิ่มขึ้นเมื่อพวกเขากินโปรตีนชนิดนี้ ซึ่งพบได้ในข้าวสาลี, ข้าวบาร์เลย์ และข้าวไรย์
IBS มักทำให้เกิดอาการปวดท้อง, ท้องอืด, ท้องร่วง และท้องผูก แม้ว่ากลไกจะยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่ผู้คนจำนวนมากที่มีภาวะนี้เชื่อว่าการกินกลูเตนหรือข้าวสาลีซึ่งมีกลูเตนเป็นส่วนประกอบ ทำให้อาการของพวกเขาแย่ลง
เพื่อทำความเข้าใจว่าสิ่งเหล่านี้เป็นตัวกระตุ้นที่พบบ่อยจริงหรือไม่ เพรมีเซิล เบอร์ซิก (Premysl Bercik) จาก McMaster University ในแคนาดา และทีมงานของเขา ได้ทำการศึกษากับผู้ป่วย IBS 28 คน ที่กล่าวว่าพวกเขามีอาการดีขึ้นเมื่อรับประทานอาหารที่ปราศจากกลูเตน
🧪 การทดลองที่ชาญฉลาด
นักวิจัยได้ขอให้ผู้เข้าร่วมรับประทานอาหารที่ปราศจากกลูเตนเป็นเวลาสามสัปดาห์ ก่อนที่จะให้คะแนนความรุนแรงของอาการในมาตรวัด 0 ถึง 500 ซึ่งได้คะแนนเฉลี่ยที่ 183
จากนั้น พวกเขาได้สุ่มให้ผู้เข้าร่วมรับประทานซีเรียลบาร์หนึ่งในสามชนิด ซึ่ง ดูเหมือนกันและมีรสชาติเหมือนกัน ทุกวัน
• บาร์ชนิดที่ 1: มีส่วนผสมของข้าวสาลี
• บาร์ชนิดที่ 2: มีกลูเตน แต่ไม่มีส่วนประกอบอื่นของข้าวสาลี
• บาร์ชนิดที่ 3: ไม่มีทั้งสองอย่าง (เป็นยาหลอก หรือ "sham bar")
โดยบาร์สองชนิดแรกมีปริมาณกลูเตนเทียบเท่ากับขนมปัง 4 แผ่น เบอร์ซิกกล่าว
ผู้เข้าร่วมได้รับการบอกกล่าวว่าบาร์เหล่านี้ "อาจ" ทำให้อาการของพวกเขาแย่ลงได้ แต่ไม่ได้รับการบอกว่าบาร์ชิ้นไหนมีส่วนผสมอะไร
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา ผู้เข้าร่วมได้ให้คะแนนความรุนแรงของอาการอีกครั้ง หลังจากนั้นจึงเปลี่ยนกลับไปรับประทานอาหารที่ปราศจากกลูเตนเป็นเวลาอีกสองสัปดาห์ เพื่อล้างผลกระทบของบาร์ออกไป พวกเขาทำการทดลองซ้ำสองครั้ง เพื่อให้ผู้เข้าร่วมทุกคนได้รับประทานบาร์ทั้งสามชนิด
😲 ผลลัพธ์ที่น่าประหลาดใจ: พลังของ "โนซีโบเอฟเฟกต์"
หลังจากทานบาร์หลอก (sham bars) ผู้เข้าร่วม 8 คน รายงานว่าอาการของพวกเขาแย่ลง 50 คะแนน – ซึ่งเป็นระดับการเปลี่ยนแปลงที่แพทย์ถือว่ามีนัยสำคัญ เบอร์ซิกกล่าว
ในขณะเดียวกัน สิ่งนี้เกิดขึ้นในผู้เข้าร่วม 10 คน เมื่อทานบาร์ที่มีแต่กลูเตน และใน 11 คน หลังจากบริโภคบาร์ที่มีข้าวสาลี
ตัวเลขเหล่านี้มีความใกล้เคียงกันอย่างน่าประหลาดใจ...
ในขณะที่กลูเตนและข้าวสาลีน่าจะเป็นตัวกระตุ้นที่แท้จริงสำหรับบางคนที่เป็น IBS แต่ผลลัพธ์ชี้ให้เห็นว่าคนอื่นๆ ได้รับผลกระทบจาก "โนซีโบเอฟเฟกต์" (nocebo effect) – ซึ่งคือปรากฏการณ์ที่ ความคาดหวังว่าอาการจะแย่ลงทำให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นจริง เบอร์ซิกกล่าว
🔍 ข้อจำกัดและมุมมองเพิ่มเติม
ซีกริด เอลเซนบรูค (Sigrid Elsenbruch) จาก University of Duisburg-Essen ในเยอรมนี ตั้งข้อสังเกตในบทความแสดงความคิดเห็นประกอบบทความวิจัยว่า ผู้เข้าร่วมได้รับการบอกกล่าวว่าบาร์ใดๆ ก็ตามอาจทำให้อาการแย่ลงได้ ซึ่งอาจ "เพิ่มพลัง" ของโนซีโบเอฟเฟกต์เมื่อเทียบกับในชีวิตจริง
ตัวอย่างอุจจาระจากผู้เข้าร่วมยังเผยให้เห็นว่ามีผู้เข้าร่วมจำนวนหนึ่งที่ไม่ได้ทานบาร์ตามคำแนะนำ ซึ่งนี่อาจหมายความว่าพวกเขาไม่ได้บริโภคกลูเตนหรือข้าวสาลีในปริมาณที่เพียงพอที่ส่วนผสมเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อ IBS ของพวกเขาเป็นพิเศษ
เบอร์ซิกกล่าวว่านักวิจัยกำลังสำรวจเส้นทางที่กลูเตนและข้าวสาลีอาจก่อให้เกิดอาการ IBS ในบางคน เช่น การเปลี่ยนแปลงไมโครไบโอมในลำไส้
🏡 แล้วเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเราอย่างไร?
ในประเทศไทยที่เทรนด์ "อาหารปลอดกลูเตน" (Gluten-Free) ได้รับความนิยมอย่างสูง ทั้งในหมู่ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพและสายไลฟ์สไตล์ การค้นพบนี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจอย่างยิ่ง
มันไม่ได้บอกว่าอาการป่วยของเรา "ไม่จริง" แต่ชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมโยงอันทรงพลังระหว่าง "สมอง" และ "ลำไส้" (Brain-Gut Axis) ที่ความคาดหวังและความวิตกกังวลของเราสามารถส่งผลต่อร่างกายได้จริง นี่คือเครื่องย้ำเตือนให้เราต้องพิจารณาปัจจัยทางจิตใจควบคู่ไปกับการปรับอาหารในการดูแลสุขภาพ และไม่ควรรีบตัดอาหารกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งออกไปโดยไม่มีการวินิจฉัยที่ชัดเจนจากแพทย์
🎯 สรุปประเด็นสำคัญ
✅ แพ้กลูเตน หรือ แพ้ความคิด?: งานวิจัยใหม่นี้บ่งชี้ว่าสำหรับผู้ป่วย IBS จำนวนมาก อาการที่แย่ลงอาจไม่ได้มาจากตัว "กลูเตน" โดยตรง แต่มาจาก "โนซีโบเอฟเฟกต์" หรือความเชื่อว่ามันจะทำให้อาการแย่ลง
✅ ผลลัพธ์ใกล้เคียงกัน: ในการทดลองแบบอำพรางสองฝ่าย ผู้ป่วยมีอาการแย่ลงในระดับที่ใกล้เคียงกันมาก ไม่ว่าจะทานบาร์ที่มีกลูเตน, ข้าวสาลี, หรือแม้แต่บาร์ยาหลอก (ที่ไม่มีทั้งสองอย่าง)
✅ ไม่ใช่ทุกคน: การศึกษายอมรับว่ากลูเตนและข้าวสาลียังคงเป็นตัวกระตุ้นที่แท้จริงสำหรับผู้ป่วย "บางส่วน"
✅ พลังของจิตใจ: นี่คือหลักฐานที่หนักแน่นพอที่แสดงให้เห็นถึงพลังของจิตใจและความคาดหวังที่สามารถสร้างอาการทางกายภาพขึ้นมาได้จริงๆ
✅ ยังต้องศึกษาต่อ: ยังมีข้อจำกัดในการศึกษา และยังต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อทำความเข้าใจกลไกที่แท้จริงในผู้ที่แพ้กลูเตนจริงๆ ต่อไป
💬 แล้วคุณล่ะครับ...
การค้นพบพลังของ "โนซีโบเอฟเฟกต์" นี้ ทำให้คุณมองความสัมพันธ์ระหว่าง "ใจ" กับ "กาย" เปลี่ยนไปไหมครับ? แล้วคุณเคยมีประสบการณ์ที่ "ความกังวล" ทำให้เกิด "อาการทางกาย" จริงๆ บ้างหรือเปล่า?
มาแบ่งปันเรื่องราวกันในคอมเมนต์... และถ้าเรื่องนี้น่าสนใจ 🧠 อย่าลืมกดบันทึกไว้ หรือแชร์ให้เพื่อนๆ ได้ร่วมไขปริศนาแห่งพลังของจิตใจนี้ด้วยกันนะครับ!
🔎 แหล่งอ้างอิง
1. Seiler, C. L., et al. (2025). Effect of gluten and wheat on symptoms and behaviours in adults with irritable bowel syndrome: a single-centre, randomised, double-blind, sham-controlled crossover trial. The Lancet Gastroenterology & Hepatology. http://doi.org/pxgf
💖 มาช่วยกันขับเคลื่อน "Witly" กันครับ!
ความเชื่อมโยงระหว่าง "จิตใจ" และ "ร่างกาย" คือหนึ่งในปริศนาที่น่าทึ่งที่สุดของวิทยาศาสตร์...
เป้าหมายของ Witly ก็เช่นกัน คือการทำหน้าที่เป็น "นักสำรวจ" ที่จะค้นหา "ความเชื่อมโยง" ที่ซ่อนอยู่ระหว่างวิทยาศาสตร์กับชีวิตประจำวัน แล้วนำมาร้อยเรียงให้เป็นเรื่องราวที่เปิดมุมมองใหม่ๆ ให้กับคุณ
ทุกการสนับสนุนผ่าน "ค่ากาแฟ" ของคุณ คือพลังที่ช่วยให้เราสามารถทำภารกิจ "เชื่อมโยงความรู้" นี้ต่อไปได้ครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา