5 ส.ค. เวลา 13:46 • ดนตรี เพลง

5 เทคนิค การปรับเสียงร้องให้เพราะสำหรับมือใหม่ Edit

2025-08-04
เพราะเสียงร้องที่ดี ไม่ใช่เรื่องของพรสวรรค์อย่างเดียว แต่ฝึกได้ ปรับได้ และทำให้ “เพราะขึ้น” ได้จริง
เสียงร้องคือหัวใจสำคัญของเพลง ไม่ว่าจะเป็นสายร้องคัฟเวอร์ แต่งเพลง หรือทำเพลงเองที่บ้าน การที่เสียงร้องฟังดูเพราะ ชัดเจน และตรงคีย์คือจุดเริ่มต้นของผลงานที่มีคุณภาพ
สำหรับมือใหม่ที่รู้สึกว่าเสียงตัวเองยังไม่เพราะ หรือรู้สึกไม่มั่นใจเวลาอัดเสียง บทความนี้จะพาไปรู้จักกับ 6 เทคนิคง่าย ๆ ที่ช่วยปรับเสียงร้องให้เพราะขึ้นได้จริง โดยไม่ต้องพึ่งพรสวรรค์
ปล. เรื่องนี้เหมือนจะเคยเขียนไว้แล้วในบทความ “5 เทคนิค ปรับเสียงร้องให้เพราะ สำหรับมือใหม่ทำยังไงให้ดูมืออาชีพ” สำหรับใครที่ติดตามอยู่ อยากจะบอกว่าหัวข้ออาจจะคล้ายๆกันแต่เนื้อหาไม่เหมือนกันครับ อันนั้นจะเน้นไปทางเทคนิคการใช้โปรแกรมปรับให้มันเพราะมากกว่า ส่วนอันนี้จะเป็นเทคนิคที่บ้านๆเลยว่าเราอัดเสียงร้องไปแล้วไม่เพราะ มีอะไรบ้าง 1 2 3 4 ที่เราจะทำให้มันเพราะ แม้ใช้โปรแกรมไม่เป็นก็ทำลุยได้!
ภาพนักร้องกำลังแสดงคอนเสิร์ต ต่อหน้าผู้ชมมากมาย เขาได้มีการปรับเสียงร้องให้เพราะก่อนขึ้นเวที
1. 🎯 ฝึกร้องตรงคีย์ก่อนทุกครั้ง
เคยได้ยินเรื่องวัตถุดิบเวลาทำอาหารไหมครับ ถ้าเรามีวัตถุดิบดีก็จะได้เปรียบ การทำเพลงให้เพราะก็เช่นกันครับ เพราะถ้าเราร้องให้ตรงคีย์ไว้ก่อน ถึงเสียงจะไม่เพราะยังไงออกมาดูดีแน่นอนครับ ดีกว่าร้องเพี้ยนจริงไหมครับ
เสียงร้องจะฟังดีหรือไม่นั้น “คีย์” คือพื้นฐานที่สำคัญ
ลองใช้แอปฟรีอย่าง Vocal Pitch Monitor หรือ Sing Sharp เพื่อตรวจสอบว่าเราร้องตรงโน้ตหรือไม่
ฝึกกับเพลงง่าย ๆ เช่น เพลงป๊อปช้า ๆ หรือเพลงที่เราร้องคล่องอยู่แล้ว
หากร้องไม่ตรงคีย์ แนะนำให้เล่นคีย์เปียโนประกอบและฝึกร้องตาม เพื่อให้หูเริ่มชิน
ปล. ส่วนตัวเคยใช้แต่ Sing Sharp ถ้าให้ฟันธง จัดไปเลยครับ Sing Sharp
2. 💨 หายใจให้ถูกจังหวะ (ใช้กระบังลม)
Oxygen เป็นส่วนสำคัญของการมีชีวิตอยู่ ถึงแม้เราจะมองมันไม่เห็นก็ตาม ลมหายใจสำหรับการร้องเพลงก็เช่นกัน ถ้าเราหายใจไม่ถูกจังหวะ ลมหมด เสียงที่ออกมาก็จะฟังไม่เพราะ
หลายคนเสียงเพี้ยนเพราะหายใจผิดช่วงหรือไม่มีแรงพอจะดันเสียง
หัดหายใจด้วย กระบังลม (หรือ Diaphragm) ไม่ใช่แค่ยกหน้าอก
ซ้อมหายใจเข้า-ออกเป็นจังหวะ และใช้ลมให้คงที่เวลาร้องประโยคยาว
ลองฝึกกับประโยคยาว ๆ เช่น “ฉันจะไม่ยอมแพ้ต่อเสียงของฉัน” แล้วร้องให้ครบโดยไม่หยุดหายใจกลางทาง
3. 🎛 ใช้ EQ ช่วยปรับเสียงร้องให้ใส
มาถึงข้อที่สาม อาจจะจำเป็นต้องใช้โปรแกรม แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันคือหนึ่งในวิธีที่สำคัญมากๆ สำหรับการที่จะปรับเสียงร้องให้เพราะ ถ้าการร้องให้ตรงคีย์เหมือนวัตถุดิบแล้วนั้น การปรับเสียงก็เหมือนกับพ่อครัว ถ้ามีเชฟที่ดี โอกาสที่เสียงเราหรืออาหารจะออกมาดี ก็มีสูงจริงไหมครับ
สำหรับคนที่ทำเพลงด้วยโปรแกรม (DAW) การใช้ EQ จะช่วยให้เสียงร้องฟัง “โปร” ขึ้น
ลดเสียงต่ำ (Low Cut) เพื่อเอาเสียงลมหรือเสียงอู้ ๆ ออก
เพิ่มความถี่กลาง-สูง (ประมาณ 3k–5kHz) เพื่อให้เสียงร้องชัดเจน
อย่าขยับ EQ เยอะเกินไป ค่อย ๆ ปรับทีละนิด และลองฟังเปรียบเทียบ
4. 🔧 ใช้ Auto-Tune หรือ Plugin จูนเสียง
ยังอยู่กับการใช้โปรแกรม แต่มันจะเชื่อมโยงกับข้อแรกครับ ซึ่งมันแสดงให้เห็นว่าก่อนที่จะปรับวิธีการร้อง หรือเสริมเทคนิคการเอื้อนระดับปรมจารย์ ที่สำคัญเราต้องร้องให้ตรงคีย์ก่อนครับ และถ้าการฝึกร้องมันยากมาก ก็อย่าไปลำบากเลยครับ ใช้ ออโต้จูน ผ่าม!
มือใหม่หลายคนรู้สึกไม่มั่นใจเวลาร้องเพราะกลัวเพี้ยน แต่วันนี้มีเครื่องมือช่วย
Auto-Tune หรือ Waves Tune Real-Time จะช่วยดึงเสียงที่เพี้ยนให้กลับมาตรงคีย์
ปรับระดับการจูนให้นุ่มนวล ไม่แข็งกระด้าง เพื่อให้ยังคงความเป็นธรรมชาติ
หากต้องการของฟรี ลอง MAutoPitch หรือ GSnap
5. 🧠 ใส่อารมณ์ให้ถูก – เพราะมากกว่าความถูกต้อง
หากเราไม่รู้สึก แล้วจะทำให้คนอื่นรู้สึกไปกับเราได้ไงจริงไหมครับ การใส่อารมณ์ก็เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ทำให้คนสามารถร้องไห้ตามเพลงเราได้เลยนะจะบอกให้
เสียงร้องที่ “เพราะ” ไม่ได้อยู่ที่ความเป๊ะเท่านั้น แต่อยู่ที่การ “สื่อสาร” ด้วย
ร้องให้สื่อถึงอารมณ์ของเพลง เช่น เศร้า นุ่ม ละมุน หรือทรงพลัง
ลองฟังนักร้องต้นแบบ แล้วฝึกร้องตามเฉพาะ “น้ำเสียง” ไม่ใช่แค่คำ
อย่ากลัวเสียงตัวเอง ให้มั่นใจและกล้าเล่นกับเสียง
✍️ สรุป: การปรับเสียงร้องคือทักษะ ไม่ใช่พรสวรรค์
นักร้องมืออาชีพหลายคนไม่ได้เสียงดีมาตั้งแต่ต้น แต่พวกเขารู้จัก “ปรับเสียงตัวเองให้เพราะขึ้น”
ไม่ว่าจะผ่านการฝึกหายใจ จูนเสียงในโปรแกรม หรือใช้เทคนิคการร้องแบบมืออาชีพ
และถ้าคุณกำลังแต่งเพลงอยู่ การร้องเสียงเพราะขึ้นจะทำให้เดโมของคุณน่าฟังและมีโอกาสต่อยอดได้มากขึ้นด้วย หากสนใจบทความดีๆเกี่ยวกับการทำเพลงสามารถอ่านเพิ่มได้ที่นี่
โฆษณา