7 ส.ค. เวลา 10:24 • ดนตรี เพลง

7 ข้อที่เพิ่มโอกาสให้เพลงที่แต่งเป็นไวรัล: เทคนิคจากมุมมองนักแต่งเพลงยุคดิจิทัล Edit

2025-08-07
ในยุคที่โซเชียลมีเดียกลายเป็นเวทีหลักของคนฟังเพลง เพลงหนึ่งเพลงสามารถกลายเป็นกระแสได้ในชั่วข้ามคืน คำถามคือ…เราจะทำอย่างไรให้เพลงที่แต่งมีโอกาส “เป็นไวรัล” มากขึ้น?
เพลงดีไม่ใช่แค่เรื่องของฝีมือ แต่มันคือเรื่องของ “การเชื่อมโยง” “ความจดจำ” และ “การส่งต่อ”
ในฐานะนักแต่งเพลง เราไม่ได้แค่เล่าเรื่องผ่านเสียงและคำ แต่เรากำลังสร้าง “ประสบการณ์” ให้คนฟังอยากบอกต่อ
วันนี้ผมจะมาแชร์ 7 ข้อที่ช่วยเพิ่มโอกาสให้เพลงของคุณกลายเป็นเพลงฮิตที่แชร์กันทั่วโลกออนไลน์
1. เนื้อร้องต้องตรงจริตคนฟัง
คนฟังเพลงอย่างอินจากหูฟังมอนิเตอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีเพิ่มโอกาสให้เพลงเป็นไวรัลในยุคนี้
เพลงจะดังไม่ได้ ถ้าไม่มีใครรู้สึกว่า “เพลงนี้มันเขียนถึงเรา”
การเขียนเนื้อเพลงให้โดนใจคือหัวใจสำคัญที่สุด
ลองนึกถึงเพลงที่พูดแทนคนอกหัก คนที่ยังลืมไม่ได้ คนที่พยายามเข้มแข็งแต่ในใจกำลังพัง
ไม่ใช่แค่แต่งเพราะ แต่ต้องแต่งให้ “เข้าใจ” และ “พูดแทนใจ”
เพลง “ดึงดัน” หรือ “ขอโทษที่เป็นแบบนี้” คือหลักฐานที่ดีว่า ถ้าเพลงพูดแทนคนได้ มันก็พร้อมจะถูกแชร์
2. ท่อนฮุกต้องจำง่าย ร้องตามได้
เพลงไวรัลส่วนใหญ่มาจาก “ท่อนฮุก” ที่ติดหู
คำแนะนำคือ:
ใช้ประโยคสั้น ๆ ที่มีจังหวะจำง่าย
ทำให้คนร้องตามได้ตั้งแต่รอบแรก
ซ้ำคำหรือใช้วลีเด็ด เช่น “ไม่ไหวบอกไหว” หรือ “รักก็รักอยู่”
หากท่อนฮุกร้องตามได้ในเวลาไม่ถึง 10 วินาที เพลงคุณมีโอกาสติดหู และติดเทรนด์ได้ไม่ยาก
3. ความยาวที่เหมาะกับแพลตฟอร์ม
ในยุคที่ TikTok และ Reels เป็นแหล่งปั้นเพลง เพลงที่ดีควรมีเวอร์ชันที่เหมาะกับคลิปวิดีโอสั้น
แนะนำให้มีท่อนที่ใช้ได้ในความยาว 15–30 วินาที เพื่อให้คนตัดไปใช้ได้ง่าย
อย่าลืมว่า บางครั้งแค่ “15 วินาที” ก็มากพอจะเปลี่ยนชีวิตนักดนตรีคนหนึ่ง
4. ซาวด์หรือเสียงที่ไม่เหมือนใคร
ซาวด์ที่ไม่เหมือนใครคือสิ่งที่ทำให้เพลงคุณโดดเด่น
อาจจะเป็นเสียงอินโทรที่แค่ได้ยินก็รู้ว่าเป็นเพลงนี้
หรือใช้เครื่องดนตรีแปลก ๆ เสียงร้องสไตล์เฉพาะ หรือแม้แต่การตัดต่อเสียงให้ดู “แหวก”
ตัวอย่างเช่น เพลงของ Tilly Birds ที่ใช้กีตาร์เท่ ๆ กับการร้องสไตล์เฉพาะตัว
หรือ “Lalisa” ของลิซ่าที่ผสมเสียงเครื่องดนตรีไทยเข้าไปใน K-pop ได้อย่างลงตัว
5. บริบทที่ทำให้คนอยากแชร์
เพลงจะดังขึ้นได้อีก ถ้ามันมี “เรื่องเล่า”
การผูกเพลงเข้ากับช่วงเวลา เหตุการณ์ หรืออารมณ์ในสังคม จะช่วยให้คนอยากแชร์มากขึ้น
เช่น
เพลงที่พูดถึงวันวาเลนไทน์ ในช่วงกุมภาพันธ์
เพลงเศร้าที่พูดถึงการสูญเสีย ในช่วงคนกำลังอินกับซีรีส์แนวดราม่า
หรือแม้แต่เพลงปลุกใจตอนช่วงสอบ, ช่วงเปิดเทอม
ดนตรีที่มากับบริบท จะเข้าถึงใจคนได้ลึกกว่าดนตรีลอย ๆ ที่ไม่มีจุดจับ
6. มีอะไรให้คนทำร่วมกับเพลงได้
ยุคนี้ เพลงที่ดังมักไม่ใช่แค่เพลงที่คนฟัง แต่คือเพลงที่ “คนเล่นต่อได้”
ลองออกแบบเพลงให้คนสามารถทำอะไรกับมันได้ เช่น
ทำท่าเต้นสนุก ๆ
ทำมุกคลิปตลก
เล่น cover ได้ง่าย
ใช้ทำ challenge
ตัวอย่างที่ชัดคือ เพลง “วาดไว้” ที่ท่อนฮุกทำให้คนหยิบไปใช้ในคลิป cover, TikTok challenge และไลฟ์สดมากมาย
7. มีการจัดการหลังบ้านที่ดี
เพลงดีแต่ไม่มีคนเห็น = ไวรัลยาก
สิ่งที่ต้องทำหลังจากแต่งเพลงเสร็จ:
ลง YouTube / Spotify / TikTok / IG Reels / Facebook Reels
ส่งให้เพจรีวิวเพลง หรือ Influencer ใช้
ทำ lyric video หรือ story behind the song
วางแผนโปรโมตให้กระจายบนหลายแพลตฟอร์ม
อย่าลืมทำ metadata ให้ถูกต้อง เช่นชื่อเพลง, ศิลปิน, คำอธิบายใต้คลิป เพื่อให้ SEO บนแพลตฟอร์มรู้ว่าเพลงนี้เกี่ยวกับอะไร
สรุป: เพลงไวรัลไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
การที่เพลงหนึ่งจะไวรัล มันคือการ “สร้างโอกาส” ให้เกิดการแชร์ซ้ำ ๆ
ในฐานะนักแต่งเพลง เรามีอาวุธอยู่ในมือ นั่นคือ “เรื่องเล่า” ผ่านเสียงและคำ
ถ้าคุณสามารถเขียนเพลงที่พูดแทนใจ สร้างท่อนฮุกที่ติดหู บวกกับซาวด์ที่ไม่เหมือนใคร และมีการโปรโมตที่รอบด้าน เพลงของคุณก็อาจกลายเป็นเพลงไวรัลเพลงต่อไปได้
โฆษณา