29 ส.ค. เวลา 05:30 • การศึกษา

คำกล่าวที่เล่าต่อ: “ทุ สะ นะ โส”

นับเป็นอีกหนึ่งในเรื่องเล่าทางพุทธศาสนา ที่เป็นที่รู้จักกันดี ใช้เป็นเครื่องเตือนใจถึงผลแห่งกรรมและความประมาทในการใช้ชีวิต ที่พอจะสืบค้นและอธิบายที่มา หลักฐาน และเรื่องราวโดยละเอียดให้ทราบดังนี้
ที่มาและหลักฐาน: ปรากฏอยู่ใน อรรถกถา ขุททกนิกาย ธรรมบท ภาค ๑ เรื่อง มหาเศรษฐี ๔ คน
คัมภีร์หลัก: พระไตรปิฎก ส่วนของ ขุททกนิกาย ธรรมบท
คัมภีร์ขยายความ(ที่มาของเรื่องเล่า): อรรถกถาธรรมบท ซึ่งเป็นคัมภีร์ที่พระพุทธโฆษาจารย์ รจนาขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 10 เพื่ออธิบายขยายความเนื้อหาในพระธรรมบทให้เข้าใจง่ายขึ้น มีการเล่านิทานประกอบ จึงไม่ใช่พุทธพจน์โดยตรง แต่เป็นเรื่องราวที่พระอรรถกถาจารย์นำมาประกอบการอธิบายธรรมะ ซึ่งได้รับการยอมรับและใช้ในการเทศนาสั่งสอนสืบต่อกันมาอย่างยาวนาน
เรื่องราวโดยละเอียด
เรื่องนี้เกิดขึ้นใน 2 ยุคสมัย คือ สมัยของพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า(อดีตชาติ) และสมัยของพระโคตมสัมมาสัมพุทธเจ้า(ปัจจุบันชาติ)
๑. อดีตชาติ(ในสมัยพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า)
ณ กรุงพาราณสี มีมหาเศรษฐี 4 พี่น้อง แต่ละคนมีทรัพย์สมบัติมหาศาล(ประมาณ 40 โกฏิ) แต่พวกเขามีความเห็นตรงกันว่า ทรัพย์สมบัตินี้บรรพบุรุษหามา ไม่ได้นำติดตัวไปปรโลกด้วย ดังนั้น พวกเขาจึงควรใช้ทรัพย์สมบัตินี้ให้เต็มที่ ไม่ควรนำไปบริจาคทำบุญให้สูญเปล่า
ด้วยความตระหนี่ถี่เหนียวและมิจฉาทิฏฐิ พวกเขาจึงใช้ชีวิตอย่างประมาทมัวเมา คือ
1) จ้างคนมาฟ้อนรำ ขับร้อง ดื่มสุราเมรัย เสพสุขสำราญทุกวัน
2) ไม่เคยให้ทาน ไม่รักษาสีล ไม่เคยฟังธรรม
3) สั่งนายประตูไว้ว่า "หากมีสมณพราหมณ์หรือยาจกวณิพกมาขอทานที่หน้าประตู ห้ามให้เข้ามาเด็ดขาด และให้ขับไล่ไป"
พวกเขาใช้ชีวิตอย่างนี้จนสิ้นอายุขัย และด้วยอกุศลกรรมที่เกิดจากความตระหนี่ การมัวเมาในกามสุข และการไม่ทำบุญกุศลเลยตลอดชีวิต หลังตายจึงไปเกิดในอเวจีมหานรก
๒. ปัจจุบันชาติ(ในสมัยพระโคตมสัมมาสัมพุทธเจ้า)
วันหนึ่ง พระมหาโมคคัลลานเถระ ผู้เป็นอัครสาวกเบื้องซ้ายและเลิศในทางมีฤทธิ์ ได้จาริกไปยังเทวโลกแล้วกลับลงมาทางประตูนรกอเวจี ท่านได้เห็นภาพอันน่าสยดสยองของสัตว์นรก 4 ตนกำลังรับทุกขเวทนาอย่างแสนสาหัส
- สัตว์นรกทั้ง 4 ตนนั้น อยู่ในหม้อโลหะขนาดใหญ่ที่ลุกเป็นไฟ
- พวกเขาจะจมลงไปถึงก้นหม้อ แล้วค่อยๆ ลอยขึ้นมาจนถึงปากหม้อ เป็นเช่นนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าเป็นเวลายาวนานถึงหนึ่งพุทธันดร (ช่วงเวลาระหว่างที่พระพุทธเจ้าองค์หนึ่งปรินิพพานไปแล้ว จนถึงพระพุทธเจ้าองค์ใหม่มาตรัสรู้)
- เมื่อลอยขึ้นมาถึงปากหม้อ แต่ละตนมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะพูดระบายความทุกข์หรือบอกเล่าบางสิ่งบางอย่าง แต่ด้วยความทุกข์ทรมานแสนสาหัส พวกเขาจึงทำได้เพียงเปล่งเสียงออกมาได้แค่พยางค์เดียวแล้วก็จมกลับลงไปทันที
เสียงที่แต่ละตนเปล่งออกมาคือ
1. สัตว์นรกตนที่ 1 โผล่ขึ้นมาแล้วพูดว่า "ทุ..."
เขาตั้งใจจะพูดเต็มๆ ว่า "ทุชฺชีวิตมชีวมฺหา" (ทุช-ชี-วิ-ตะ-มะ-ชี-วัม-หา) แปลว่า "พวกเรามีชีวิตอยู่ชั่วเหลือเกินหนอ (ที่ไม่เคยให้ทานเลย)"
2. สัตว์นรกตนที่ 2 โผล่ขึ้นมาแล้วพูดว่า "ส..."
เขาตั้งใจจะพูดเต็มๆ ว่า "สฏฺฐี วสฺสสหสฺสานิ ปริปุณฺณานิ สพฺพโส" (สัด-ถี วัด-สะ-สะ-หัส-สา-นิ ปะ-ริ-ปุน-นา-นิ สับ-พะ-โส) แปลว่า "(พวกเรา) ต้องไหม้อยู่ในนรกนี้ครบหกหมื่นปีเต็มแล้วโดยสิ้นเชิง"
3. สัตว์นรกตนที่ 3 โผล่ขึ้นมาแล้วพูดว่า "น..."
เขาตั้งใจจะพูดเต็มๆ ว่า "นตฺถิ อนฺโต กุโต อนฺโต" (นัต-ถิ อัน-โต กุ-โต อัน-โต) แปลว่า "ที่สุด (ของการรับโทษ) ไม่ปรากฏเลย แล้วเบื้องหน้าแต่ที่ไหนจะปรากฏเล่า" หมายความว่า มองไม่เห็นจุดสิ้นสุดของความทุกข์นี้เลย
4. สัตว์นรกตนที่ 4 โผล่ขึ้นมาแล้วพูดว่า "โส..."
เขาตั้งใจจะพูดเต็มๆ ว่า "โสหํ นูน อิโต คนฺตฺวา โยนึ ลทฺธาน มานุสึ วทญฺญู สีลสมฺปนฺโน กาหามิ กุสลํ พหุํ"(โส-หัง นู-นะ อิ-โต คัน-ตวา โย-นิง ลัด-ธา-นะ มา-นุ-สิง วะ-ทัญ-ญู สี-ละ-สัม-ปัน-โน กา-หา-มิ กุ-สะ-ลัง พะ-หุง) แปลว่า "เรานั้น เมื่อพ้นจากนรกนี้ไปแล้ว ได้กำเนิดเป็นมนุษย์อีกครั้ง จักเป็นผู้รู้จักให้ทาน รักษาศีล และจะทำกุศลให้มาก"
เมื่อพระโมคคัลลานะกลับมาเฝ้าพระพุทธเจ้า ได้กราบทูลเรื่องที่ท่านได้พบเห็นมา พระพุทธองค์จึงทรงยืนยันเรื่องราวนั้นว่าเป็นเรื่องจริง และได้ตรัสเล่าอดีตชาติของสัตว์นรกทั้ง 4 ตนให้แก่ภิกษุทั้งหลายฟัง เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจ
คติธรรมและข้อคิดจากเรื่องนี้
1. ผลของความตระหนี่และความประมาท: การมีทรัพย์สมบัติแต่ไม่รู้จักใช้ให้เกิดประโยชน์ ไม่ทำบุญให้ทาน ย่อมนำไปสู่ความทุกข์ในทุคติภูมิ
2. กฎแห่งกรรม: กรรมที่ทำไว้ย่อมให้ผลเสมอ ไม่ว่าจะเป็นกุศลกรรมหรืออกุศลกรรม การกระทำในปัจจุบันคือสิ่งที่จะกำหนดอนาคต
3. ความทุกข์ในนรก: เรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสในนรกภูมิ ซึ่งทุกข์มากจนแม้แต่จะพูดให้จบประโยคก็ยังทำไม่ได้ เพื่อเน้นย้ำให้เกิดความเกรงกลัวต่อบาป(โอตตัปปะ)
4. คุณค่าของการเกิดเป็นมนุษย์: โอกาสในการเกิดเป็นมนุษย์และได้พบพระพุทธศาสนานั้นเป็นสิ่งที่ยากยิ่ง ควรใช้โอกาสนี้ในการสร้างบุญกุศล ไม่ควรปล่อยชีวิตให้ผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์ เหมือนที่สัตว์นรกตนสุดท้ายได้ตั้งความปรารถนาไว้
เรื่องวลีคำกล่าว "ทุ สะ นะ โส" จึงเป็นอุทาหรณ์ชั้นเยี่ยมที่ถูกนำมาใช้สอนพุทธศาสนิกชนให้เห็นถึงผลร้ายของความประมาทและความตระหนี่ และกระตุ้นให้เร่งขวนขวายในการทำความดีครับ.
โฆษณา