🤧 ทรมานกับไซนัสเรื้อรัง?: งานวิจัยใหม่ชี้ "การผ่าตัด" อาจได้ผลกว่าการกินยาปฏิชีวนะถึง 3 เท่า
คุณเคยทรมานกับอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล หรือปวดโพรงจมูกเรื้อรังไหมครับ? ไซนัสอักเสบเรื้อรัง คือโรคที่สร้างความรำคาญและบั่นทอนคุณภาพชีวิตของใครหลายคน และเรามักจะคิดว่าทางออกคือการพ่นยาหรือกินยาปฏิชีวนะ... แต่ถ้าผมจะบอกว่า มีงานวิจัยที่เพิ่งค้นพบว่า ‘การผ่าตัด’ อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่านั้นมากเลยล่ะครับ?
💊 เส้นทางการรักษาที่ยาวนาน
ไซนัสอักเสบเรื้อรัง คือภาวะที่โพรงอากาศรอบจมูกเกิดการอักเสบอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชากรโลกถึง 9%
โดยปกติแล้ว แนวทางการรักษาจะเริ่มต้นด้วยการใช้ยาสเปรย์พ่นจมูกและล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ หากอาการไม่ดีขึ้น แพทย์อาจสั่งยาปฏิชีวนะให้ทานต่อเนื่องเป็นเวลา 3 เดือน และหากยังไม่ได้ผลอีก การผ่าตัด เพื่อขยายโพรงไซนัสและกำจัดริดสีดวงจมูก (polyps) ก็จะถูกพิจารณาเป็น “ทางเลือกสุดท้าย”
🔬 การทดลองที่เปรียบเทียบหมัดต่อหมัด
เพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพของการรักษาแต่ละวิธี ทีมนักวิจัยนำโดย คาร์ล ฟิลพอตต์ (Carl Philpott) จากมหาวิทยาลัยอีสต์แองเกลีย (University of East Anglia) ในสหราชอาณาจักร ได้ทำการศึกษาในผู้ป่วยไซนัสอักเสบเรื้อรังกว่า 500 คน
พวกเขาได้แบ่งผู้ป่วยออกเป็น 3 กลุ่มแบบสุ่ม คือ กลุ่มที่ได้รับยาปฏิชีวนะ, กลุ่มที่ได้รับยาหลอก และกลุ่มที่เข้ารับการผ่าตัด โดยทุกกลุ่มยังคงใช้ยาสเปรย์พ่นจมูกและล้างจมูกตามปกติ
🎉 ผลลัพธ์ที่ชัดเจนเกินคาด
หกเดือนต่อมา ผลการศึกษาก็ได้แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างอย่างชัดเจน:
• กลุ่มที่เข้ารับการผ่าตัด: มีคะแนนอาการดีขึ้นโดยเฉลี่ยถึง 30 คะแนน
• กลุ่มที่ได้รับยาปฏิชีวนะและยาหลอก: มีคะแนนอาการดีขึ้นเพียงประมาณ 10 คะแนน
นั่นหมายความว่าการผ่าตัดให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าการใช้ยาปฏิชีวนะถึง 3 เท่า
🤔 ข้อควรพิจารณาและก้าวต่อไป
อย่างไรก็ตาม มีข้อสังเกตที่สำคัญคือ ผู้เข้าร่วมการทดลองถึง 80% มีริดสีดวงจมูกร่วมด้วย ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการที่งานวิจัยนี้ทำในช่วงการระบาดของโควิด-19 ที่อาจกระตุ้นให้เกิดริดสีดวงจมูกได้
ดังนั้น นักวิจัยจึงย้ำว่ายังจำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยันว่าผลลัพธ์นี้จะยังคงเหมือนเดิมหรือไม่ในกลุ่มผู้ป่วยที่ ไม่มีริดสีดวงจมูก ซึ่งมีการอักเสบคนละประเภทกัน
🏡 เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเราอย่างไร?
ไซนัสอักเสบเรื้อรัง คือหนึ่งในโรคที่พบบ่อยที่สุดในหมู่คนไทย โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ที่ต้องเผชิญกับมลภาวะและฝุ่น PM2.5 ซึ่งผู้ป่วยจำนวนมากต้องทนทุกข์ทรมานกับอาการเป็นเวลาหลายปี และต้องวนเวียนอยู่กับการใช้ยา
การค้นพบนี้จึงอาจเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญสำหรับแนวทางการรักษาในประเทศไทย โดยอาจกระตุ้นให้ทั้งแพทย์และผู้ป่วยพิจารณาทางเลือก “การผ่าตัด” ให้เร็วขึ้นในกลุ่มผู้ป่วยที่เหมาะสม (โดยเฉพาะผู้ที่มีริดสีดวงจมูก) เพื่อช่วยให้พวกเขากลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีได้เร็วขึ้น แทนที่จะมองว่าเป็นการรักษาในขั้นตอนสุดท้ายเสมอไป
🎯 สรุปประเด็นสำคัญ
✅ ผ่าตัดดีกว่ากินยา 3 เท่า: งานวิจัยใหม่เปรียบเทียบการรักษา ไซนัสอักเสบเรื้อรัง พบว่า การผ่าตัด ช่วยให้อาการดีขึ้นมากกว่าการกินยาปฏิชีวนะถึง 3 เท่า
✅ ท้าทายแนวทางเดิม: การค้นพบนี้ท้าทายแนวทางการรักษาในปัจจุบัน ที่มักจะให้ยาปฏิชีวนะระยะยาวก่อนจะพิจารณาการผ่าตัดเป็นทางเลือกสุดท้าย
✅ อาจเหมาะกับคนมีริดสีดวงจมูก: ผู้เข้าร่วมวิจัยส่วนใหญ่ (80%) มีริดสีดวงจมูกร่วมด้วย ซึ่งอาจเป็นกลุ่มที่ตอบสนองต่อการผ่าตัดได้ดีเป็นพิเศษ
✅ ต้องวิจัยต่อ: ยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมว่าผลลัพธ์นี้จะใช้ได้กับผู้ป่วยที่ไม่มีริดสีดวงจมูกหรือไม่
💬 แล้วคุณล่ะครับ...
คุณหรือคนใกล้ตัวเคยมีประสบการณ์กับไซนัสอักเสบเรื้อรังบ้างไหมครับ? แล้วการค้นพบนี้ทำให้คุณมองทางเลือกการรักษาเปลี่ยนไปหรือเปล่า?
มาแบ่งปันเรื่องราวกันในคอมเมนต์... และถ้าเรื่องนี้น่าสนใจ 👃 อย่าลืมกดบันทึกไว้ หรือแชร์ให้เพื่อนๆ ที่กำลังทรมานกับอาการนี้ได้อ่านด้วยกันนะครับ!
🔎 แหล่งอ้างอิง
1. Philpott, C., et al. (2025). The clinical effectiveness of clarithromycin versus endoscopic sinus surgery for adults with chronic rhinosinusitis with and without nasal polyps (MACRO): a pragmatic, multicentre, three-arm, randomised, placebo-controlled phase 4 trial. The Lancet. https://doi.org/p363
💖 มาช่วยกันขับเคลื่อน "Witly" กันครับ!
การตัดสินใจเรื่องสุขภาพที่ดีที่สุด ต้องมาจาก "ข้อมูล" ที่น่าเชื่อถือและรอบด้าน...
เป้าหมายของ Witly ก็เช่นกัน คือการทำหน้าที่เป็น "ผู้ช่วย" ที่จะกลั่นกรองงานวิจัยทางการแพทย์ที่ซับซ้อน แล้วนำมาเรียบเรียงเป็นข้อมูลที่ชัดเจน เพื่อให้คุณสามารถพูดคุยและตัดสินใจร่วมกับแพทย์ของคุณได้อย่างดีที่สุด
ทุกการสนับสนุนผ่าน "ค่ากาแฟ" ของคุณ คือพลังที่ช่วยให้เราสามารถทำภารกิจที่สำคัญนี้ต่อไปได้ครับ
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
