13 ก.ย. เวลา 03:52 • ธุรกิจ

🗣️ “โลกมันกลมกว่าที่คุณคิด”

บทเรียนราคาแพงของการ “พูดอย่าง-ทำอย่าง” ในวันที่คุณลาออก
💥 โศกนาฏกรรมในห้องสัมภาษณ์
ลองจินตนาการถึงสถานการณ์จริงที่เกิดขึ้นในวันนี้
“พนักงานคนหนึ่งลาออกจากบริษัท A โดยให้เหตุผลที่ดูดี — เขาพูดถึงการเติบโต, ความท้าทายใหม่, และกล่าวขอบคุณองค์กรเก่าอย่างสุภาพ… แต่ทันทีที่เข้าสู่ห้องสัมภาษณ์ของบริษัท B สิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือ ผู้จัดการฝ่ายบุคคลเพิ่งทานข้าวกับอดีตเจ้านายของเขาที่บริษัท A และได้รับฟังเรื่องราวที่แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง”
“นี่ไม่ใช่โชคร้าย แต่มันคือ ความเป็นจริงของโลกการทำงานที่เชื่อมต่อกัน”
ชื่อเสียง (Reputation) ไม่ได้ถูกสร้างจากสิ่งที่คุณใส่ไว้ในเรซูเม่ แต่เกิดจาก “เรื่องเล่า” ที่ถูกส่งต่อในเครือข่ายมืออาชีพ และบ่อยครั้งมันเดินทางได้เร็วกว่าตัวคุณเองคิด?
====
🕸️ The Small World Effect หรือกลไกของ “ชื่อเสียง”
1. Back-Channel Reference Check
* วันนี้บริษัทจำนวนมากไม่ได้ตรวจสอบเพียงคนที่คุณใส่ไว้เป็น reference แต่ใช้วิธีสอบถามเครือข่ายส่วนตัวแทน เช่น อดีตเพื่อนร่วมงานที่รู้จักกัน หรือหัวหน้าคนเก่าที่มี connection กับ HR ของบริษัทใหม่ ข้อมูลที่ได้มักตรงไปตรงมาและจริงใจกว่า เป็นการตรวจสอบที่คุณไม่สามารถควบคุมได้เลย
* ตัวอย่างเช่น บริษัทในสายเทคโนโลยีสตาร์ทอัพมักสอบถามเครือข่ายไม่เป็นทางการเพื่อดูว่าผู้สมัครทำงานร่วมกับทีมได้ดีจริงหรือไม่?
2. วงการเล็กกว่าที่คิด
* โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเฉพาะทาง เช่น เทคโนโลยี การเงิน หรือสื่อ คนในวงการเชื่อมโยงกันหมด รุ่นพี่มหาวิทยาลัย เพื่อนเก่าในงานสัมมนา หรือคู่ค้าระดับโปรเจกต์ อาจกลายเป็นผู้กุมชะตาการจ้างงานของคุณโดยที่คุณไม่รู้ตัว
* ตัวอย่างเช่น ในวงการธนาคารระดับโลก ผู้บริหารมักรู้จักกันผ่านงานสัมมนาเดียวกัน ทำให้ข้อมูลของผู้สมัครแพร่กระจายได้รวดเร็ว
3. รอยเท้าดิจิทัล (Digital Footprint)
* LinkedIn, Twitter/X หรือแม้กระทั่งโพสต์สาธารณะใน Facebook คือหลักฐานถาวรที่สะท้อนบุคลิกและทัศนคติของคุณ ทุกการกด Like การ Comment หรือบทความที่คุณแชร์ ล้วนถูกรวบรวมเป็นภาพลักษณ์ที่ผู้สัมภาษณ์อาจตรวจสอบได้ทันที
* ตัวอย่างเช่น  ผู้จัดการบางแห่งเล่าว่าเคยตัดสินใจไม่รับผู้สมัคร เพราะโพสต์ที่เต็มไปด้วยการบ่นด่าบริษัทเก่าในโลกออนไลน์ เป็นต้น
====
🎭 “ลาออกแบบดีๆ” มีสิ่งที่ต้องเลี่ยงคือ?
1. พูดแง่ลบเกี่ยวกับที่ทำงานเก่า
* แม้จะเป็นความจริง แต่ผู้สัมภาษณ์ใหม่จะสงสัยทันทีว่า “แล้วถ้าวันหนึ่งเขาออกจากที่เรา เขาจะพูดถึงเราแบบนี้หรือไม่?” นี่คือสัญญาณของการขาดวุฒิภาวะและความไม่เป็นมืออาชีพ การบ่นถึงระบบแย่ๆ อาจทำให้คุณเสียคะแนนแม้จะเก่งเพียงใดก็ตาม
* ตัวอย่างเช่น  มีผู้สมัครงานในสายสื่อสารองค์กรคนหนึ่ง ที่วิจารณ์หัวหน้าเก่าอย่างหนักในห้องสัมภาษณ์ สุดท้าย HR ของบริษัทใหม่เลือกปฏิเสธทันที แม้ว่าเขาจะมีผลงานดีมาก
* ในหลายอุตสาหกรรม เช่น เทคโนโลยีหรือการเงิน มีรายงานจาก LinkedIn ว่า การแสดงทัศนคติลบต่อบริษัทเก่าในที่สาธารณะทำให้โอกาสได้งานใหม่ลดลง เพราะองค์กรใหม่กังวลถึงพฤติกรรมในอนาคต
2. สร้างเรื่องราวที่ไม่ตรงความจริง
* เรื่องเล่าที่ไม่ตรงกับความจริงอาจฟังดูดีในระยะสั้น แต่หากข้อมูลจริงรั่วไหล ความน่าเชื่อถือของคุณจะหายไปทันที และโอกาสในอนาคตจะถูกปิดตาย การโกหกแม้เพียงเล็กน้อยก็สามารถขยายผลลบเป็นวงกว้าง
* ตัวอย่างเช่น  ผู้จัดการฝ่ายบุคคลบางรายเปิดเผยว่า เคยตรวจสอบพบความขัดแย้งระหว่างคำพูดผู้สมัครกับข้อมูลจริงจากเจ้านายเก่า ทำให้ปฏิเสธผู้สมัครโดยไม่ลังเล
* Gartner ชี้ว่ากว่า 60% ของ HR ใช้การตรวจสอบข้อมูลจากเครือข่ายส่วนตัว หากพบความไม่ตรงกัน แม้เพียงเรื่องเล็กน้อย ก็ทำให้ความน่าเชื่อถือของผู้สมัครหายไปทันที  [Gartner, (2022), Future of HR: Shaping the Employee Experience, https://www.gartner.com/en/human-resources]
====
🧭 การลาออกอย่างมืออาชีพ (The Professional Resignation)
1. สื่อสารตรงไปตรงมาและให้เกียรติ
* แจ้งข่าวกับหัวหน้าโดยตรง ไม่ใช่อีเมลสั้นๆ หรือฝากคนอื่นบอก การคุยตัวต่อตัวหรือ video call แสดงถึงความเป็นมืออาชีพและรักษามาตรฐานความสัมพันธ์ การเปิดใจอธิบายเหตุผลอย่างจริงใจจะช่วยลดความเข้าใจผิดและทำให้คุณออกจากองค์กรอย่างสง่างาม
2. สร้างเรื่องเล่าที่เป็นจริงและเป็นบวก
* โฟกัสที่ ปัจจัยดึง (Pull Factors) ของงานใหม่ เช่น โอกาสในการพัฒนาทักษะ หรือความท้าทายที่สอดคล้องกับเป้าหมายระยะยาว มากกว่าการพูดถึง ปัจจัยผลัก (Push Factors) ของงานเก่า เช่น ความขัดแย้งกับหัวหน้า
* ตัวอย่างเช่น  แทนที่จะบอกว่า “ผมลาออกเพราะไม่ชอบผู้จัดการ” ให้พูดว่า “ผมได้รับโอกาสที่จะพัฒนาในสายงานดิจิทัล ซึ่งตรงกับเส้นทางอาชีพที่ผมตั้งใจไว้”
3. ทำงานเต็มที่จนวันสุดท้าย
* ใช้ช่วงเวลานี้ปิดโปรเจกต์ ส่งมอบงานอย่างละเอียด และกล่าวขอบคุณเพื่อนร่วมงาน ความประทับใจในช่วงเวลาสุดท้ายจะเป็นสิ่งที่ผู้คนจดจำได้ยาวนานกว่าปีที่คุณอยู่ในองค์กรเสียอีก
* ตัวอย่างเช่น  อดีตพนักงานของบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกเล่าว่า ได้รับการต้อนรับกลับเข้าทำงานอีกครั้งในภายหลัง เพราะเขาทำ handover เอกสารอย่างสมบูรณ์และช่วยฝึกทีมแทนในช่วงสองสัปดาห์สุดท้าย
4. รักษาความสัมพันธ์ (Don’t Burn Bridges)
* การลาออกไม่ใช่การตัดขาด แต่คือการเปลี่ยนบทบาท ความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานและหัวหน้าเก่ามีค่ามหาศาล คนที่เคยอยู่ทีมเดียวกับคุณอาจเป็นคนสัมภาษณ์คุณในอนาคต
* ตัวอย่างเช่น  มีกรณีจริงที่ผู้จัดการใหม่เคยเป็นลูกทีมของผู้สมัครในอดีต การรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับทุกคนจึงเป็นการลงทุนที่ไม่มีวันขาดทุน
====
✨ ดังนั้น ชื่อเสียงคือสินทรัพย์ที่ประเมินค่าไม่ได้
ชื่อเสียง คือ “ทุนทางสังคม” ที่ใช้เวลาหลายปีสร้าง แต่สามารถพังได้จากบทสนทนาเพียงครั้งเดียว จงมองอาชีพของคุณเป็นเกมระยะยาว ทุกการทำงาน ทุกโปรเจกต์ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทุกการจากลา ล้วนเป็นหมากสำคัญที่ส่งผลต่ออนาคต
เรซูเม่สวยหรูอาจพาคุณไปถึงห้องสัมภาษณ์ แต่ชื่อเสียงที่ดีเท่านั้น ที่จะพาคุณไปถึง “งาน”
เพราะโลกการทำงานในวันนี้ไม่ได้ใหญ่โตเกินเอื้อม แต่มันเล็กจนทุกการกระทำสามารถสะท้อนกลับมาหาคุณได้เร็วกว่าเคย การลาออกอย่างมืออาชีพจึงไม่ใช่เพียงการจากลา แต่คือ “กลยุทธ์ระยะยาว” ที่กำหนดทิศทางอาชีพทั้งชีวิตของคุณ
#วันละเรื่องสองเรื่อง
#Professionalism
#Reputation
#CareerAdvice
#Networking
#ItsASmallWorld
#ลาออก
#วัฒนธรรมองค์กร
โฆษณา