#9 9️⃣ การเปลี่ยนแปลงที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ทุกสิ่ง — บทที่ 6️⃣ การเปลี่ยนแปลงที่ 2
💟 ผู้แปล : คุณ♾️อุดม
.6️⃣. การเปลี่ยนแปลงที่ 2
สิ่งที่สร้างความเป็นจริงในประสบการณ์ทางกายภาพที่เราเรียกว่าชีวิตมีอยู่ 6 ประการ ผมเพิ่งกล่าวถึงไปเมื่อสักครู่ ได้แก่ : เหตุการณ์ ข้อมูล ความจริง ความคิด อารมณ์ และประสบการณ์ หากองค์ประกอบใดองค์ประกอบหนึ่งใน 6 สิ่งนี้เปลี่ยนแปลง ความเป็นจริงของคุณก็จะเปลี่ยนแปลงไปด้วย นั่นหมายความว่าถ้าคุณต้องการเปลี่ยนประสบการณ์ปัจจุบันของการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของคุณ คุณต้องเปลี่ยนองค์ประกอบใดองค์ประกอบหนึ่งในนั้น ซึ่งทั้งหมดนี้นำเรามาถึง . . .
การเปลี่ยนแปลงที่ #2:
#เปลี่ยนการเลือกอารมณ์ของคุณ
สิ่งที่ผมต้องการบอกคุณคือคุณสามารถเปลี่ยนการเลือกอารมณ์ของคุณได้—และด้วยเหตุนี้ จึงเปลี่ยนวิธีที่คุณกำลังประสบกับการเปลี่ยนแปลงนั้นเอง ผมไม่สามารถบอกทุกอย่างเกี่ยวกับวิธีที่คุณสามารถทำได้ในบทนี้ เพราะมันมีรายละเอียดมากกว่าที่ผมจะใส่ไว้ในแค่ไม่กี่บรรทัดที่นี่ และทั้งหมดนี้เชื่อมโยงอย่างแนบแน่นกับการเปลี่ยนแปลงครั้งที่ 3 และ 4—ดังนั้นเราจึงต้องพิจารณาทั้ง 3 อย่างไปพร้อมกัน
แต่ตอนนี้ขอให้ผมกล่าวเพียงว่าคุณสามารถเปลี่ยนอารมณ์ของคุณเกี่ยวกับอะไรก็ได้ เกี่ยวกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในชีวิตของคุณตอนนี้ เกี่ยวกับตัวคุณเอง เกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้
เกี่ยวกับอะไรก็ได้
ตอนนี้คุณอาจจะคิดว่าสิ่งนี้เป็นไปไม่ได้ คุณอาจรู้สึกว่ามันเป็นความหยิ่งผยองหรือความเย่อหยิ่งที่ผมจะแนะนำเช่นนั้น ผมรู้ด้วยว่าคุณเคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนในหนังสือ “พัฒนาตนเอง” ในการบรรยาย . . . ดังนั้นคุณอาจจะคิดว่า ฟังนะ ถ้ามันง่ายขนาดนั้น ทำไมคนทั่วไปถึงทำไม่ได้❓ มันไม่ใช่ความโหดร้ายหรอกหรือที่จะชูมันไว้เหมือนแครอท เมื่อคุณรู้ว่ามันอยู่บนไม้และคนส่วนใหญ่เอื้อมไม่ถึง❓
ใช่ ถ้าเป็นกรณีนั้น มันคงโหดร้าย แต่ผมจะไม่มีวันทำแบบนั้น ผมจะไม่มีวันวางสิ่งที่คุณไม่มีทางเอื้อมถึงไว้ตรงหน้าคุณ ผมไม่ได้พยายามทำให้คุณบ้า ผมกำลังพยายามทำให้คุณมีความสุข
ดังนั้น แม้ว่าคุณจะเคยได้ยินสิ่งเหล่านี้มาก่อน คราวนี้ผมอยากให้คุณคิดเกี่ยวกับมันจริงๆ ไม่ จริงๆนะ ผมหมายถึง ได้โปรด แค่หลับตาและคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะสิ่งที่ผมเพิ่งพูดไปเป็นหนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุด (และปฏิวัติที่สุด) ที่ใครจะเคยพูดกับคุณ และแม้ว่าคุณอาจจะเคยได้ยินมาก่อน คุณอาจจะยังไม่ได้สำรวจอย่างลึกซึ้งถึงความเป็นไปได้ที่มันจะเป็นความจริง ดังนั้น คุณจะทำแบบนั้นตอนนี้ได้ไหม❓
ผมหมายถึง มันเป็นไปได้ไหมที่สิ่งนี้ก็เป็นสิ่งที่คุณแค่ไม่เข้าใจอย่างสมบูรณ์ . . . #เป็นการเข้าใจซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงได้ทุกสิ่ง❓
คราวนี้ผมขอให้คุณหยุดอ่าน แค่ชั่วครู่ แค่หยุดพักสั้นๆ แค่ให้เวลาพอที่จะตัดสินใจว่าคุณต้องการรู้สึกอย่างไรกับเรื่องนี้
คุณจับความย้อนแย้งตรงนั้นได้ไหม❓ ผมต้องการให้คุณ "เลือกว่า" คุณต้องการรู้สึกอย่างไรกับความคิดที่ว่า #คุณสามารถเลือกได้ว่าคุณต้องการรู้สึกอย่างไร
ดังนั้นโปรดทำต่อไป ปิดหนังสือและคิดเกี่ยวกับมัน ถามตัวเองบางคำถาม ชีวิตของฉันจะเป็นอย่างไรถ้าฉันคิดว่าฉันสามารถเลือกอารมณ์ของตัวเองได้จริงๆ แทนที่จะถูกครอบงำด้วยอารมณ์❓ เป็นไปได้ไหมที่จะเปลี่ยนอารมณ์หลังจากที่ฉันกำลังมีมันอยู่แล้ว❓ ไม่ใช่เพิกเฉยหรือทำงาน “ทับมัน” (เอาสิ่งอื่นมากลบฝังมัน) แต่เป็นการเปลี่ยนอารมณ์ที่ฉันกำลังมีได้จริงๆ ฉันทำ (อย่างนั้น) ได้ไหม❓ ได้ตามความต้องการ❓ (ได้ตามใจสั่ง❓)
โปรดครุ่นคิดถึงคำถามนั้น—และมันจะหมายความว่าอย่างไรถ้าคำตอบคือ ใช่ — เอาล่ะ . . .
#พักสูดลมหายใจตรงนี้สักครู่
หายใจเข้าไปในสิ่งที่คุณเพิ่งอ่าน จากนั้น . . . ตัดสินใจตอนนี้ว่าคุณต้องการจะอ่านต่อ หรือพักกับมันสักพัก แล้วมาพบกับผมที่นี่ในภายหลัง . . . หรือไม่พบเลยก็ได้
ถ้าคุณพร้อมที่จะอ่านต่อ ให้เลื่อนลงไปที่ . . .
⭕#ผู้สนับสนุนอารมณ์ทั้งหมด⭕
ตกลงครับ เรากำลังพูดถึงเรื่องอารมณ์กันอยู่ หรือจริงๆ แล้ว ผมกำลังพูดถึงอารมณ์ ที่ในขณะเดียวกัน คุณก็กำลังมีอารมณ์เหล่านั้นอยู่ ทั้งหมดที่คุณพยายามทำคือจัดการกับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นในชีวิตของคุณ กับภัยพิบัติที่น่ากลัวที่อาจกำลังเกิดขึ้น ในขณะที่ผมกำลังเริ่มบรรยายเล็กๆเกี่ยวกับจิตวิทยามนุษย์และสิ่งที่ก่อให้เกิดอารมณ์และวิธีที่เราสามารถเปลี่ยนแปลงมัน
แต่คุณรู้อะไรไหม❓ ผมไม่กล้าทำอะไรแบบนั้น ผมจะไม่พูดถึงเรื่องพวกนี้ด้วยซ้ำ ถ้าผมไม่คิดว่ามันจะช่วยคุณได้ ที่นี่ เดี๋ยวนี้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอยู่ก็ตาม ใช่ แม้แต่ถ้าคุณสูญเสียงาน แม้แต่ถ้าคุณสูญเสียบ้าน แม้แต่ถ้าคุณรู้สึกว่าคุณกำลังจะสูญเสียทุกอย่าง
อย่างที่ผมได้พูดไป ผมคิดว่าผมรู้อยู่บ้างเกี่ยวกับสิ่งที่คุณกำลังเผชิญ ผมเคยอยู่ตรงนั้น และมันใช้เวลาหลายปีกว่าผมจะเข้าใจสิ่งที่ผมกำลังจะบอกคุณตอนนี้ ผมแค่ไม่เข้าใจมัน จนกระทั่งผมเข้าใจ (ด้วยความช่วยเหลือจากเพื่อนคนหนึ่ง . . .)
ดังนั้นตอนนี้ ขอให้ผมย้อนกลับไปนิดหนึ่งและเน้นย้ำประเด็นที่ผมเพิ่งพูดเกี่ยวกับอารมณ์ และผมสัญญากับคุณว่า คุณจะเห็นว่าทั้งหมดนี้เชื่อมโยงกันอย่างไรและเกี่ยวข้องโดยตรงกับคุณอย่างไร. . . รวมถึงมันสามารถสร้างความแตกต่างได้จริงๆในช่วงเวลานี้ของชีวิตคุณได้อย่างไร ผมหมายถึง นั่นคือจุดประสงค์ตรงนี้ใช่ไหม❓ นั่นคือประเด็นของการสนทนานี้ ใช่ไหม❓ ไม่อย่างนั้นผมก็แค่พูดเพ้อเจ้อไปเรื่อย
ดังนั้น . . . มาดำดิ่งกลับเข้าไปกันเถอะ มาดูที่อารมณ์เฉพาะอย่างนั่นคือความกลัว (ผมใช้อันนี้เพราะมันมีพลังมาก) และดูว่าเราสามารถเปลี่ยนมันได้อย่างไร
#ความกลัวเป็นอารมณ์ที่คุณมีซึ่งได้รับการสนับสนุนจากความคิดที่คุณมี #ซึ่งสร้างประสบการณ์ที่คุณมีต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตของคุณ คนส่วนใหญ่คิดว่าความกลัวถูกสร้างขึ้นโดยตรงจากเหตุการณ์ นั่นคือ คนส่วนใหญ่คิดว่าลำดับคือ: เหตุการณ์=ประสบการณ์ ซึ่งไม่เป็นความจริง หลักฐานที่ว่ามันไม่จริงคือ อารมณ์ไม่ได้เกิดขึ้น (เหมือนกันทุกครั้ง) อย่างสม่ำเสมอ สิ่งเดียวกันไม่ได้สร้างความกลัว (ให้เกิดขึ้นเหมือนกันทุกครั้ง) ตัวอย่างเช่น ในคนสองคนที่แตกต่างกัน บางครั้งมัน (ความกลัว) เกิดขึ้น แต่บ่อยครั้งก็ไม่เกิด
สิงโตที่คำรามสามารถสร้างความกลัวในคนหนึ่งแต่ไม่ใช่กับอีกคนหนึ่ง (เช่น คนฝึกสิงโต) ความสูงสามารถสร้างความกลัวในคนหนึ่งแต่ไม่ใช่กับอีกคนหนึ่ง (เช่น นักแสดงบนเชือก) การพูดในที่สาธารณะสามารถสร้างความกลัวในคนหนึ่ง (มันถูกระบุในการสำรวจครั้งแล้วครั้งเล่าว่าเป็นหนึ่งในความกลัวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่มนุษย์หลายคนเผชิญ) แต่ไม่ใช่กับอีกคนหนึ่ง (เช่น วิทยากรหรือนักแสดง)
ดังนั้นเราสามารถเห็นพ้องกันได้ว่าไม่มีคนสองคนที่รับประกันได้ว่าจะมีประสบการณ์ (ความกลัว) เดียวกันเมื่อเผชิญกับเหตุการณ์ภายนอกเดียวกัน ใช่ไหม❓ แหม่ เหตุการณ์เดียวกันยังไม่ได้สร้างประสบการณ์ที่เหมือนกันในคนเดียวกันทุกครั้งด้วยซ้ำ
แล้วอะไรล่ะที่สร้างความกลัว❓ ถ้าไม่ใช่สิงโตที่คำราม หรือความสูงของบันได หรือผู้ชมที่รอฟังคุณ แล้วมันคืออะไร❓
มันคือบางสิ่งภายในตัวคุณ มันคือความคิด (แนวคิด) และความทรงจำและการคาดการณ์และกรอบแนวคิดและความกังวลและความเข้าใจและความปรารถนาและสภาพเงื่อนไขของคุณและอื่นๆ และสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดตกอยู่ในหมวดหมู่กว้างๆเพียงหนึ่งหมวด
(กระแส)★ ความคิด
[★ผมเพิ่มคำว่ากระแส เพราะมันไม่ใช่แค่ ความคิดเดียว แต่เป็นความคิดจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน ที่เคยคิดเกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ มานับครั้งไม่ถ้วน –ผู้แปล]
#เป็นความคิดของคุณที่สนับสนุนความกลัวของคุณ และไม่มีอะไรอื่นอีก #ความคิดเป็นตัวสนับสนุนอารมณ์ทั้งหมด
สิ่งที่ผมกำลังทำตอนนี้ เป็นทั้งคำแถลงที่ปฏิวัติวงการ (ความรู้ทางตะวันตก) และก่อให้เกิดข้อโต้แย้ง เพราะความรู้ทางวิทยาศาสตร์ในเรื่องที่เกี่ยวกับสมองบอกว่ามันเป็นไปในทางตรงกันข้าม นักประสาทวิทยาบอกเราว่าอารมณ์มาก่อนความคิด เป็นผลผลิตของระบบลิมบิกของสมอง และ “ความคิด” เกิดขึ้นในส่วนบนของสมอง ซึ่งวิเคราะห์อารมณ์ที่เรากำลังมี
ผมกำลังพูดตรงนี้ว่าความจริงคือสิ่งตรงกันข้าม ผมกำลังพูดว่าระบบลิมบิกสร้างสิ่งที่ผมเรียกว่าความจริง(ที่เห็น)(Truth)(เป็นแนวคิดโดยรวมของจิตใจที่มีต่อบางสิ่ง – ที่ก่อให้เกิดเป็นความเห็น) #ซึ่งความเห็นที่มีต่อสิ่งต่างๆก่อให้เกิดความคิด_ซึ่งสร้างอารมณ์
ทุกครั้งที่คุณแสดงอารมณ์ใดๆคุณสามารถพูดได้เลยว่า “และตอนนี้ ข้อความจากผู้สนับสนุนของเรา❗” เหมือนผู้สนับสนุน (sponsors) ในโทรทัศน์ ความคิด (ที่คือผู้สนับสนุน) เป็นตัวหยุด (คั่น) การแสดง
#ข้อเท็จจริงที่ว่าความคิดสนับสนุนอารมณ์เป็นข่าวที่ดีที่สุดเท่าที่คุณจะเคยได้ยิน
ถ้าเรายอมรับมุมมองของนักวิทยาศาสตร์ที่ว่ามันเป็นไปในทางตรงกันข้าม คือเรายอมรับเป็นข้อเท็จจริงที่ว่าแต่ละคนมีข้อจำกัดติดตัว : เราไร้ความสามารถโดยสิ้นเชิงที่จะตัดสินใจอย่างเป็นกลางว่าเราจะรู้สึกอารมณ์ไหน เรายอมรับว่าความเป็นเราขึ้นอยู่กับปฏิกิริยาทางอารมณ์ของเราและต้องเอาชนะมันด้วยความคิดถ้าเราต้องการให้มันแตกต่างไป
ทฤษฎีของผมตรงนี้คือ มันไม่ใช่คำถามของการเอาชนะอารมณ์ของเราเพื่อให้มันเป็นอย่างที่เราต้องการ แต่เป็นการสร้างมัน (ให้เป็นแบบที่เราต้องการ) แบบนั้นตั้งแต่ต้น ความคิดนี้อาจจะใหม่สำหรับวิทยาศาสตร์การแพทย์ แต่ไม่ใหม่สำหรับจิตวิญญาณ ซึ่งยืนยันว่าเราเป็นมากกว่าเครื่องจักรทางชีววิทยา และจิตใจไม่เหมือนกับสมอง แต่ซับซ้อนและละเอียดอ่อนกว่ามาก—#และจิตวิญญาณนั้นก็ยิ่งใหญ่และซับซ้อนยิ่งกว่าจิตใจเสียอีก❗★
★ตรง 2 ย่อหน้านี้ก็ประมาณว่า แทนที่เราจะไปคอยแก้อารมณ์ที่เกิดขึ้นด้วยความคิดในภายหลัง (ที่จริงๆแล้วมันเกิดจากความคิดที่เราไม่ยอมควบคุมมาตั้งแต่แรก คือปล่อยให้มันฟุ้งซ่านไปเรื่อยๆ เป็นต้น) ซึ่งเป็นวิธีแบบตั้งรับ คือรอให้เกิดก่อนแล้วค่อยแก้ (แบบวิถีการแพทย์สมัยใหม่ที่รอให้อาการเกิดก่อนแล้วค่อยให้ยารักษาอาการ)
— จะดีกว่าไหมถ้าเราคิดให้ดี คิดให้ถูกทางไปเลยตั้งแต่แรก ด้วยการฝึกควบคุมความคิด (ที่อาจไปถึงขั้นตัดความคิดที่ไม่เกิดประโยชน์ได้ทุกครั้งที่มันเกิดขึ้น) เพื่อที่เราจะได้สร้างอารมณ์ให้เป็นไปในแบบที่เราต้องการ ซึ่งเป็นวิธีแบบเชิงรุก (ที่ป้องกันไม่ให้โรคเกิดขึ้นมาเลยตั้งแต่แรก ซึ่งโรคในที่นี้ก็คือ โรคทุกข์ใจ) ซึ่งชาวพุทธที่เป็นนักปฏิบัติทางจิต (ฝึกสติ) จะเข้าใจตรงนี้ได้ไม่ยากเลย –ผู้แปล
ในขณะนี้ ขณะที่คุณเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดที่กำลังเกิดขึ้นในชีวิตของคุณ นี่คือข่าวดีที่สุดที่คุณจะได้รับ ทำไมน่ะหรือ❓ เพราะมันให้เครื่องมือที่คุณไม่เคยคิดว่าคุณมี
เพราะมันพลิกแบบจำลองทางการแพทย์ตามมาตรฐาน ที่วางความคิดไว้ก่อนอารมณ์ แทนที่จะเป็นหลังจากนั้น (คืออารมณ์อยู่ก่อนความคิด) —หมายความว่า #เราเป็นผู้ควบคุมตรงนี้ #เพราะความคิดสามารถเปลี่ยนแปลงได้
เมื่อสักครู่ที่ผ่านมาเราพูดถึงการเปลี่ยนอารมณ์ของคุณ ซึ่งผมบอกว่า #การเปลี่ยนอารมณ์เป็นวิธีเปลี่ยนการเปลี่ยนแปลงนั้นเอง ตอนนี้ผมจะบอกคุณว่า #คุณสามารถเปลี่ยนอารมณ์ได้อย่างไร
★#เปลี่ยนความคิดของคุณเสีย★
*
Whereas the Heart is used to being
the only place where Love is found
ในขณะที่หัวใจเคยชิน
กับการเป็นที่สถิตแห่งเดียวของความรัก
a Mind full of joy
draws the Heart like a moth,
into a surprisingly different flame.
จิตที่เปี่ยมด้วยความสุข
ดึงดูดหัวใจดั่งผีเสื้อกลางคืน
สู่เปลวไฟที่แตกต่างอย่างน่าประหลาด
A flame where nothing burns—
no wings are forfeited.
เปลวไฟที่ไม่มีสิ่งใดถูกเผาไหม้—
ไม่มีปีกใดต้องสูญเสีย
As if God stretches the length of The Home
to abide in every room at once,
ราวกับว่าพระเจ้าทรงขยายพระองค์ไปทั่วทั้งบ้าน
เพื่อสถิตในทุกห้องพร้อมกัน
simply
because
We
can
เพียงเพราะ
ว่า
เรา
ทำได้
*
—‘จิตที่เปี่ยมสุข’ © 2007 เอ็ม แคลร์
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
