Blockdit Logo (Mobile)
จิด.ตระ.ธานี #ให้ภาพเล่าเรื่อง
•
26 ก.ย. เวลา 16:23 • ประวัติศาสตร์

เนรมิตตัวเองในวัย 50+ กับวัย 25 มาร่วมเฟรมเดียวกันได้ด้วย Ai

ไม่ใช่ “พ่อกับลูก” หรือ “ลุงกับหลาน” ที่ไหน แต่...คือตัวผมเองในวัย 50+ (รูปที่ #Ai เจนออกมา ผมดูแก่เกินกว่าตัวจริงไปมาก กลายเป็นอาแปะวัย 60+ ซะงั้น (ฮา) ส่วนหนุ่มน้อยขวามือ หน้าตาเกาหลีเกาใจ ก็คือตัวผมเองตอนอายุ 25 ปี เดี๋ยว...เดี๋ยว จะไม่เชื่อกันว่า สมัยเกือบจะ 30 ปีก่อนโน้น หน้าตาผมเป็นแบบนี้จริงๆ หรือ? ** ดูรูปต้นฉบับด้านล่างด่วน! ครับ ^_^
ภาพนี้เป็นภาพที่ผมถ่ายคู่กับ อ.สุวัฒน์ แสนขัติ (ขณะนั้นยังไม่ได้เปลี่ยนนามสกุลเป็น “แสนขัติยรัตน์”) เป็นภาพคู่ 2 ศิลปินที่ใช้สำหรับส่งสื่อมวลชน (หนังสือพิมพ์ นิตยสาร บลาๆ สมัยนั้น) เพื่อประชาสัมพันธ์นิทรรศการ “จิตรกรรมไทย ๒ จิตวิญญาณ” จัดที่ โรงแรมมณเฑียรริเวอร์ไซด์ ถ.พระรามที่ 3 เป็นการแสดงผลงานคู่เต็มตัวครั้งแรกของผมกับ อ.สุวัฒน์ เมื่อ พ.ศ. 2540 แสดงก่อนหน้าค่าเงินบาทจะลอยตัวไม่กี่เดือน จนกลายเป็น #วิกฤตต้มยำกุ้ง (วิกฤตเศรษฐกิจครั้งประวัติศาสตร์ในประเทศไทยที่ลุกลามไปทั่วเอเชีย)
เม้าท์ต่อ: สมัยโน้นเทรนด์เกาหลียังไม่มา ผมเลยเป็นได้แค่ “ไอ้ตี๋” ย้อนกลับไป (ไกลหน่อย) สมัยเรียนประถมปลาย ผมถูกไอ้เพื่อนขี้เหร่ (ตามันเข แถมตัวใหญ่กว่า) จอมรังแก ชอบล้อผมว่า “ไอ้เจ๊กกบฏ” ผมรู้แต่คำว่า “เจ๊ก” คือคำที่ใช้เรียกเหยียดคนจีนในไทย แต่คำว่า “กบฏ” นี่มายังไง..ไม่ทราบ? แต่การล้อเลียนที่ทำให้เราโกรธได้ ไม่จำเป็นต้องรู้ความหมาย แค่การใช้น้ำเสียงและท่าทาง ก็รู้แล้วว่ามันจงใจเหยียดหรือดูถูกหน้าตาเรา
พอโตขึ้นมาหน่อยถึงเข้าใจความหมายของคำว่า “เจ๊กกบฏ” ซึ่งสามารถย้อนไปได้ไกลเป็นร้อยปี จากข้อมูลคือ...ในสมัยรัชกาลที่ 3 ที่มีชาวจีนโพ้นทะเลอพยพมาอยู่ในไทยจำนวนมาก และได้ก่อตั้งสมาคมลับของตัวเองเรียกว่า “ตั้วเหี่ย” (ต่อมาถูกแทนด้วยคำว่า “อั้งยี่” ในสมัยรัชกาลที่ 5)
จุดประสงค์แรกของการก่อตั้ง เพื่อช่วยเหลือพวกพ้องชาวจีนด้วยกันเอง ต่อมามีการรวมอำนาจกลายเป็นเครือข่ายใต้ดิน และได้ลุกฮือก่อความวุ่นวาย จนบานปลายกลายเป็นการจลาจลเผาเมือง (สาเหตุเกิดจากความโกรธแค้นที่ถูกเจ้าเมืองข่มเหง) และได้สังหาร “พระยาวิเศษฦๅไชย” เจ้าเมืองฉะเชิงเทรา ระหว่างการสู้รบที่บางคล้า เมื่อ พ.ศ. 2391 จนรัฐบาลที่กรุงเทพฯ ต้องส่งทัพหลวงเข้าปราบอย่างเด็ดขาด
ส่วนทำไมคนไทยจึงเรียกคนจีนว่า “เจ๊ก” นั้น (คนจีนแผ่นดินใหญ่ - จีนไต้หวัน ไม่รู้จักคำนี้) บทความในศิลปวัฒนธรรม ให้คำอธิบายไว้อย่างละเอียดชัดเจนแล้ว (ดูลิงค์อ้างอิงท้ายบทความ)
พอมาถึงยุคนี้ คงไม่มีใครเดือดร้อนถ้าจะถูกเรียกว่า “ไอ้ตี๋” กันอีกแล้ว แถมยังกลายเป็นสเป็คของสาวๆ ยุคนี้กันเสียอีกว่า..ต้อง สูงยาว ขาวตี๋ (หรือขาวหมวย สวย เซ็กซี่) ถึงจะชอบกัน ส่วนคำว่า “เจ๊ก” ก็ดูไม่ค่อยรุนแรงเท่ากับสมัยก่อน นั่นแหละครับ เพราะยุคสมัยมันเปลี่ยนไปหมดแล้ว
อีกเรื่องคือสมัยเด็กๆ มีใครเป็นแบบนี้กันบ้าง? คืออยากโตเร็วๆ ** ตอนเด็กๆ รู้สึก...ทำไมเวลามันเดินช้าเหลือเกิน (ตรงข้ามกับตอนแก่ ที่เร็วโคตรๆ (ฮา) ก็เพราะ...มักจะถูกผู้ใหญ่ห้ามเสมอว่า “โน่น นี่ นั่น ก็ทำไม่ได้ ดูไม่ได้ เพราะเรายังเป็นเด็ก” แต่พอโตเป็นผู้ใหญ่ จนแก่ปูนนี้แล้ว (บางคนอาจจะอยากกลับไปเป็นเด็กอีก) แต่ผมไม่เคยคิดอยากกลับไปเป็นเด็ก
เพียงแต่รู้สึกว่า...ความแก่ก็มีข้อดีของมันหลายๆ อย่าง เพราะว่าผ่านอะไรต่อมิอะไรมาเยอะ ผิดพลาดก็เยอะ จน..รู้เยอะ ผิดกับสมัยหนุ่มๆ ที่ร่างกายแข็งแรงดี แต่ขาดทั้งประสบการณ์และความคิดที่ยังไม่ตลกผลึกเพียงพอ กลับกันพอเป็นผู้ใหญ่ ความคิดตกผลึกพอสมควรแล้ว แต่สิ่งที่กำลังหายไปเรื่อยๆ ก็คือ ร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรงนี่สิ มีแต่จะเสื่อมลงทุกวันๆ
ดูๆ ไปโลกมันก็ตลกไม่ใช่น้อยเหมือนกัน เพราะในวัยที่ยังแข็งแรงดี แต่..ความคิด ยังไม่แหลมคมพอ แต่พอแก่ตัววิธีคิดค่อยๆ เริ่มสุกงอม แต่สุขภาพกลับเสื่อมลงทุกวัน....เอากะเค้าสิ!
รูปนี้ Ai เจนออกมา หน้าไม่เหมือนตัวผมทั้งวัยแก่ และวัยหนุ่ม 555+
#GeminiAI ภาพเดียว พาผมฟุ้งซ่าน...เล่าเรื่องอะไรต่อมิอะไร ฟุ้งฝอยได้ขนาดนี้เชียว ^_^
จิด.ตระ.ธานี: #เล่าสู่กันฟังนะครับ
#Jitdrathanee
ป.ล.
1. อกเสื้อสีชมพูสกรีนคำว่า THANEE Silver Age แปลไทยๆ คือ “วัยเงิน” (ตามนิยามคืออายุ 55 ปีขึ้นไป ผมก็ใกล้จะถึงแล้ว) พอจะเทียบได้กับคำว่า Middle-Aged (อายุ 40 - 60 ปี) ส่วนอกเสื้อสีฟ้าสกรีนคำว่า THANEE TeenAger หรือ “วัยรุ่น” ตามนิยามคืออายุ 13 - 19 ปี แต่ภาพต้นฉบับผมอายุ 25 ปี ถือว่าเลยช่วงวัยรุ่นมาหลายปีแล้ว น่าจะใกล้เคียงกับคำว่า “Young Adult” วัยหนุ่มสาว หรือวัยผู้ใหญ่ตอนต้น (20 - 30 ปี) มากกว่า
2. อ้อ... Ai รูปนี้พี่ชายทำให้เหมือนเคย ไม่ได้ทำเองนะครับ ** ปกติการใช้ AI-generated มักจะไม่ได้รูปที่ต้องการในครั้งเดียว ต้องทำหลายครั้งอยู่ บางทีเคยทำเองเป็นสิบครั้ง กว่าจะได้รูปที่ตรงกับที่คิดไว้
อ้างอิง:
  • 1.
    คำว่า “เจ๊ก” มาจากไหน? คนจีนในไทย - จีนแผ่นดินใหญ่ - จีนไต้หวัน ล้วนไม่รู้จักคำนี้ (11 ก.ค. 2568) : https://www.silpa-mag.com/history/article_18158
  • 2.
    ย้อนอดีต จลาจลจีนตั้วเหี่ย เมืองฉะเชิงเทรา สมัยรัชกาลที่ 3 ชาวจีนล้มตายกว่า 3,000 คน (11 ก.ย. 2565) : https://www.silpa-mag.com/history/article_74866
  • 3.
    ตั้วเหี่ย 大兄 กับ อั้งยี่ 洪字 อนุทินลูกเจ๊กหลังเสพ ‘แมนสรวง’ (25 Sep 2023) : https://www.the101.world/chinese-secret-society-history/

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา