29 ก.ย. เวลา 23:45 • ครอบครัว & เด็ก

นักต้มตุ๋นหรือคนของพระเจ้า

2 พงศ์กษัตริย์ 7:1-8 TH1971
[1] แต่เอลีชาทูลว่า <<ขอฟังพระวจนะของพระเจ้า พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า พรุ่งนี้ประมาณเวลานี้ ยอดแป้งถังหนึ่งเขาจะขายกันหนึ่งเชเขล และข้าวบารลีสองถังเชเขลที่ประตูเมืองสะมาเรีย>> [2] แล้วนายทหารคนสนิทของพระราชาตอบคนแห่งพระเจ้าว่า <<ถ้าแม้พระเจ้าทรงสร้างหน้าต่างในฟ้าสวรรค์ สิ่งนี้จะเป็นขึ้นได้หรือ>> แต่ท่านบอกว่า <<ท่านจะเห็นกับตาของท่านเอง แต่จะไม่ได้กิน>>
[3] มีคนโรคเรื้อนสี่คนอยู่ที่ทางเข้าประตูเมือง เขาพูดกันว่า <<เราจะนั่งที่นี่จนตายทำไมเล่า [4] ถ้าเราว่า <ให้เราเข้าไปในเมือง การกันดารอาหารก็อยู่ในเมือง และเราก็จะตายที่นั่น และถ้าเรานั่งที่นี่เราก็ตายเหมือนกัน ฉะนั้นจงมาเถิด ให้เราเข้าไปในค่ายของคนซีเรีย ถ้าเขาไว้ชีวิตของเรา เราก็จะรอดตาย ถ้าเขาฆ่าเรา ก็ได้แต่ตายเท่านั้นเอง>> [5] ดังนั้นเขาจึงลุกขึ้นในเวลาโพล้เพล้ เพื่อจะไปยังค่ายของคนซีเรีย แต่เมื่อเขามาถึงริมค่ายของคนซีเรียแล้ว ดูเถิด ไม่มีใครที่นั่นสักคน
[6] เพราะพระเจ้าได้ทรงกระทำให้กองทัพของคนซีเรียได้ ยินเสียงรถรบ เสียงม้า และเสียงกองทัพใหญ่ เขาจึงพูดกันและกันว่า <<ดูเถิด พระราชาแห่งอิสราเอลได้จ้างบรรดา พระราชาแห่งคนฮิตไทต์ และบรรดาพระราชาแห่งอียิปต์มารบเราแล้ว>> [7] เขาจึงลุกขึ้นหนีไปในเวลาโพล้เพล้ และทิ้งเต็นท์ ม้า และลาของเขา ทิ้งเต็นท์ไว้อย่างนั้นเอง และหนีไปเอาชีวิตรอด
[8] และเมื่อคนโรคเรื้อนเหล่านี้มาถึงที่ริมค่าย เขาก็เข้าไปในเต็นท์หนึ่งกินและดื่ม และขนเงิน ทองคำ และเสื้อผ้าเอาไปซ่อนไว้ แล้วเขาก็กลับมาเข้าไปในอีกเต็นท์หนึ่ง ขนเอาข้าวของออกไปจากที่นั่นด้วยเอาไปซ่อนไว้
ตอนที่ใจมันยังไม่ได้ฝากไว้กับเพียงพระเยซูหรือไม่เชื่อเพียงพระคำแต่อ้างพระเจ้าในการใช้ชีวิตก็จะกลายเป็นนักต้มตุ๋นหรือผู้เผยพระวจนะเท็จไปเลยครับ
คนเชื่อพระเจ้าก็จะอ้างหรือติดตามพระคำพระเจ้าหรือตามพระคัมภีร์ไบเบิ้ลครับ ก็เป็นเหมือนจดหมายจากพระเจ้าเพื่อแจ้งให้มนุษย์รู้ว่าพระเจ้ากำลังทำอะไร ส่วนคริสตจักรเป็นเหมือนร่างกายของพระเจ้าบนโลกขณะนี้ หรือกลุ่มคนที่เชื่อในพระคัมภีร์ไบเบิ้ลครับ
ดังนั้นคริสตจักรแท้กับปลอมที่มารซาตานสร้างขึ้นจะไม่เหมือนกันครับ แค่ป้ายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคริสตจักร..เหมือนกัน แต่ถ้าได้ฟังคำพูดคำสอนของพวกเขาจะต่างกันครับ คริสตจักรของพระเจ้าจะสนใจกับโลกของจิตใจในพระคัมภีร์ฯครับ ในขณะที่คริสตจักรปลอมพวกเขาก็ยังคงสนใจแต่กับเนื้อหนังหรือสถานการภายนอกทั่วไปแบบคนไม่เชื่อพระเจ้านี้ครับ เวลาพูดถึงเรื่องราวในพระคัมภีร์ฯ มันก็จะออกมาเป็นเรื่องของหลักการประพฤติทั้งหมดเลยครับ
ดังนั้นสำหรับพระเจ้าแยกแยะคนบาปกับคนชอบธรรมจึงดูจากการเชื่อหรือไม่เชื่อกับพระคำนี้ครับ ซึ่งพระคัมภีร์ไบเบิ้ลเป็นเหมือนจดหมายรักจากพระเจ้าส่งมาถึงมนุษย์เพื่อจะบอกความจริงให้และเมื่อได้รู้แล้วมนุษย์ก็จะสามารถเชื่อวางใจเพียงพระเจ้าได้ตามที่พระองค์ประสงค์ ซึ่งเป็นทางที่ดีที่สุดสำหรับมนุษย์ที่พระองค์ได้ทรงสร้างขึ้นมาบนโลกนี้ครับ
การที่เราตัดสินใจจะเชื่อพระเจ้าก็คือการเลือกที่จะเชื่อเพียงสิ่งที่พระคัมภีร์ไบเบิ้ลบอก ก็เปรียบเหมือนกับกลุ่มคนโรคเรื้อนสี่คนนี้ที่เลือกจะก้าวออกไปหาข้าศึกตามพระคำตอนนี้ครับ แต่ก่อนฝากชีวิตไว้กับเมืองสะมาเรียซึ่งเปรียบเหมือนชีวิตที่ฝากความหวังไว้กับโลกวัตถุเนื้อหนังนี้ครับ และถ้ามองจากพระคำมันจบสวยนะครับ กับทางใหม่ที่คนโรคเรื้อนเลือก คือตัวเองก็รอดและคนมากมายทั้งประเทศก็รอดด้วยครับ
ผมเองก็ได้รู้จักกับพระเจ้ามาย่างเข้าสามสิบปีแล้วครับ แต่กับพระคำตอนนี้พึ่งจะเข้ามาในใจผมเมื่อไม่นานนี้ครับ ก่อนหน้าผมมาเชื่อพระเจ้าเพราะมันเริ่มกลัวกับการใช้ชีวิตบนโลกนี้ หลังจากได้เห็นคนในครอบครัวพ่อเริ่มตายจากอุบัติเหตุและน้องฆ่าตัวตาย แม่ก็พิการด้วย ทั้งๆที่ใช้ชีวิตแบบปกติไม่ได้โลดโผนพิศดารผิดกฏหมายเสี่ยงตายอะไร ก็เลยเริ่มคิดกับชีวิตคนเราจะมั่นคงปลอดภัยได้ยังไง? จนได้มาพบกับพระเจ้าพระเยซูแบบนี้ครับ
ช่วงแรกๆ ที่ผมไปเจอเริ่มรู้จักพระเจ้าผ่านคนกลุ่มหนึ่ง ก็จะมีกิจกรรมทำดีเพื่อสังคม ใครมีผลงานการทำความดีมากก็จะถูกยอมรับมากในกลุ่ม จนส่งผลให้ผมไปให้น้ำหนักกับมันมากกว่าการได้เข้าใจจิตใจของพระเจ้าในพระคัมภีร์ฯ พออ่านมันก็จะสนใจแต่ว่าพระเจ้าต้องการให้ทำอะไรแบบนี้ครับ
จนผมพลาดตอนเป็นอาจารย์ที่นั่น คือพลาดเรื่องแอบล่วงประเวณีกับสมาชิก ก็พยายามหาทางปกปิดแก้ไขจนในที่สุดก็ต้องพากันออกมาจากที่นั่นแล้วได้มาพบกับคริสตจักรข่าวประเสริฐที่ๆผมกำลังติดตามอยู่ในปัจจุบัน
ที่นี้ช่วยทำให้ผมได้เข้าใจมากขึ้นกับเรื่องของความรอดด้วยพระคุณครับ ด้วยสิ่งที่พระเยซูทำให้สำเร็จเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว ตอนนี้ชีวิตผมมันจึงจดจ่อแต่กับสิ่งที่พระองค์กำลังทำอะไรผ่านทุกสิ่ง แล้วก็ประกาศออกไปให้กับโลกนี้ได้รับรู้ประมาณนี้ครับ
ก็ได้เห็นว่าก็มีคนมากมายที่กำลังใช้ชีวิตแบบนายทหารคนสนิทพระราชาครับ คือถึงแม้ว่าจะได้ยินหรือรู้แล้วกับความจริงนี้ แต่หลายคนก็จะไม่สนใจกับพระคำหรือพระเจ้านี้ครับ ยังเลือกจะไปตามใจตัวเองยังชอบยังสนุกสุขกับโลกวัตถุเนื้อหนังนี้มากๆ
ส่วนมากคนรวยคนมั่งมีก็จะเป็นกันมากครับ คืออย่างมากแค่เชื่อว่ามีพระเจ้า แต่ไม่ได้สนใจขนาดหยากจะติดตาม หยากทำอะไรตามใจตัวเองเสียมากกว่า ให้ค่าพระเจ้าเหมือนให้กับผีเจ้าพ่อเจ้าแม่ทั่วๆไป เอาไว้บนขอเวลาต้องการ ได้บ้างไม่ได้บ้าง มีไว้หลายๆเจ้าพึ่งพาพระหลายองค์ ชอบแบบนี้กัน ความจริงมันเป็นทางของมารซาตานที่กำลังพาไปสู่ความพินาศ
ผมเองกับภรรยาตอนนี้ก็ทำงานเผยแพร่ข่าวดีนี้อย่างเดียวครับ ก็อยากให้ทุกคนได้รู้และหันกลับมาหาพระเจ้ากันดีกว่า ก็เป็นทางที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน สังคมมันวุ่นวายเต็มด้วยปัญหารบราฆ่าฟันกัน มันมาจากจิตใจคนที่ไม่เอาพระเจ้านี้ครับ ก็ได้แต่ฆ่าทำลายกันเท่านั้นถ้าติดตามจิตใจของตัวเอง ไม่ว่าจะพยายามตั้งใจดีสักแค่ไหน เพราะความบาปที่มนุษย์ได้ทำผิดพลาดตั้งแต่สมัยของอาดัมบรรพบุรุษ ทางเดียวที่จะยุติกับปัญหามนุษย์คือต้องกลับมาหาพระเจ้าพระเยซูเท่านั้นครับ
เห็นหลายคนที่บอกเชื่อพระเจ้า แต่ก็ยังคงดันทุรังที่จะปฏิเสธหรือต่อต้านกับพระเยซู ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ที่มนุษย์จะเข้าถึงพระเจ้าโดยตัวเองไม่ผ่านเพราะเยซูครับ เหมือนเราจะเข้าพบกษัตริย์ได้อย่างน้อยก็ต้องผ่านผู้ว่าฯก่อนครับ ถ้าผู้ว่าพิจารณาแล้วเห็นว่าสมควรจึงจะอนุญาติให้เข้าพบได้ การจะเข้าพบเข้าถึงพระเจ้าได้ก็เหมือนกันคือต้องผ่านพระเยซูก่อนครับ
สุดท้ายพวกเขาก็รบราฆ่าฟันกันเองครับกับคนที่เชื่อพระเจ้าแบบนั้นครับ เพราะถ้าไม่มีพระเยซูก็เลยมโนคิดกันไปเองหมดกับพระเจ้าของพวกเขา มันก็เลยเป็นหนึ่งเดียวกันไม่ได้ครับ ซึ่งตอนนี้บนโลกพระเยซูก็ทำงานผ่านทางพระคัมภีร์ไบเบิ้ลกับคริสตจักรหรือบรรดาผู้ที่เชื่อครับ
พระเจ้าเองคือผู้กำหนดหรือตั้งพระเยซูขึ้นมาเพื่อมนุษย์จะสามารถเข้าถึงพระองค์ แต่กลับปฏิเสธ? ในโลกมันมีมารซาตานวิญญาณชั่วที่คอยให้ความคิดผู้คนแบบนั้นด้วย ผู้คนก็เลยมาถึงพระเจ้ายิ่งยากขึ้นครับ ยิ่งยุคนี้ถ้าเทียบกับยุคโบราณ มันมีสิ่งล่อตาล่อใจเพิ่มขึ้นมาอีกเยอะมากๆครับ ถ้าไม่หักห้ามใจที่จะไปกับพระเจ้าเพื่อชีวิตรอดก็ยากจริงๆ
โฆษณา