ฮามาส ไม่อยากจบ ก็ต้องจบแล้วล่ะ ….
แผนหยุดสงครามกาซ่าของทรัมป์ออกมาแล้ว
น่าสนใจคือ ชาติอาหรับค่อนข้างจะเห็นด้วย
แม้แต่ตุรกีที่ประนามอิสราเอลมาตลอดก็เห็นด้วย
ตอนนี้เหลือแค่ว่า ฮามาสจะยอมรับข้อเสนรึเปล่าก็เท่านั้น
แต่ดูแล้วยากเหมือนกัน เพราะฮามาสไม่ได้อะไรเลย
…แต่กับชาวปาเลสไตน์ น่าจะพอแล้วสำหรับสงคราม
และการสนับสนุนฮามาส มันก็เลยยังไม่รู้ว่าจะจบอย่างไร…
ขอสรุปสั้นๆ เกี่ยวกับข้อเสนอของทรัมป์ เป็นส่วนๆ
เพื่อจะได้เข้าใจง่ายๆ
(รายละเอียดข่าว อ่านได้ที่ลิงก์อ้างอิง)
1) ส่วนของฮามาส
ให้ฮามาสยอมแพ้ ปล่อยตัวประกันทั้งหมด
และจะไม่มีส่วนร่วมในการมีอำนาจเหนือกาซ่าอีก
ทั้งในวันนี้และอนาคต หรือก็คือยอมแพ้แบบไม่มีเงื่อนไข
หากยอมรับข้อเสนอ ฮามาสจะได้รับการนิรโทษกรรม
ทั้งจากอิสราเอล และในฐานะผู้ก่อการร้าย ที่บางชาติได้
เฝ้าระวังไว้
(รวมถึงการปล่อยตัวนักรบฮามาสที่ถูกควบคุมตัวอยู่)
2) ส่วนของชาวปาเลสไตน์
หากฮามาสยอมรับข้อเสนอ ทางอิสราเอลก็จะหยุดยิง
และสหรัฐจะไม่สนับสนุนด้านอาวุธให้มาโจมตีอีกต่อไป
ชาวปาเลสไตน์ จะได้รับความช่วยเหลืออย่างเต็มที่
โดยไม่ผ่านฮามาสอีกต่อไป
พวกเขาจะมีสิทธิ์อยู่ เพื่อรับการจ้างงานเป็นอันดับแรก
ในโครงการฟื้นฟูในฉนวนกาซ่า และหากไม่อยากอยู่
ก็มีสิทธิ์ย้ายออกไป และมีสิทธิ์ที่จะกลับมาได้ทุกเมื่อ
รวมถึงชาวปาเลสไตน์ที่ถูกจับกุมหลังเหตุการณ์
ที่เป็นจุดเริ่มต้นในอิสราเอล พันกว่าคน จะโดนปล่อยทั้งหมด
3) การจัดการกับพื้นที่กาซ่า
หากฮามาสตัดสินใจรับข้อเสนอ และปล่อยตัวประกัน
ทั้งหมดที่เหลืออยู่ อิสราเอลจะเริ่มหยุดยิงและถอนทหาร
ออกจากพื้นที่ทันที
ความช่วยเหลือต่างๆจะเข้าไปอย่างเต็มที่ ผ่านคณะกรรมการ
ที่มีทรัมป์และอดีตนายกอังกฤษ (โทนี่ แบลร์) เป็นกรรมการ
ร่วมกับชาติอาหรับ และศักขีพยายาม อีกหลายชาติที่จะ
มีการจัดตั้งขึ้นมา ภายใต้การสังเกตุการณ์โดยอิสราเอล
และสหประชาชาติ
ฮามาสจะไม่มีสิทธิควบคุม ดูแลความช่วยเหลือเหล่านี้
ทั้งเงินทองและสิ่งของต่างๆ จะมีคณะบริหาร(รัฐบาลชั่วคราว)
ที่เป็นนักวิชาการหรือเทคโนแครตชาวปาเลสไตน์
ที่จะถูกตั้งขึ้น มาคอยบริหาร ทั้งในระยะให้ความช่วยเหลือ
ฟื้นฟู และระยะการพัฒนาตามแผนการที่วางไว้
โดยพื้นฐานทางการทหารทั้งหมดของฮามาสที่ยังหลงเหลือ
จะถูกทำลายทั้งหมด และต้องอยู่ในเงื่อนไขที่ไม่เป็นภัย
ต่ออิสราเอลอีกต่อไป ภายใต้การอยู่ร่วมกันอย่างสันติ
จึงจะมีการรับรองรัฐปาเลสไตน์ในอนาคต
4) แผนพัฒนาระยะยาว จะมีการสร้างกาซ่าให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ หรือเมืองท่า เพื่อพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่
ของผู้คน ภายใต้การบริหารของเทคโนแครต ที่เป็นรัฐบาล
ชั่วคราว ก่อนที่เมื่อโครงการเสร็จสิ้น จะมีการส่งมอบอำนาจ
เต็ม คืนแก่ชาวปาเลสไตน์ต่อไป….
จากข้อเสนอ ถ้าเราลองมาวิเคราะห์กันเป็นส่วนๆ
เราจะพบว่า ฮามาสที่มีอำนาจตัดสินใจนั้น ไม่ได้อะไรเลย
และเป็นกลุ่มที่เสียประโยชน์ที่สุด ทั้งที่มีอำนาจตัดสินใจ
จึงดูแล้ว ยากเหมือนกัน ที่พวกเขาจะยอมรับข้อเสนอ
แต่ความจริง ในปัจจุบันนั้นฮามาสดูจะไม่มีทางเลือกอะไรนัก
สงครามที่ยาวนาน จนชาวบ้านชาวปาเลสไตน์ต้องอยู่
อย่างเลวร้าย ทำให้เกิดกระแสตีกลับ ไปต่อต้านฮามาส
ในหมู่ชาวกาซ่าอย่างมาก
…ปัจจุบันนั้นฮามาสถ้าปราศจากอาวุธเดินถนน โดยหวังแฝงตัวกับชาวบ้าน คือโดนกระทืบ ตายด้วยความโกรธแค้นจากภาวะอดอยาก ชาวบ้านมองว่าฮามาสแบ่งอาหารไม่เป็นธรรม…
ฮามาสนั้นบริหารความช่วยเหลือในสภาวะจำกัด
ในช่วงที่ผ่านมาได้ค่อนข้างแย่ พวกเขาใช้สถานะนักรบ
เบียดบังความช่วยเหลือที่น้อยอยู่แล้ว จนชาวบ้าน
เดือดร้อน อดอยากไปกันหมด
ในสายตาชาวกาซ่าปัจจุบัน ฮามาสไม่ใช่นักรบศักดิ์สิทธิ์อีกแล้ว
แต่กลายเป็นโจร เป็นผู้กดขี่ แย่งอาหาร แย่งยาชาวบ้าน
และถูกมองเป็นผู้เริ่มปัญหาที่ไปเริ่มโจมตีอิสราเอลอย่างรุนแรง
ในเหตุการณ์ 7 ตุลาคม 2023
ตอนนี้ชาวปาเลสไตน์ โยนความผิดทั้งหมดให้ฮามาส
ด้วยความอยากเอาตัวรอด ชาวปาเลสไตน์ เริ่มขี้เป้าให้
กองทัพอิสราเอล โดยหวังว่าฮามาสจะหมดไปเสียที
จะได้จบๆ ทำให้อิสราเอลนั้นจับกุม สังหารนักรบฮามาส
ได้เป็นจำนวนมากในช่วงหลัง
ในขณะที่ชาติอาหรับอื่น ก็เริ่มมองว่า ฮามาสควรจะเสียสละ
และเลิกดื้อดึงอย่างไร้เหตุผลในกาซ่าเสียที เพื่อให้สงคราม
นั้นจบๆไปก่อน เพื่อชีวิตของชาวปาเลสไตน์จะได้รอด
…คือ พวกอาหรับเอง ไม่ได้ยอมรับรัฐอิสราเอลหรือยอมแพ้
แต่พวกเขามองส่วนนี้ว่า เป็นแค่ศึกหนึ่ง เมื่อแพ้ในส่วนนี้
ก็ควรถอยก่อน จะสู้ในสงครามหรืออะไรยังไง ค่อยมาว่ากันต่อ
เอาให้ชาวบ้านรอดก่อน…
…เคยมีการเสนอมาหลายทีแล้วว่าให้ฮามาสไปรวมตัวกับฮูตี ถ้าอยากสู้ แต่ฮามาสกลัวเสียผลประโยชน์จากการเสียการนำ
ก็เลยไม่ยอม และหลบอยู่หลังชาวบ้านในกาซ่าต่อไป
จนชาวบ้านซวยกันไปหมด ซึ่งชาติอาหรับก็ไม่ค่อยพอใจ
ฮามาสนัก กับเรื่องนี้…
ส่วนอิหร่านซึ่งสนับสนุนฮามาสมาตลอด ตอนนี้อ่อนแอลงมาก
และอยู่ในช่วงเสริมกำลังใหม่ ประกอบกับพวกเขาเองค่อนข้าง
โดดเดี่ยวในหมู่ชาติมุสลิม จึงไม่มีพาวเวอร์อะไรอีกแล้ว
สำหรับประเด็นปาเลสไตน์ในปัจจุบัน ก็คงไปฝืนอะไร
มากไม่ได้ หากโลกมุสลิมมองว่า เอาชาวบ้านให้รอด โดยทิ้ง
ฮามาส แล้วค่อยมาว่ากันต่อ
เพราะขืนอิหร่านยังไปยุยงให้ฮามาสดันทุรัง จนชาวบ้านตาย
พวกเขาเองนั่นแหละ จะถูกโลกมุสลิมมองแรง ว่าเป็นต้นเหตุ
ดังนั้นอิหร่านเองจึงเงียบๆมากกับเรื่องนี้ในช่วงหลัง
จะเห็นว่า ฮามาสนั้น โดดเดี่ยว ขาดการสนับสนุน
และไม่มีทางเลือกแล้วจริงๆ
จึงกลายเป็นว่า ฮามาสนั้นโดนบีบทุกทาง จากทุกฝ่าย
มันแทบเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว ที่พวกเขาจะดันทุรังต่อไป
…ซึ่งถ้าไม่รับข้อเสนอที่แม้แต่ชาติอาหรับก็โอเคแบบจำใจ
เพราะสงสารชาวบ้านนี้แล้ว ฮามาสเองนั่นแหละที่จะกลาย
เป็นผู้ร้ายในสายตาชาวมุสลิมไป…
…ดังนั้น แม้จะกล้ำกลืน ก็เชื่อว่าฮามาสจำเป็นต้องรับข้อเสนอ
ส่วนจะมากน้อยแค่ไหน ก็คงต้องมาดูกัน …
ว่ากันตามจริง มี่ไม่ต่างอะไรกับการให้กาซ่า ยอมแพ้
แบบไร้เงื่อนไข โดยเอาชีวิตของชาวบ้านมาเป็นตัวตั้ง
ชาวปาเลสไตน์ ไม่มีทางเลือกใดๆต่อไป
พวกเขาย่อมไม่ยอมอดตาย และชาติอาหรับเอง
ก็คงไม่อยากปล่อยให้พวกเขาตาย จึงจำใจเห็นด้วยกับทรัมป์
สำหรับอิสราเอลแล้ว สงครามหลังวันที่ 7 ตุลาคม 2023
เป็นต้นมา หากจบลงแบบนี้ ถือว่าพวกเขาชนะได้อย่าง
เด็ดขาด สวยงาม และได้ทุกอย่างที่ต้องการ
การให้เทคโนแครตชาวปาเลสไตน์มาบริหารนั้น
ก็แน่นอนว่าคงเป็นสายปฏิรูป ไม่ใช่หัวรุนแรง
และคงต้องอยู่ยาว กว่าโครงการฟื้นฟู พัฒนาจะเสร็จสิ้น
หากทุกอย่างตามเงื่อนไขนี้เกิด มีความเป็นไปได้สูงมาก
ที่สหรัฐจะใช้ ญี่ปุ่นโมเดล ในการหลอมพฤติกรรมของ
ชาวปาเลสไตน์อย่างแน่นอน
คือ เข้าไปพัฒนา ให้ความเป็นมิตร พอคนสบาย
จนเห็นได้ชัดกว่ายุคฮามาส พวกเขาก็จะไม่เห็นความจำเป็น
ที่จะต้องเป็นศัตรูกับอิสราเอลอีกต่อไป และถูกยั่วยุได้ยาก
ซึ่งก็เป็นไปได้สูง เพราะกาซ่า มีชัยภูมิที่เป็นเมืองท่าที่ดีได้
และเติบโตได้อีกมาก หากบริหารจัดการดีๆ ชาวบ้านก็สบาย
และแน่นอน มันไม่ใช่โครงการระยะสั้น
บางทีมันอาจใช้เวลามากถึง 20-30 ปีเสียด้วยซ้ำ
กว่าที่จะคืนอำนาจให้ชาวปาเลสไตน์ได้เต็มที่
การเปลี่ยนรุ่นของคน มันจะทำให้พวกแนวคิดแบบเดิม
หายไปเป็นอย่างมาก และเด็กที่โตมากับการพัฒนา
จะไม่อยากย้อนไปที่จุดเดิม เรื่องโบราณปล่อยมัน
พวกเขาจะมองไปข้างหน้าเท่านั้น
เมื่อชาวปาเลสไตน์ไม่เดือดร้อนที่จะอยู่แบบนั้น
ชาติอาหรับอื่น ก็จะไม่มีสิทธิไปโวยวายแทน…
…ซึ่งนั่นก็คือ การอยู่ร่วมกันกับรอบๆบ้านได้อย่างสงบเสียที
ตามเป้าหมายของอิสราเอลนั่นเอง …
จึงบอกได้ว่า แม้ทรัมป์เป็นคนเสนอแผน แต่อิสราเอล
คือผู้ได้ประโยชน์ที่สุด อย่างชัดเจนจากแผนนี้…
…อยู่ที่ฮามาสแล้วล่ะ ว่าจะเอายังไง…
จะเห็นแก่ตัวกลัวเสียเงินสนับสนุนจากพวกหัวรุนแรง
แล้วไปเสวยสุขอยู่ในการ์ต้า อย่างที่เคยๆ
…หรือจะเห็นแก่ชีวิตชาวบ้านมากกว่า ถอยไปก่อน
เพื่อรวมกับกลุ่มอื่นมาสู้ต่อในสงครามศักดิ์สิทธิ์ของเขา
… เดี๋ยวรู้กันครับ…
ข่าว
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
