1 ต.ค. เวลา 01:00 • ประวัติศาสตร์
Osaka castle

เล่าตำนาน 8 ปราสาทญี่ปุ่นเปลี่ยนแผ่นดิน EP.3 ปราสาทโอซาก้า ปราการด่านสุดท้ายก่อนเข้าสู่ยุคเอโดะ

ปราสาทโอซาก้า…ปราการด่านสุดท้ายแห่งยุคทองของ "ฮิเดโยชิ" ก่อนเข้าสู่ยุคเอโดะ เมื่อปราสาททองคำกลายเป็นเปลวเพลิงแห่งเวทีการเมืองอันร้อนระอุที่ปูทางให้ "อิเอยาสุ" สร้างยุคเอโดะหรือโตเกียวในปัจจุบัน
การล่มสลายของปราสาทโอดาวาระ (EP.2) ไม่ได้เป็นเพียงแค่การรวมญี่ปุ่นให้เป็นหนึ่งเดียวของฮิเดโยชิเท่านั้น แต่มันคือ บททดสอบครั้งใหญ่ สำหรับ โทกุงาวะ อิเอยาสุ พันธมิตรผู้ทรงอิทธิพลที่สุด
อิเอยาสุถูกบีบให้ต้องเข้าร่วมทำลาย ตระกูลโฮโจ ซึ่งเป็นสหายเก่าของตนเอง เพื่อแสดงความภักดีต่อฮิเดโยชิ และหลังจากชัยชนะ ฮิเดโยชิก็ได้มอบ รางวัลอวยยศครั้งใหญ่ ให้กับอิเอยาสุ โดยให้ครอบครองที่ดินอันกว้างใหญ่ในเขตคันโต... แต่แท้จริงแล้วคือการ "ระเห็ด" เขาให้ออกห่างจากศูนย์กลางอำนาจที่ปราสาทโอซาก้า
และนี่เองคือจุดเริ่มต้นของโชคชะตาอันหฤโหดของ ปราสาทโอซาก้า จุดเชื่อมโยงมหากาพย์แห่งอำนาจ ที่เผยให้เห็นเส้นทางคู่ขนานของฮิเดโยชิและอิเอยาสุ—สองผู้ยิ่งใหญ่ที่รอวันแตกหัก จากแลนด์มาร์กแห่งยุคทองคำที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็น “ศูนย์กลางของโลก” สู่การกลายเป็นปราการด่านสุดท้าย ก่อนจะถูกทำลายลงด้วยเพลิงแห่งการล้างแค้น
ทางเข้าปราสาทโอซาก้า ภาพจาก Wikipedia
🎯 กำเนิดปราสาทโอซาก้า: ศูนย์กลางแห่งโลก
หลังการกุมอำนาจแทน โอดะ โนบุนางะ อย่างเบ็ดเสร็จในปี 1582 โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ ก็ไม่รอช้าที่จะเริ่มต้นโครงการยักษ์ที่สุดในชีวิตของเขา นั่นคือการสร้าง ปราสาทโอซาก้า (ค.ศ. 1583) ณ ที่ตั้งเดิมของวัดอิชิยามะ ฮงกันจิ ซึ่งถูกทำลายโดยโนบุนางะ การเลือกทำเลนี้คือการ ประกาศชัยชนะเหนือทุกสิ่ง
ฮิเดโยชิไม่ได้ต้องการแค่ปราสาท แต่ต้องการ สัญลักษณ์ ที่แสดงถึงสถานะผู้รวมชาติและยุคทองของเขา เขาตั้งเป้าให้ปราสาทแห่งนี้ ใหญ่โตกว่าปราสาทอาซึจิ และเป็น ปราสาทที่มั่งคั่งที่สุดในโลก
ฉากยามค่ำคืนช่วยขับประกายทองคำของปราสาทโอซาก้า ภาพจาก osakacastle.org
🏯 ความโดดเด่นทางสถาปัตยกรรมแห่งยุคโมโมยามะ
ความยิ่งใหญ่ของปราสาทโอซาก้าคือการแสดงอำนาจผ่านสถาปัตยกรรมตามสไตล์ ยุคโมโมยามะ (ที่เน้นความหรูหรา โอ่อ่า) ซึ่งปราสาทญี่ปุ่นแห่งอื่นยากจะเทียบ:
🏆 กำแพงหินมหึมา: ฮิเดโยชิสั่งให้ ไดเมียวทั่วประเทศ ส่ง หินแกรนิตขนาดใหญ่ที่สุด มาสร้างกำแพงปราสาท ก้อนหินบางก้อนมีขนาดใหญ่กว่าห้องหนึ่งห้องเสียอีก ซึ่งเป็นการ แสดงแสนยานุภาพและอำนาจเบ็ดเสร็จ เหนือขุนศึกทั้งหมดในประเทศ
🏆 ทองคำและสีเขียว: หอคอยหลักดั้งเดิมถูกประดับด้วย แผ่นทองคำ (Gold Leaf) อย่างมโหฬาร เพื่อประกาศความมั่งคั่งที่ไม่มีใครเทียบได้ สีเขียวเข้มของกระเบื้องเคลือบที่ใช้บนหลังคา ทำหน้าที่เป็น ฉากหลัง ที่หนักแน่นและทรงเกียรติ ซึ่งช่วย ขับเน้นสีทองคำ ให้ดูสว่างและโดดเด่นยิ่งขึ้น
🏆 Fun Fact: หอคอยหลักถูกออกแบบให้มี 5 ชั้นเมื่อนับจากภายนอก แต่มีถึง 8 ชั้นเมื่อนับจากภายใน ด้วยชั้นใต้ดินลึกลงไปถึง 3 ชั้น ซึ่งเป็นกลยุทธ์ทางทหารแบบดั้งเดิมเพื่อ ทำให้ศัตรูเข้าใจผิด เกี่ยวกับพื้นที่ภายในและขีดความสามารถในการป้องกัน
ปราสาทโอซาก้าท่ามกลางดอกซากุระบานสะพรั่งในฤดูใบไม้ผลิ ภาพจาก osakacastle.org
⚔️ การเปลี่ยนผ่าน: เกมการเมืองในคณะ 5 ท่าน
การก่อสร้างเพื่อความยิ่งใหญ่ใช้เวลายาวนาน เมื่อปราสาทสร้างเสร็จและฮิเดโยชิรวมชาติได้สมบูรณ์ ฮิเดโยชิก็เสียชีวิต ในปี ค.ศ. 1598 โดยทิ้งทายาท โทโยโทมิ ฮิเดโยริ ซึ่งยังเด็กและอ่อนแอไว้
ฮิเดโยชิรู้ดีว่าบุตรชายไม่แข็งแกร่งพอจะต้านทานขุนศึกคนอื่น ๆ ได้ เขาจึงตั้ง คณะผู้สำเร็จราชการ 5 ท่าน (Council of Five Elders) ซึ่งมี โทกุงาวะ อิเอยาสุ ผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในญี่ปุ่นเป็นประธาน เพื่อ คานอำนาจ และช่วยสนับสนุนบุตรชายของตน
ภาพวาดแสดงยุทธการเซกิงาฮาระแบบยุคเอโดะ ภาพจาก Wikipedia
💥 ยุทธการที่เซกิงาฮาระ (ค.ศ. 1600)
หลังจากฮิเดโยชิเสียชีวิตได้เพียง 2 ปี ความขัดแย้งที่ถูกปกปิดก็ปะทุขึ้น อิเอยาสุ ในฐานะประธาน เริ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างเปิดเผย ซึ่งทำให้ผู้นำคณะอีกคนคือ อิชิดะ มิตสึนาริ มองว่าเป็นการ ทรยศ ต่อคำสั่งเสียของฮิเดโยชิ
มิตสึนาริจึงรวบรวมกำลังต่อต้านอิเอยาสุ โดยอ้างว่าปกป้องตระกูลโทโยโทมิ นำไปสู่ ยุทธการที่เซกิงาฮาระ ซึ่งเป็นสงครามตัดสินชะตาแผ่นดิน ผลลัพธ์คือ อิเอยาสุได้รับชัยชนะอย่างเด็ดขาด
💥 ฉากสุดท้าย: การทำลายล้างเพื่อสันติภาพที่ยั่งยืน
ชัยชนะที่เซกิงาฮาระทำให้อิเอยาสุสามารถ สถาปนาตนเองเป็นโชกุน และจัดตั้งรัฐบาลโชกุนโทกุงาวะขึ้นที่เอโดะ (โตเกียว) ในปี 1603 แต่รัฐบาลใหม่นี้ยัง ไม่เบ็ดเสร็จ ตราบใดที่ โทโยโทมิ ฮิเดโยริ (บุตรชายของฮิเดโยชิ) ยังคงอยู่ใน ปราสาทโอซาก้า ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจเก่า เป็นขุมทรัพย์ และเป็นศูนย์รวมของซามูไรผู้ต่อต้าน
โทโยโทมิ ฮิเดโยริ (บุตรชายของฮิเดโยชิ) ภาพจาก Wikipedia
💥 ศึกโอซาก้า (Siege of Osaka): การกำจัดรากฐานแห่งความขัดแย้ง
ศึกโอซาก้า (ค.ศ. 1614–1615) คือสงครามการเมืองครั้งสุดท้ายและเป็นบทสรุปของความขัดแย้งที่ยืดเยื้อมานานกว่าศตวรรษในญี่ปุ่น เป็นการเผชิญหน้ากันระหว่าง โทกุงาวะ อิเอยาสุ ผู้ก่อตั้งรัฐบาลโชกุน กับ โทโยโทมิ ฮิเดโยริ ทายาทของฮิเดโยชิ
1. ศึกนี้เริ่มต้นอย่างไร?
อิเอยาสุรู้ดีว่าตราบใดที่ฮิเดโยริยังมีชีวิตอยู่ใน ปราสาทโอซาก้า ที่เต็มไปด้วยทรัพย์สมบัติและผู้ภักดี ก็จะไม่มีสันติภาพที่แท้จริง:
💣ข้อพิพาททางศาสนา (The Temple Bell Incident): อิเอยาสุใช้เรื่องราวเกี่ยวกับ ศิลาจารึกบนระฆังวัดโฮโคจิ (Hōkō-ji Temple Bell) ในเกียวโต เป็นข้ออ้างในการโจมตี โดยอ้างว่าข้อความบนระฆังนั้นเป็นการ สาปแช่ง ตระกูลโทกุงาวะ (ซึ่งไม่เป็นความจริง) เมื่อตระกูลโทโยโทมิปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามคำเรียกร้องของอิเอยาสุ ก็เท่ากับเป็นการ ประกาศสงคราม อย่างเป็นทางการ
💣การรวมพลต่อต้าน: ขุนศึกและซามูไรจำนวนมากที่ไม่มีที่ดินทำกินหลังยุคเซกิงาฮาระ ต่างมองเห็นโอกาสและหลั่งไหลเข้าไปในปราสาทโอซาก้าเพื่อรวมตัวกันต่อต้านอำนาจโชกุน โดยมีฮิเดโยริเป็นสัญลักษณ์ นี่คือการรวมตัวครั้งสุดท้ายของผู้ที่ไม่ยอมรับอำนาจของโทกุงาวะ
2. ทำไมศึกถึงยืดเยื้อและจบลงด้วยการทรยศ?
ศึกโอซาก้าถูกแบ่งออกเป็นสองช่วงหลัก ๆ คือ สงครามฤดูหนาว (Winter Campaign) และ สงครามฤดูร้อน (Summer Campaign):
ภาพมุมสูงปราสาทโอซาก้า ภาพจาก Wikipedia
❄ ช่วงที่ 1: สงครามฤดูหนาว (ค.ศ. 1614)
ความแข็งแกร่งของปราสาท: ปราสาทโอซาก้าภายใต้การป้องกันของคูน้ำที่กว้างขวางและกำแพงหินมหึมานั้น ไม่สามารถถูกตีแตกได้โดยง่าย แม้แต่กองทัพของอิเอยาสุกว่า 200,000 นาย ก็ไม่สามารถบุกทะลวงได้
การใช้ปืนใหญ่และกลยุทธ์: เมื่อโจมตีโดยตรงไม่ได้ อิเอยาสุจึงใช้ ปืนใหญ่ขนาดใหญ่ ระดมยิงเข้าใส่ปราสาท โดยเจาะจงยิงไปที่เขตที่พักของ โยโดะ-โดโนะ (มารดาของฮิเดโยริ) ซึ่งเป็นผู้นำฝ่ายป้องกัน การโจมตีทางจิตวิทยาครั้งนี้ทำให้เกิดขวัญเสียอย่างหนัก
โยโดะ-โดโนะ มารดาของฮิเดโยริ มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งตลอดการล้อมปราสาท ภาพจาก Wikipedia
กลยุทธ์ "ถมคูน้ำ": การทรยศที่ฉลาดที่สุด เมื่อไม่สามารถเอาชนะด้วยกำลัง อิเอยาสุจึงเสนอ ข้อตกลงสงบศึก โดยมีเงื่อนไขว่ากองทัพโทกุงาวะจะถอนกำลังออกไป แลกกับการให้ตระกูลโทโยโทมิ ถมคูน้ำชั้นนอกทั้งหมด ซึ่งโยโดะ-โดโนะและผู้บัญชาการยอมรับ
ความโหดเหี้ยมทางการเมือง: หลังทำสัญญา อิเอยาสุไม่ได้ถอนทหารออกไปอย่างสมบูรณ์ แต่กลับสั่งให้ทหาร ถมคูน้ำชั้นใน ด้วยอย่างรวดเร็วและเด็ดขาด เมื่อปราสาทสูญเสียปราการป้องกันตามธรรมชาติไป ก็เท่ากับถูกปลดอาวุธอย่างสมบูรณ์ นี่คือการทรยศที่คำนวณมาอย่างดี ที่ทำให้ปราสาทอ่อนแอลงอย่างมาก
☀ ช่วงที่ 2: สงครามฤดูร้อน (ค.ศ. 1615)
เมื่ออิเอยาสุยื่นข้อเรียกร้องใหม่ที่หนักขึ้นเรื่อยๆ ฮิเดโยริก็ตัดสินใจประกาศสงครามอีกครั้ง แต่เนื่องจากคูน้ำถูกถมไปแล้ว กองทัพโทกุงาวะจึงสามารถบุกทะลวงเข้าสู่ปราสาทได้ง่ายกว่าเดิมมาก ทำให้เกิดการสู้รบอย่างดุเดือดตามแนวรบต่างๆ และจบลงด้วยการ ทำลายปราสาทโอซาก้าและกำจัดฮิเดโยริอย่างเบ็ดเสร็จ
ภาพประกอบจากหนังสือของ ฟร็องซัวส์ การอง (François Caron) เรื่อง 'ปราสาทโอซาก้าถูกเผา' ภาพจาก Wikipedia
3. ผลประโยชน์สูงสุดที่อิเอยาสุได้รับ
🎌 การยุติความวุ่นวาย (Stopping the Cycle): การกำจัดเชื้อพระวงศ์เดิมทั้งหมด คือการส่งสารที่ชัดเจนว่ายุคสงครามและการชิงอำนาจจบลงแล้ว รากเหง้าของความขัดแย้งถูกถอนออก อย่างแท้จริง
🎌 รากฐานแห่งสันติภาพ: ชัยชนะในศึกนี้ทำให้อิเอยาสุสามารถสถาปนา รัฐบาลโชกุนที่มั่นคงและรวมศูนย์อำนาจ ได้สำเร็จ ทำให้ญี่ปุ่นเข้าสู่ยุคเอโดะที่สงบสุขยาวนานกว่าสองร้อยปี โดยไม่มีสงครามกลางเมืองขนาดใหญ่อีกเลย การกระทำอันโหดเหี้ยมครั้งสุดท้าย จึงเป็นการปูทางสู่สันติภาพอันยาวนาน
🏯 มรดกที่ยืนหยัดและการฟื้นคืนชีพในยุคต่างๆ
หลังจากกองทัพของตระกูล โทกุงาวะ ได้เข้าโจมตีและทำลายปราสาทแห่งนี้ลง เพื่อกำจัดสายตระกูลโทโยโทมิให้สิ้นซากในปี ค.ศ. 1615 ปราสาทโอซาก้าก็ได้ถูกสร้างขึ้นใหม่โดย โทกุงาวะ ฮิเดทาดะ (บุตรชายของอิเอยาสุ) ในช่วงทศวรรษ 1620 แต่หอคอยหลักของปราสาทก็ถูกฟ้าผ่าอีก ในปี 1665 จนถูกไฟไหม้และไม่ได้รับการสร้างใหม่ ตลอดช่วงยุคศักดินา
แม้ปราสาทโอซาก้าจะถูกทำลายครั้งแล้วครั้งเล่า แต่หอคอยหลักที่เห็นในปัจจุบันก็ยังคงยืนหยัดอย่างสง่างามนั้น ถูกสร้างขึ้นใหม่ด้วยคอนกรีตในปี 1931 และรอดพ้นจากการทิ้งระเบิดทั่วเมืองโอซาก้าในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองอย่างน่าอัศจรรย์ จากนั้น ปราสาทก็ได้รับการบูรณะครั้งใหญ่และเสริมความสง่างามใหม่ในปี 1997 ภายในเป็น พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ที่ทันสมัย
การที่ปราสาทโอซาก้ารอดพ้นจากการทำลายของสงครามโลกและได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้ปราสาทโอซาก้าเป็น สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์แห่งชาติ สัญลักษณ์ของการเริ่มต้นที่ยิ่งใหญ่และการสิ้นสุดที่น่าเศร้าของ โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ
สวนนิชิโนะมารุในช่วงฤดูดอกซากุระบาน ภาพจาก japan-guide.com
☕ บทสรุปและเติมพลังยามเช้า
เรื่องราวของปราสาทโอซาก้าสอนให้เรารู้ว่า การเปลี่ยนผ่านคือสัจธรรม ไม่ว่าความยิ่งใหญ่จะถูกประดับด้วยทองคำมากเพียงใด ก็ยังต้องเผชิญกับการถูกทำลายและการสร้างใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่า เพื่อก้าวไปสู่ยุคสมัยที่แตกต่าง... ไม่ต่างอะไรกับรสชาติของชีวิต
และก่อนที่เราจะก้าวเข้าสู่ EP.4 เพื่อตามรอย โทกุงาวะ อิเอยาสุ ผู้สร้างยุคเอโดะรากฐานของกรุงโตเกียวปัจจุบันนั้น "ตามรอยตำนานโลก by AORii - ออริ" ขอชวนคุณมาพักและลิ้มรสความแตกต่างอย่างลึกซึ้ง
สัมผัสรสชาติอันหลากหลายของแต่ละยุคสมัย ผ่านกาแฟดริปคุณภาพเยี่ยม UCC Roast Master-Drip coffee ที่มีคาแรกเตอร์โดดเด่น 4 สไตล์ ให้คุณเลือกเติมพลังได้ในแบบที่ชอบ:
☕ คาเฟ่ เอสเพรสโซ่ (Dark Roast): สำหรับคอกาแฟ คั่วเข้ม ที่มีรสชาติหนักแน่น เหมือนยุคสงครามที่ไม่ยอมอ่อนข้อ
☕ อิตาเลียนโรสต์ (Italian Roast): รสชาติ หอมเข้ม เนื้อสัมผัสหนักแน่น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความมั่นคงและแข็งแกร่ง
☕ เฮาส์เบลนด์ (Medium Roast): รสชาติที่ กลมกล่อมลงตัว ดื่มง่าย เหมือนยุคสมัยที่เริ่มเข้าสู่ความสงบ
☕ คาเฟ่ อาราบิก้า (Light Roast): อาราบิก้าแท้ คั่วอ่อน ให้รสชาติ สดชื่น ที่พาคุณหลุดพ้นจากความวุ่นวายได้อย่างง่ายดาย
ไม่ว่าจะเลือกความเข้มข้นดุดัน หรือความสดชื่นละมุนละไม เลือกสไตล์ที่สะท้อนการเดินทางของคุณวันนี้!
[Affiliate Disclosure]
✍ หมายเหตุ: การซื้อสินค้าผ่านลิงก์นี้ถือเป็นการสนับสนุนการทำงานของ AORii – ออริ ในการสร้างสรรค์เนื้อหาต่อไป โดยเราจะได้รับค่าคอมมิชชันเล็กน้อยจากการขาย ซึ่งไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อราคาสินค้าค่ะ ขอบคุณที่สนับสนุนเรา! 🙇‍♀️💖
โฆษณา