1 ต.ค. เวลา 10:31 • ปรัชญา
ปฏิบัติธรรมกับการรับมือ
เรื่องความโกรธ
มีประเป็นที่ยอมรับกัน
ในทางพุทธศาสนาโดย
เป็นแนวทางที่เน้นการฝึก
"สติ" (Mindfulness)
และการพัฒนา "ปัญญา"
1. การทำความเข้าใจเหตุผล
และเจริญเมตตา
เมื่อถูกกระทำไม่ดีเรา
พยายามเข้าใจว่าทุกคน
มีเหตุปัจจัยที่ทำให้เขาทำ
สิ่งนั้นอาจเป็นความไม่รู้
ความทุกข์หรือปัญหาของ
เขาเองจากนั้นจึงเปลี่ยน
จากความโกรธไปเป็น
การเจริญเมตตา (Loving
-kindness)
หรือความสงสารเห็นใจ
ในความทุกข์ของเขา
วิธีนี้มีประสิทธิภาพสูง
ในการลดความขัดแย้ง
และป้องกันความโกรธ
ไม่ให้เกิดขึ้นหรือลุกลาม
เพราะเป็นการเปลี่ยนจุด
สนใจจาก"ความเสียหาย
ที่เราได้รับ "ให้ไปเป็น"
ความทุกข์ที่ผู้อื่นมี"
ซึ่งทำให้ใจของเราขยาย
กว้างและเยือกเย็นลง
จัดอยู่ในกลุ่มของการ
พัฒนา พรหมวิหาร 4
2. การเฝ้าดูอาการของ
ความโกรธ (การเจริญสติ)
เป็นการฝึกสติ(ความระลึกรู้)
ให้ตรงกับสภาวะธรรมที่
เกิดขึ้นจริงในขณะนั้
เมื่อความโกรธเกิดขึ้น
ให้รู้ว่าโกรธแล้วสังเกต
อาการทางกายและจิตใจ
ที่วุ่นวายเฝ้าดูไปเรื่อยๆ
โดยไม่ตัดสินไม่ผลักไส
จนกว่าความโกรธจะดับ
ลงไปเอง
หัวใจสำคัญของการเจริญวิปัสสนาเพราะเรากำลังเห็น ไตรลักษณ์ (อนิจจัง-ความ
ไม่เที่ยง)ของอารมณ์
เมื่อเราดูมันๆจะเผยให้
เห็นว่าความโกรธเป็น
เพียง"สภาวะ"ที่เกิดขึ้น
ตั้งอยู่แล้วก็ดับไปไม่ใช่
ตัวเรา
การปฏิบัติเช่นนี้จะช่วย
ให้เรา ไม่ตกเป็นทาสของ
อารมณ์ และลดการสร้าง
"กรรม" จากการพูดหรือ
การกระทำที่เกิดขึ้นจาก
ความโกรธ
เอามาการบูรณาการเพื่อ
การปฏิบัติที่สมบูรณ์
Pataสรุปย้อยกลับนะ
วิธีที่ 2
เป็นการรักษาอาการ
ส่วนวิธีที่ 1
เป็นการรักษาที่สาเหตุ
ที่มาจากบริบทภายนอก
ทีนี้ยิ้มซิครับไม่โกรธแล้วนิ
โฆษณา