Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
สันติ ผู้เผยแพร่ข่าวประเสริฐ
•
ติดตาม
2 ต.ค. เวลา 00:50 • ครอบครัว & เด็ก
หยากล่วงประเวณีกับหยากรวย
ยอห์น 8:1-11 TH1971
[1] แต่พระเยซูเสด็จไปยังภูเขามะกอกเทศ [2] ในตอนเช้าตรู่พระองค์เสด็จเข้าในบริเวณพระวิหารอีก คนทั้งหลายพากันมาหาพระองค์ พระองค์ก็ประทับนั่งและเริ่มสั่งสอนเขา
[3] พวกธรรมาจารย์และพวกฟาริสี ได้พาผู้หญิงคนหนึ่งมา หญิงผู้นี้ถูกจับฐานล่วงประเวณี และเขาให้หญิงผู้นี้ยืนอยู่หน้าฝูงชน [4] เขาทูลพระองค์ว่า <<พระอาจารย์เจ้าข้า หญิงคนนี้ถูกจับเมื่อกำลังล่วงประเวณีอยู่ [5] ในธรรมบัญญัตินั้นโมเสสสั่งให้เราเอาหินขว้างคนเช่นนี้ให้ตาย ส่วนท่านจะว่าอย่างไรในเรื่องนี้>>
[6] เขาพูดอย่างนี้ เพื่อทดลองพระองค์หวังจะหาเหตุฟ้องพระองค์ แต่พระเยซูทรงน้อมพระกายลงเอานิ้วพระหัตถ์เขียนที่ดิน [7] และเมื่อพวกเขายังทูลถามอยู่เรื่อยๆ พระองค์ก็ทรงลุกขึ้นตรัสตอบเขาว่า <<ผู้ใดในพวกท่านที่ไม่มีผิด ก็ให้ผู้นั้นเอาหินขว้างเขาก่อน>>
[8] แล้วพระองค์ก็ทรงน้อมพระกายลงเอานิ้วพระหัตถ์เขียนที่ดินอีก [9] แต่เมื่อเขาทั้งหลายได้ยินดังนั้น เขาทั้งหลายจึงออกไปทีละคนๆ เริ่มจากคนเฒ่าคนแก่ เหลือแต่พระเยซูตามลำพัง กับหญิงคนนั้นที่อยู่ต่อพระพักตร์พระองค์
[10] พระเยซูทรงเงยพระพักตร์ขึ้นตรัสกับนางว่า <<หญิงเอ๋ย พวกเขาไปไหนหมด ไม่มีใครเอาโทษเจ้าหรือ>> [11] นางนั้นทูลว่า <<พระองค์เจ้าข้า ไม่มีผู้ใดเลย>> และพระเยซูตรัสว่า <<เราก็ไม่เอาโทษเจ้าเหมือนกัน จงไปเถิดและอย่าทำผิดอีก>>]
https://bible.com/bible/275/jhn.8.1-11.TH1971
เป็นเรื่องใหญ่เลยกับสองเรื่องนี้สำหรับมนุษย์ครับ กับการล่วงประเวณีและการหยากเป็นคนมั่งมีคนเก่งเด่นดัง ทำหลายคนพินาศล้มตายหรือถึงขั้นพิการตายทั้งเป็นไปแบบไม่รู้ตัวมาเยอะครับ
พอติดตามความหยากนั่นไปคิดหาวิธีหมกมุ่นอยู่แต่กับเรื่องนี้แล้วลงมือทำครั้งแรกอาจไม่ผิดพลาดถูกจับได้ แต่พอย่ามใจทำอีกเรื่อยๆ สุดท้ายก็พลาดล้มละลายถูกจับหรือถึงตายได้ครับ
ตอนนี้กับการใช้ชีวิตบนโลก การใช้ชีวิตที่ไม่ติดตามพระเจ้ามันมีแต่จบลงที่ความพินาศเท่านั้นครับ มันไม่มีทางรอดเป็นอื่น เพราะฤทธิ์อำนาจของความบาปที่กำลังพาผู้คนให้ไปจบลงเช่นนั้น เหมือนเครื่องบินที่ถูกตั้งโปรแกรมควบคุมทิศทางเอาไว้หมดแล้ว เครื่องมันก็ได้แต่ต้องพาไปทางนั้น เราผู้โดยสารเปลี่ยนแปลงไม่ได้ครับ
ทางรอดจากความพินาศของมนุษย์บนโลกตอนนี้คือปฏิเสธความคิดหรือวิถีทางของโลกหันกลับมาติดตามพระคำพระเจ้าครับ เหมือนที่ผู้หญิงคนนี้เธอรอดตายจากการถูกหินขว้างตายก็เพราะได้มาพบกับพระเยซูนี้ครับ
อิสยาห์ 55:7-8 TH1971
[7] ให้คนอธรรมละทิ้งทางของเขา และคนไม่ชอบธรรมสละความคิดของเขา ให้เขากลับยังพระเจ้า เพื่อพระองค์จะทรงกรุณาเขา และยังพระเจ้าของเรา เพราะพระองค์จะทรงอภัยอย่างล้นเหลือ [8] เพราะความคิดของเราไม่เป็นความคิดของเจ้า ทั้งทางของเจ้าไม่เป็นวิถีของเรา>> พระเจ้าตรัสดังนี้
https://bible.com/bible/275/isa.55.7-8.TH1971
เราจะมาดูจากพระคำด้วยกันไล่ไปทีละข้อๆนะครับ
ยอห์น 8:1-11 TH1971
[1] แต่พระเยซูเสด็จไปยังภูเขามะกอกเทศ [2] ในตอนเช้าตรู่พระองค์เสด็จเข้าในบริเวณพระวิหารอีก คนทั้งหลายพากันมาหาพระองค์ พระองค์ก็ประทับนั่งและเริ่มสั่งสอนเขา [3] พวกธรรมาจารย์และพวกฟาริสี ได้พาผู้หญิงคนหนึ่งมา หญิงผู้นี้ถูกจับฐานล่วงประเวณี และเขาให้หญิงผู้นี้ยืนอยู่หน้าฝูงชน
ผู้หญิงคนนี้ถูกจับมาด้วยพวกธรรมาจารย์ฟาริสี ที่ตัดสินเธอด้วยธรรมบัญญัติคือจะต้องถูกทำโทษด้วยการขว้างด้วยหินให้ตายครับ
ผู้หญิงคนนี้ตลอดมาก็ทำมาเรื่อยๆหยุดไม่ได้ครับกับการล่วงประเวณี ถึงแม้จะรู้ว่ามันเป็นเรื่องไม่ดีถ้าถูกจับได้ก็จะถูกผู้คนรุมเอาหินขว้างตายได้เลย ไม่ควรทำแบบนี้ แต่พอถึงเวลาความหยากเข้ามาจริงๆ ก็ได้แต่ถูกลากไปล่วงประเวณีง่ายๆตลอด เหมือนคนติดเหล้าบุหรี่หรือการพนัน ก็รู้ว่าไม่ควรจะทำหรือใช้ชีวิตแบบนี้ แต่ตอนที่ความหยากเข้ามา มันไม่มีแรงกำลังมากพอจะสู้ได้ครับ แต่พอเห็นว่าไม่ถูกจับได้ก็เริ่มย่ามใจ ปล่อยๆเลยตามเลย ไม่คิดจะหาทางออกอย่างจริงจัง
จนสุดท้ายเธอก็ถูกจับได้จริงๆ หมดโอกาสจะแก้ตัว ดีว่าได้มาพบกับพระเยซูเสียก่อนจึงรอดได้ครับ
[4] เขาทูลพระองค์ว่า <<พระอาจารย์เจ้าข้า หญิงคนนี้ถูกจับเมื่อกำลังล่วงประเวณีอยู่ [5] ในธรรมบัญญัตินั้นโมเสสสั่งให้เราเอาหินขว้างคนเช่นนี้ให้ตาย ส่วนท่านจะว่าอย่างไรในเรื่องนี้>> [6] เขาพูดอย่างนี้ เพื่อทดลองพระองค์หวังจะหาเหตุฟ้องพระองค์ แต่พระเยซูทรงน้อมพระกายลงเอานิ้วพระหัตถ์เขียนที่ดิน
หญิงคนนี้ก็คงมีคำถามในใจเดียวกันกับพวกฟาริสีนี้เหมือนกันครับ พระเยซูจะตอบว่าอย่างไรนะ? ไม่ได้เชื่อแต่แรกเลยหร็อกว่าพระเยซูสามารถจะช่วยเธอให้รอดตายได้จริงๆ เพราะกฏบัญญัติก็บอกไว้เช่นนั้นจริงๆ ก็เคยเห็นหลายคนที่ต้องตายเพราะทำผิดเรื่องนี้มาก่อนแล้วเหมือนกัน
ฟาริสีก็จะคอยจับผิดกับพระเยซูเรื่อยๆ เพราะพระเยซูสอนในสิ่งที่ต่างออกไปจากพวกเขาซึ่งสอนให้ถือรักษาธรรมบัญญัติที่พระเจ้าให้มาทางโมเสสครับ แต่ก็สอนไปโดยที่ตัวเองก็ไม่ได้รู้อย่างชัดเจนถึงจิตใจพระเจ้าที่ส่งธรรมบัญญัติให้มาเพื่ออะไร?
พระเจ้าต้องการให้มนุษย์ได้รู้อย่างชัดเจนว่าตนถูกความบาปครอบงำแล้ว เป็นคนดีไม่ได้คือใช้ชีวิตตามธรรมบัญญัติไม่ได้แล้ว แต่มนุษย์ไม่รู้จึงต้องเขียนธรรมบัญญัติบนศิลาและส่งธรรมบัญญัติลงมาเพื่อให้มนุษย์ทุกคนทางโมเสส เพื่อให้มนุษย์จะได้รู้อย่างชัดเจนว่าตนเป็นคนบาปที่สมควรตายสมควรถูกสาปแช่งและสมควรไปนรกในที่สุดจริงๆ
[7] และเมื่อพวกเขายังทูลถามอยู่เรื่อยๆ พระองค์ก็ทรงลุกขึ้นตรัสตอบเขาว่า <<ผู้ใดในพวกท่านที่ไม่มีผิด ก็ให้ผู้นั้นเอาหินขว้างเขาก่อน>> [8] แล้วพระองค์ก็ทรงน้อมพระกายลงเอานิ้วพระหัตถ์เขียนที่ดินอีก
พระเยซพระเยซูเอานิ้วเขียนลงที่ดิน
พวกฟาริสีเพราะไม่ได้รู้สึกตัวเลยว่าตนเองกำลังใช้ชีวิตแบบคนบ้าอยู่ยังไงกับการตั้งตัวเองเหนือกว่าคนอื่นด้วยการพยายามจะถือรักษาธรรมบัญญัติ แล้วก็มาโกรธเกลียดโต้เถียงกับพระองค์ที่พยายามจะบอกความจริงนี้ให้กับพวกเขาเรื่อยๆ ครับ มนุษย์จะรอดได้ด้วยพระเยซู ไม่ใช่ด้วยความพยายามตั้งใจของตัวเองซึ่งเป็นคนบาป
พระเยซูก็เลยบอกให้ใครไม่เคยทำผิดเลยให้ขว้างก่อน เพราะบนโลกมันไม่มีอยู่แล้วกับคนแบบนั้นครับ
[9] แต่เมื่อเขาทั้งหลายได้ยินดังนั้น เขาทั้งหลายจึงออกไปทีละคนๆ เริ่มจากคนเฒ่าคนแก่ เหลือแต่พระเยซูตามลำพัง กับหญิงคนนั้นที่อยู่ต่อพระพักตร์พระองค์
พวกเขายอมรับว่าตัวเองก็เคยทำความผิดบาปมาเหมือนกันจึงไม่มีใครเอาหินขว้างแต่แค่โยนหินทิ้งแล้วเดินหนีจากไปเฉยๆ?
ความจริงพวกเขาควรอยู่รอฟังคำตัดสินจากพระเยซูด้วยครับ ว่าจะเอายังไงกับคนบาปอย่างเขา แต่กลับทิ้งโอกาสที่จะได้รับการชำระบาป
[10] พระเยซูทรงเงยพระพักตร์ขึ้นตรัสกับนางว่า <<หญิงเอ๋ย พวกเขาไปไหนหมด ไม่มีใครเอาโทษเจ้าหรือ>> [11] นางนั้นทูลว่า <<พระองค์เจ้าข้า ไม่มีผู้ใดเลย>> และพระเยซูตรัสว่า <<เราก็ไม่เอาโทษเจ้าเหมือนกัน จงไปเถิดและอย่าทำผิดอีก>>]
ผ่านทางเหตุการณ์นี้ทุกคนมีโอกาสได้รับการชำระบาปทุกคน แต่ปัญหาคือมองไม่เห็นว่ามันไม่ใช่แต่ผู้หญิงที่ถูกจับได้คนนี้ที่มีบาปผิด แต่ตัวเองก็ด้วย
ทุกวันนี้ก็เช่นกัน หลายคนมาที่คริสตจักร มีโอกาสได้รับการชำระบาป ทุกครั้งที่ฟังพระคำ แต่ก็ฟังเป็นเรื่องของคนอื่นเท่านั้น ไม่ยอมรับว่าเป็นเรื่องของตัวเองด้วย จิตใจจึงไม่เคยอยากได้รับพระคำเข้ามาชำระล้างเปลี่ยนแปลงจิตใจตัวเอง
เพราะตอนที่มันฟังพระคำแล้วเห็นความผิดบาปความสกปรกชั่วร้ายของตัวเองและอยากจะออกอยากเป็นอิสร ตอนนั้นมันจะเห็น มันจะรับได้ง่ายกับพระคุณพระเจ้าที่ให้พระเยซูลงมายังโลกนี้ก็เพื่อให้มนุษย์ได้หลุดพ้นจากอำนาจบาปนี้ครับ เพราะถ้าไม่มีพระองค์มนุษย์ก็ได้แต่ต้องจมอยู่กับความหยากความโลภสิ่งสารพัดไม่สิ้นสุดเพื่อจะปกป้องรับผิดชอบชีวิตตัวเองซึ่งสุดท้ายก็ปกป้องตัวเองไม่ได้อยู่ดี ได้แต่เหนื่อยเปล่ากับชีวิตเท่านั้นครับ
ฮีบรู 10:14-17 TH1971
[14] โดยการถวายบูชาเพียงครั้งเดียว พระองค์ก็ได้ทรงกระทำให้คนทั้งหลายที่ได้รับการทรงชำระให้บริสุทธิ์แล้วนั้นถึงความสมบูรณ์เป็นนิตย์ [15] และพระวิญญาณบริสุทธิ์ก็ทรงเป็นพยานให้แก่เราด้วย เพราะว่าพระองค์ได้ตรัสไว้แล้วว่า [16] <<องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า นี่คือพันธสัญญาซึ่งเราจะกระทำกับเขาทั้งหลาย หลังจากสมัยนั้น เราจะบรรจุพระธรรมไว้ในใจของเขาทั้งหลาย และเราจะจารึกพระธรรมนั้นไว้ในจิตใจของเขาทั้งหลาย>>
[17] แล้วตรัสต่อไปว่า <<และเราจะไม่จดจำบาปกับการอธรรมของเขาทั้งหลายอีกต่อไป>>
https://bible.com/bible/275/heb.10.14-17.TH1971
ไลฟ์สไตล์
ข่าวรอบโลก
พัฒนาตัวเอง
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย