🔄 ทำไม “ความภักดี” ไม่ใช่คำตอบ และ “การมีอาชีพเดียว” คือความเสี่ยงสูงสุดในยุค AI
📍 บทเรียนจากข่าวใหญ่ Accenture และความจริงที่คนทำงานต้องยอมรับ
====
💥 ข่าวร้ายจากแนวหน้าของโลกธุรกิจล่าสุด?
โลกธุรกิจสะเทือนอีกครั้ง เมื่อ Accenture บริษัทที่ปรึกษาระดับโลก ปลดพนักงานกว่า 22,000 คน เพื่อประหยัดต้นทุนกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ สิ่งที่สร้างความตกใจไม่ใช่แค่ “จำนวนคน” แต่คือคำที่ผู้บริหารใช้ "Rapid Talent Rotation” หรือ “การหมุนเวียนผู้มีความสามารถอย่างรวดเร็ว”
คำนี้ไม่ใช่สโลแกนสวยหรู แต่คือการประกาศอย่างตรงไปตรงมาว่า ใคร Reskill ไม่ทัน = "ถูกหมุนออกจากระบบ และเงินทุนที่เหลือจะถูกนำไปลงทุนใน AI แทน"
นี่คือ “กฎเกมใหม่” ของโลกการทำงาน ที่ทำให้ทุกคนต้องตั้งคำถามกับเส้นทางอาชีพของตัวเองอย่างจริงจัง
====
🧨 ความเชื่อเก่า?
Accenture ไม่ใช่เคสโดดเดี่ยว แต่เป็นเหมือนไปรษณียบัตรจากอนาคตที่ส่งมาเตือนเราว่า ความเชื่อเดิมๆ กำลังใช้ไม่ได้อีกต่อไป
1. “ทักษะเดียวก็พอ”
อดีต: คนเรียนบัญชี วิศวะ หรือกฎหมาย สามารถทำอาชีพยาว 30-40 ปีได้ด้วยทักษะหลักเดียว
ปัจจุบัน: World Economic Forum (2023) ระบุว่า ทักษะเฉลี่ยมี “half-life” เพียง 2-5 ปี หมายถึงครึ่งหนึ่งของความรู้ที่คุณมีวันนี้จะล้าสมัยในเวลาไม่กี่ปี
2. “รายได้เดียวมั่นคงที่สุด”
อดีต: งานประจำในบริษัทใหญ่ = ความมั่นคง
ปัจจุบัน: กรณี Accenture แสดงให้เห็นว่าความภักดีไม่ช่วยอะไร การปลดคนคือการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว ครอบครัวจำนวนมากสูญเสียรายได้หลักในชั่วข้ามคืน
3. “ก้าวหน้ามาตามลำดับขั้น”
อดีต: ขยัน รอคอย โปรโมชันไปทีละขั้น
ปัจจุบัน: ในวันที่คุณรอคอย บันไดที่คุณปีนอยู่อาจถูกยกออกไปทั้งอันเพราะองค์กรปรับโครงสร้างหรือยุบแผนก
====
🧩 กรณีศึกษา “เมื่อทักษะตายไปพร้อมอุตสาหกรรม?”
* Kodak: จากยักษ์ใหญ่ฟิล์มที่เคยครองตลาด พนักงานที่เชี่ยวชาญการล้างอัดฟิล์มหลายหมื่นคนต้องตกงานทันทีเมื่อโลกเปลี่ยนเข้าสู่ยุคกล้องดิจิทัล เรื่องนี้สะท้อนว่าแม้จะเก่งเพียงใด แต่หากทักษะไม่สอดคล้องกับความต้องการใหม่ๆ ก็ไม่อาจรักษางานไว้ได้
* IBM: ต้องปรับโครงสร้างหลายรอบเพื่อทุ่มงบพัฒนาด้าน Cloud และ AI พนักงานที่ยังอยู่กับทักษะแบบเดิมโดยไม่ Reskill ต้องออกจากระบบทันที เป็นตัวอย่างของการที่องค์กรใหญ่ยังต้อง “สละ” สิ่งที่ไม่ทันต่อการเปลี่ยนแปลง
* ญี่ปุ่น: แนวคิด “Shūshin koyō” หรือการทำงานตลอดชีพที่เคยเป็นค่านิยมหลักของสังคม เริ่มเสื่อมความนิยมลง คนรุ่นใหม่ไม่เชื่ออีกต่อไปว่าการอยู่บริษัทเดียวจะการันตีความมั่นคงตลอดชีวิต เพราะตัวอย่างจริงมีให้เห็นว่าบริษัทใหญ่ก็สามารถปรับลดพนักงานได้เช่นกัน
กรณีเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่า “ทักษะที่เคยรุ่งเรืองอาจหมดอายุพร้อมกับอุตสาหกรรม” และสิ่งที่ทำให้รอดไม่ใช่การยึดติดกับงานเดิม แต่คือการปรับตัวและพัฒนาทักษะใหม่ๆ อยู่เสมอ
====
💼 โมเดลใหม่ = "Portfolio Career"
เมื่อความมั่นคงไม่มีอยู่จริง ทางรอดไม่ใช่หางานที่มั่นคงที่สุด แต่คือการสร้างชีวิตการทำงานที่ยืดหยุ่นที่สุด เหมือนคุณคือ CEO ของ “บริษัท ชื่อคุณ จำกัด” ที่ต้องบริหารพอร์ตโฟลิโอของตัวเองให้ครบทั้งทักษะ รายได้ และโอกาส
1. พอร์ตโฟลิโอทักษะ (Skills Portfolio)
แทนที่จะยึดติดกับความเชี่ยวชาญเพียงเรื่องเดียว (รูปตัว I) คนยุคใหม่ต้องมีทั้งความรู้ลึกและกว้าง (รูปตัว T หรือ M) เช่น โปรแกรมเมอร์ที่เข้าใจ UX และการตลาด, นักการตลาดที่วิเคราะห์ข้อมูลได้, หรือผู้สื่อข่าวที่ทำ Podcast และวิดีโอได้ นี่คือการเสริมเกราะให้ตัวเองไม่ถูกแทนที่ง่ายๆ
2. พอร์ตโฟลิโอรายได้ (Income Portfolio)
งานประจำเป็นเพียงหุ้นตัวหนึ่งในพอร์ตเท่านั้น อย่าพึ่งพาเพียงอย่างเดียว แต่ให้กระจายความเสี่ยง เช่น รับงานฟรีแลนซ์, ทำช่อง YouTube หรือ Podcast, ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล กองทุน หรือแม้กระทั่งธุรกิจเล็กๆ ที่สร้างรายได้เสริม
3. พอร์ตโฟลิโอโอกาส (Opportunity Portfolio)
อย่ารอให้หัวหน้าเห็นคุณค่า แต่จงวิ่งเข้าหาโปรเจกต์ใหม่ๆ ที่สร้าง Impact ขยายเครือข่ายมืออาชีพ และเปิดประตูสู่เส้นทางใหม่ เพราะโอกาสไม่มักเดินเข้ามาหา แต่เราต้องเป็นฝ่ายออกไปคว้ามันมาเอง
====
🧭 วิธีปฏิบัติที่แนะนำ?
1. Reskill & Upskill – ลงเรียนคอร์สออนไลน์ เช่น Coursera, LinkedIn Learning, FutureSkill เพื่อให้ทันต่อทักษะใหม่
2. สร้างรายได้ที่สอง – เริ่มจากเล็ก เช่น รับงานเสริมผ่านแพลตฟอร์ม Fastwork หรือ Upwork แล้วค่อยต่อยอดให้เติบโต
3. สร้างตัวตนออนไลน์ – แชร์บทเรียนและผลงานบน LinkedIn หรือโซเชียลอื่นๆ เพื่อดึงดูดโอกาสใหม่และสร้างความน่าเชื่อถือ
4. คิดแบบ CEO ของตัวเอง – จัดการชีวิตการทำงานเหมือนบริษัท ต้องมีรายได้หลายทาง ลงทุนในทักษะใหม่เสมอ และรู้จักปรับกลยุทธ์ทันทีเมื่อสภาพแวดล้อมเปลี่ยน
====
✨ ดังนั้น ความมั่นคงเดียวที่แท้จริงคือ?
ให้มองภาพ Accenture คือภาพอนาคตที่บอกเราว่า ความภักดีไม่ใช่เกราะอีกต่อไป และ “ทักษะเดียว รายได้เดียว” คือความเสี่ยงสูงสุดในยุค AI
คุณต้องเป็น CEO ของอาชีพตัวเอง = ลงทุนในทักษะใหม่ กระจายรายได้ และพร้อมเปลี่ยนเส้นทางเมื่อจำเป็น
“ความมั่นคงไม่ได้มาจากบริษัท แต่มาจากความสามารถในการปรับตัวของเราเอง”
====
Source : Accenture job cuts hit 22,000 in 2025 as firm targets $1B in savings, rebound seen in 2026, https://insiderph.com/accenture-job-cuts-hit-22000-in-2025-as-firm-targets-1b-in-savings-rebound-seen-in-2026
====
#วันละเรื่องสองเรื่อง #FutureOfWork #CareerStrategy #PortfolioCareer #Reskilling #AI #Accenture #ความมั่นคง
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
