Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
สันติ ผู้เผยแพร่ข่าวประเสริฐ
•
ติดตาม
5 ต.ค. เวลา 14:13 • ครอบครัว & เด็ก
คำพยานชีวิต
ก็เป็นเหมือนลมหายใจของคริสเตียนครับสำหรับคำพยานชีวิต กับการได้พูดถึงการทำงานหรือพระคุณพระเจ้าในชีวิตแต่ละวันยังไง
ช่วงแรกๆที่ผมเริ่มได้มั่นใจเรื่องการชำระบาปโดยพระเยซู ก็ได้ทำให้ผมบริสุทธิ์ชอบธรรมหรือสมบูรณ์เป็นนิตย์แล้ว ผมก็ได้ออกมาให้คำพยานต่อหน้าพี่น้องสมาชิกในคริสตจักรที่โบสถ์ครับ แต่ก็ไม่ได้ให้อีก? เพราะมันเข้าใจว่าก็ได้รับแล้ว เชื่อแล้วก็จบประมาณนั้น
ต่อมาอีกนานเลยก็ได้ออกมาให้คำพยานชำระบาปอีกที่โบสถ์ หลังจากเกิดความไม่มั่นใจและเข้าไปคุยกับผู้รับใช้มาจนมั่นใจ แล้วก็หายไปอีกนานเลย ก็เป็นแบบนี้ซ้ำๆหลายรอบครับ
เพราะมันไม่เข้าใจชัดเจนครับกับเรื่องการให้คำพยานชำระบาป ความจริงมันคล้ายกับเรื่องของนาอามานใน2พงกษัตริย์บทที่5 ที่เขาลงไปจุ่มตัวในแม่น้ำจอร์แดนเจ็ดครั้งจึงหายสะอาดจากโรคเรื้อนครับ
ซึ่งเลขเจ็ดหมายถึงความสมบูรณ์ทุกวันเรื่อยไป แต่ตอนนั้นผมรู้สึกว่าเป็นเรื่องน่าอายด้วยซ้ำกับการจะออกไปให้คำพยานชำระบาปอีก ความจริงเรายังคงให้คำพยานได้อีกเรื่อยไป เพราะพระเจ้ายังคงทำงานกับเรากับการชำระล้างจิตใจให้สะอาดจากความคิดผิดๆ ที่เข้ามาแต่ละวันครับ
"อะไรอยู่โบสถ์เชื่อพระเจ้ามาตั้งนาน ยังไม่ได้รับการชำระบาปอีก?" หลายคนก็จะโดนเสียงนี้หลอกครับ ก็จะกลัวคนอื่นสมาชิกในโบสถ์จะดูหมิ่นถ้าให้คำพยานชำระบาปอีก แล้วก็เงียบเฉยไว้ เพื่อจะให้คนอื่นเข้าใจว่าตนได้รับการชำระบาปแล้ว
ถ้าอาจารย์เชื่อเสียงเชื่อความคิดแบบนี้ก็คงหยุดที่จะให้คำพยานไปแล้วตอนเทศนาสั่งสอนครับ แต่พอเชื่อกับความคิดที่มารซาตานหลอกนั่น จึงหยุดที่จะสนใจฟังพระคำที่คริสตจักรจูงนำให้แต่ละวัน เพื่อจะให้ได้เห็นกับสภาพจิตใจของตัวเอง เมื่อเห็นแล้วก็สามารถที่จะพูดใหคำพยานได้ ออกจากความคิดผิดๆได้
หลายคนจึงถูกหลอกด้วยความคิดนั่นและเลิกสนใจติดตามฟังพระคำของคริสตจักรซึ่งพระเจ้ากำลังจูงนำให้อยู่แบบนี้ครับ หลายคนฟังก็เลยฟังแบบไม่ได้คาดหวังที่จะต้องได้ยินต้องเข้าใจได้เห็นตัวเองครับ แต่ฟังเพราะแค่อยากจะอวดสมาชิกในโบสถ์คนอื่นเฉยๆ ก็เลยฟังพระคำไม่รู้เรื่อง ไม่ได้ฟังแบบคนที่จะต้องได้ยินต้องเข้าใจชัดเจนเสียก่อนเพื่อจะก้าวต่อไปใช้ชีวิตต่อไปได้เพราะพระเจ้าก็กำลังจูงนำชีวิตให้ในแต่ละวันแบบนี้ครับ
อยากให้คำพยานผ่านพระคำตอนนี้ครับ
มาระโก 5:1-13 TH1971
[1] ฝ่ายพระองค์กับเหล่าสาวก ก็ข้ามทะเลไปยังแดนเมืองชาวเก-ราซา
พระเจ้าก็ได้ส่งพระเยซูลงมายังโลกนี้เพื่อช่วยมนุษย์ให้ได้หลุดพ้นออกจากบาปหรือฤทธิ์อำนาจของมารซาตานวิญญาณชั่ว อย่างที่ได้ช่วยผมออกมาผ่านทางคนของพระเจ้าหรือคริสตจักรด้วยครับ
[2] พอพระองค์เสด็จขึ้นจากเรือ มีคนหนึ่งออกจากอุโมงค์ฝังศพ มีผีโสโครกสิงได้มาพบพระองค์
มารซาตานมันกลัวพระเยซูครับ พอเห็นพระเจ้าส่งพระเยซูลงมายังโลก ก็ออกอาการร้อนตัวอยู่โลกนี้ต่อไม่ง่ายแล้วครับ มาหาผู้รับใช้พระเจ้าแต่ละครั้งของผมแรกๆก็จะชอบจับผิดอย่างพวกฟาริสีเลยครับ เพราะผมเชื่อพระเจ้าผ่านกลุ่มผู้นำศาสนาซึ่งเหมือนพวกฟาริสีนี้ครับไม่ได้เชื่อผ่านผู้รับใช้ของพระเจ้าครับ ตอนได้มาเจอกับคนของพระเจ้าแรกๆ มันก็เลยมาแบบไม่ได้เชื่อว่าตัวผมเองยังมีผีสิงต้องได้รับการช่วยเหลือจากคริสตจักรครับ
แต่มาแบบฉันเป็นคนของพระเจ้าแล้วแบบที่ฟาริสีมั่นใจ แค่มีเรื่องทำผิดพลาดไปบ้างแต่ก็สารภาพบาปได้ ตอนนั้นทำผิดเรื่องล่วงประเวณีจนเป็นเหตุให้พาฝ่ายหญิงหลบหนีออกมาจากกลุ่มสังกัดเดิมแล้วมาพบกับอาจารย์ที่คริสตจักร แต่ไม่ได้เชื่อว่าตัวเองยังไม่มีพระวิญญาณของพระเจ้าครับ
พอได้มาเจอกับคนของพระเจ้าซึ่งเข้ามาคุยกับผมเรื่อยๆ คุยกันผมไม่รู้เรื่องครับ ผมเข้าใจไม่ได้ แต่อาจารย์ก็จะบอกเรื่อยๆ ว่าผมยังไม่เชื่อพระเจ้า ไม่มีพระวิญญาณฯ แค่รู้พระคัมภีร์ฯเฉยๆ ว่าแบบนี้แรกๆผมรับไม่ได้ครับ แต่ก็คุยต่อเรื่อยๆ อยากรู้ด้วยว่ามันคือยังไง? ก็รู้จักพระเจ้ามาสิบสองปีเป็นอาจารย์มาสามปี เรียนศาสนศาสตร์มา3ปี แล้วฉันไม่เชื่อพระเจ้าได้ยังไง?
[3] คนนั้นอาศัยอยู่ตามอุโมงค์ฝังศพ และไม่มีผู้ใดจะผูกมัดตัวเขาอีกได้ แม้จะล่ามด้วยโซ่ตรวนก็ไม่อยู่ [4] เพราะว่าได้ล่ามโซ่ใส่ตรวนหลายหนแล้ว เขาก็หักโซ่และฟาดตรวนเสีย ไม่มีผู้ใดมีแรงพอที่จะทำให้เขาสงบได้
เหมือนชีวิตผมก่อนหน้าครับ อยู่อุโมงค์ฝังศพไม่อยู่บ้าน คือชอบอยู่แต่กับตัวเอง ไม่ชอบที่จะติดตามพระเจ้าครับ ไม่สนใจไม่รู้จักกับพระคำความจริง เอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ไม่ชอบชีวิตที่อยู่ใต้ใคร เป็นลูกจ้างใครก็เลยไม่ทน เพราะรับคำตักเตือนมากไม่ได้สุดท้ายก็ออกมาทำงานอิสรโตขึ้นๆ แล้วก็เจ๊งครับ หลายครั้งหลายเรื่องกับชีวิต เพราะไม่เคยเรียนรู้จากคนอื่นไม่ชอบ ชอบกินผลที่มาจากตัวเอง เย่อหยิ่งจองหองมากๆแบบนี้ครับ
ถึงแม้ได้มาเชื่อพระเจ้า แต่เพราะไปเจอกลุ่มเชื่อแบบศาสนายังอยู่ใต้ธรรมบัญญัติจึงได้แต่ทำให้ผมกลับยิ่งเชื่อมั่นตัวเองมากขึ้นไปอีกกับการเชื่อว่ามีพระเจ้าคอยสนับสนุน กลายเป็นฟาริสีที่เชื่อว่าตนนั้นสะอาดดีกว่าคนอื่น ตั้งตัวเองจากการทำตัวดีๆ เคร่งในธรรมบัญญัติ เอาสิ่งนี้มาเป็นสำคัญแทนความเชื่อวางใจพระเยซูครับ
การที่ผมได้เริ่มมารู้จักกับพระเจ้าแต่ผ่านกลุ่มคณะผู้นำศาสนาที่มุ่งสอนให้ทำความดี ผมก็เลยออกจากอำนาจวิญญาณชั่วไม่ได้ กลับยิ่งไปกันใหญ่ คือมีแต่ทำให้ยิ่งมั่นใจตัวเองมากยิ่งขึ้นไปอีกว่าตนสามารถทำคุณงามความดีได้นี้ครับ ใครทำดีมีผลงานมากก็จะยิ่งถูกยอมรับมากจากสังคมที่นั่นครับ
[5] เขาคลั่งร้องอึงอยู่ตามอุโมงค์ฝังศพ และที่ภูเขาทั้งกลางคืนกลางวันเสมอ และเอาหินเชือดเนื้อของตัว
ข้อนี้ผมเห็นว่าเป็นชีวิตที่ติดกับธรรมบัญญัตินะครับ ชีวิตคือการพยายามทำตามกฏแห่งความสำเร็จต่างๆ ของโลก หรือพยายามทำความดี ไม่รู้สึกตัวเลยครับว่ากำลังเป็นบ้ายังไงกับการพยายามจะถือรักษาธรรมบัญ้ติซึ่งมีแต่พระเจ้าหรือพระเยซูเท่านั้นที่สามารถทำตามได้ เพราะพระองค์คือพระเจ้าไงก็เลยสามารถทำได้ครับ แต่พอเชื่อมารซาตานที่คอยหลอกว่าทำดีได้มันก็เลยไม่สนใจอ่านฟังพระคำครับ
เพราะถ้าทำดีได้เองพระเจ้าช่วยก็ไม่จำเป็นแล้ว อาจารย์หลายคนก็สอนว่าเราเป็นคนดีได้เพราะมีพระเจ้า หลายคนก็เลยสรุปเอาว่าตราบใดที่เรายังทำความดีอยู่พระเจ้าก็อยู่กับเรา จึงไม่สนใจที่จะฟังพระคำที่จูงนำจิตใจในแต่ละวัน เพราะสนใจอยู่แต่กับยังทำดีอยู่ไม่ทำให้ใครเดือดร้อนก็พอ เหมือนชีวิตคนทางศาสนาทั่วไปนี้ครับ
[6] ครั้นเขาเห็นพระเยซูแต่ไกลก็วิ่งเข้ามากราบไหว้พระองค์ [7] แล้วร้องเสียงดังว่า <<ข้าแต่พระเยซูพระบุตรของพระเจ้าสูงสุด พระองค์มายุ่งกับข้าพระองค์ทำไม ข้าพระองค์ขอให้พระองค์สาบานในพระนามของพระเจ้าว่า จะไม่ทรมานข้าพระองค์>>
ช่วงแรกๆที่ผมได้พบกับคนของพระเจ้าที่มาสามัคคีธรรมให้ ผมเองก็มีความรู้สึกรำคาญด้วยครับ เพราะไม่อยากให้มาเปลี่ยนแปลงอะไรกับชีวิตผม ไม่รู้อะไรนักหนากว่าจะได้รับการชำระบาป แต่คุยแบบต้องการทดลองหรือจับผิดผู้รับใช้มากกว่า เป็นวิญญาณชั่วในผมนี้เองที่เกลียดกลัวกับการสามัคคีธรรมกับผู้รับใช้คนของพระเจ้าครับ มันกลัวความสว่าง มันกลัวผมจะรู้สึกตัวแล้วจะทำให้ล่อลวงหรือหลอกใช้ผมเป็นเครื่องมือฆ่าทำลายคนอื่นไม่ได้อีกต่อไปหากได้พบกับความสว่างหรือความจริงของพระเยซูนี้ครับ
[8] ที่พูดเช่นนี้ เพราะพระองค์ได้ตรัสแก่มันว่า <<อ้ายผีโสโครก จงออกมาจากคนนั้นเถิด>> [9] แล้วพระองค์ตรัสถามชายนั้นว่า <<เอ็งชื่ออะไร>> มันตอบว่า <<ชื่อกอง เพราะว่าพวกข้าพระองค์หลายตนด้วยกัน>> [10] มันจึงอ้อนวอนพระองค์เป็นอันมาก มิให้ขับไล่มันออกจากแดนเมืองนั้น
พอได้พูดคุยกับผู้รับใช้ คุยๆไปก็จะเริ่มอึดอัดมากเพราะถูกจับได้ตลอดว่ากำลังโกหก เพราะผีมันไม่อยากออกง่ายๆ แต่ก็ต้องหาคำพูดโกหกอ้างแถไปเรื่อยไม่อยากถูกจับได้ แต่ผู้รับใช้ของพระเจ้าก็จะคุยไล่ต้อนสอนพระคำไปเรื่อยๆ จริงๆคือกำลังไล่ผีออกให้กับผมนี้ครับ ต้องการช่วยพาผมออกมาจากผีมาร ต้องการให้ผมได้เห็นความจริงว่ากำลังถูกมันหลอกใช้อยู่ครับ
เพราะพอได้พูดคุยกันผ่านพระคำไปเรื่อยๆ ผมก็เริ่มได้เห็นสภาพจิตใจของตัวเอง เริ่มเห็นถึงการทำงานของมารซาตานกับพระเจ้ากับชีวิตของผมยังไง เริ่มแยกแยะและออกจากมารซาตานมาอยู่ข้างพระเจ้าได้ครับ
[11] มีสุกรฝูงใหญ่กำลังหากินอยู่ที่ไหล่เขาตำบลนั้น [12] ผีเหล่านั้นก็อ้อนวอนพระองค์ว่า <<ขอโปรดให้ข้าพระองค์ทั้งหลายเข้าในสุกรเหล่านี้เถิด>> [13] พระองค์ก็ทรงอนุญาต แล้วผีโสโครกนั้นจึงออกไปเข้าสิงอยู่ในสุกร สุกรทั้งฝูงประมาณสองพันตัวก็วิ่งกระโดดจากหน้าผาชันลงไปในทะเลสำลักน้ำตาย
ถ้าผมไม่พบพระเยซูผมก็ได้แต่ถูกมันลากไปพินาศเหมือนหมูสองพันตัวนี้ครับ ผีสองพันตัว สารพัดผีที่ทำงานกับผมเพื่อจะพาไปฆ่า ทั้งผีลามก,ผีหยากรวย ผีหยากเก่ง ผีหยากดัง ผีหยากฆ่าทำลาย ผีหยากเสพเหล้ายา ผีหยากกิน ผีหยากเที่ยว ผีขี้กลัว ผีขี้ระแวงฯลฯ เยอะมากๆเลยครับกับความโลภในใจสารพัดหยากเลยก่อนได้มารู้จักกับพระเยซู ไม่รู้จะตายเพราะผีตัวไหนก่อน
ดีว่ามาเจอพระเยซูก่อนแบบนี้มันก็เลยหยุดได้แบบนี้ครับ เพราะพระเยซูมีกำลังที่มากกว่ามารซาตานครับ ถ้าไม่มีพระคำ ไม่มีคริสตจักรชีวิตผมก็ได้แต่ต้องจบลงที่การฆ่าทำลาย กลายเป็นผู้เผยพระวจนะเท็จของมารซาตานทำให้คนเข้าใจพระเจ้าแบบผิดๆ แล้วไปนรก ทำดีที่ไม่มีพระเจ้ารับรองก็ได้แต่จบลงที่ฆ่าทำลายผู้คนเท่านั้นครับ
ยอห์น 3:16 TH1971
[16] เพราะว่าพระเจ้าทรงรักโลก จนได้ทรงประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่วางใจในพระบุตรนั้นจะไม่พินาศ แต่มีชีวิตนิรันดร์
https://bible.com/bible/275/jhn.3.16.TH1971
กับชีวิตที่เหลือตอนนี้มันก็เลยไม่มีอะไรที่จะต้องไปแบกเองแล้วมีแค่พระเยซูก็พอแล้วชีวิต นั่นคือสิ่งที่ผมรู้กับชีวิตใหม่ในพระคริสต์และเป็นเรื่องใหม่ที่ผมต้องเรียนรู้ครับกับชีวิตที่เชื่อวางใจกับพระองค์หรือพระคำในทุกเรื่อง ผ่านทางพระคัมภีร์ไบเบิ้ลกับคริสตจักร
ซึ่งก็ไม่ง่ายเลยครับเพราะมันเป็นทางใหม่ที่ผมไม่คุ้นเคย ต้องปรับตัวใหม่แต่ก็รู้สึกดีและขอบคุณพระเจ้าได้เพราะมันมีพระสัญญาพระเจ้ารับรองบอกล่วงหน้าให้และมีคำเตือนคำสอนและคำพยานมากมายจากคริสตจักรให้ได้เรียนรู้และเตือนสติให้ทุกวันๆแบบนี้ไม่ต้องใช้ชีวิตแบบลองผิดลองถูกแล้วแต่เวรกรรมเช่นแต่ก่อนครับ
ไลฟ์สไตล์
ข่าวรอบโลก
พัฒนาตัวเอง
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย