ความมั่นคง?
เป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนาใช่ไหมครับ สำหรับคนปกติ ซึ่งสำหรับผมก็เชื่อว่าคือทางพระเยซูคริสต์ครับ
เหตุเพราะพระองค์เป็นประตูเข้าถึงพระเจ้าผู้มีอำนาจสูงสุด ผมจึงเห็นว่าการฝากชีวิตไว้กับพระองค์นี้แหล่ะคือทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับมนุษย์ทุกคนครับ
ซึ่งทางที่น่ากลัวที่สุดที่พระเจ้าบอกไว้ก็คือการเชื่อมั่นตัวเองครับ และเมื่อพินิจพิจารณาแล้วมันก็ได้แต่ต้องเห็นด้วยครับ กับปัญหาเลวร้ายมากมายที่เราเห็นเกิดขึ้นในสังคมทุกวันนี้ ล้วนมาจากคนที่เชื่อมั่นตัวเองก่อขึ้นทั้งนั้นครับ เพราะมนุษย์ทุกคนอยู่ใต้อำนาจบาป ผลจากความผิดพลาดที่อาดัมบรรพบุรุษได้ก่อขึ้นครั้งแรก ความบาปนี้ทำให้มนุษย์ได้แต่ไหลไปสู่ทางเสื่อมทรามหรือความพินาศเท่านั้นครับ
แต่ถ้าให้พระเจ้ารับผิดชอบพระเจ้าก็รับประกันความมั่นคงให้สองอย่างคือพระองค์จะรับผิดชอบกับชีวิตในโลกให้ทั้งหมดทุกเรื่องและอย่างที่สองหลังร่างกายบนโลกนี้หมดสภาพดวงวิญญาณเราก็จะได้กลับบ้านแท้ที่สวรรค์สังคมที่ๆไม่มีความสกปรกชั่วร้ายทุจริตเหลื่อมล้ำไม่ต้องต่อสู้ดิ้นรนเพื่อจะอยู่รอดอีกต่อไปครับ
บนโลกพระเจ้าก็ให้พระคัมภีร์ไบเบิ้ลกับคริสตจักรมาเป็นตัวช่วยให้เราเข้าถึงกับจิตใจของพระเจ้าได้ ถ้าสิ่งที่เราคาดหวังตรงกับใจของพระเจ้าทุกอย่างมันก็จะดำเนินไปด้วยดีครับ ก็ไม่ต้องลองผิดลองถูกตามเวรตามยถากรรมอีกต่อไป
อย่างผมก็เป็นสตาฟคริสตจักรงานหลักก็เน้นเผยแพร่สั่งสอนพระคำพระเจ้า เรื่องหาเงินก็เลยไม่มีครับ แนะนำสอนกับคนทำงานเป้าหมายหลักไม่ใช่หาเงินเพื่อจะมีชีวิตรอดครับ เพราะความรอดของคนเราขึ้นอยู่กับพระเจ้า แต่ทำงานเพื่อมีโอกาสได้เห็นการทำงานของพระเจ้าและได้พบปะคนใหม่ๆได้รู้จักได้บอกความจริงเหล่านี้ให้กับพวกเขาได้รับความรอดของพระเจ้าด้วย ตอนเห็นพวกเขาหลุดพ้นจากความบาปได้แล้วเราก็มีความสุขไปด้วยแบบนี้ครับ
ตอนที่ทำงานด้วยจิตใจนี้ผมเห็นพวกเขาก็มีความสุขครับจากการได้เห็นผู้คนได้หลุดพ้นออกจากความทุกข์หลังได้รู้ความจริงนี้ ส่วนเงินก็กลายมาเป็นของแถมไปแบบนี้ครับ เงินไม่ได้เป็นพระเจ้าขาดมันไม่ได้เหมือนแต่ก่อนอีกต่อไปครับ แต่ก่อนเพราะไปฝากชีวิตกับเงินหรือสิ่งอื่นไม่ใช่พระเจ้าปัญหาก็เลยไม่จบครับ
เพราะรากทุกปัญหาของผู้คนในสังคมทุกวันนี้ล้วนมาจากการที่พวกเขาเชื่อมั่นตัวเองไม่เชื่อพระเจ้านี้ครับ เพราะไอ้ตัวเองก็จะพาไปทางอื่นไม่มาทางพระเจ้า ถ้าหันกลับมาหาพระเจ้าทุกปัญหาก็มีทางออกให้ทั้งหมดครับ
อยากยกตัวอย่างพระคำสักเรื่องจากพระคัมภีร์ไบเบิ้ลของพระเจ้า เกี่ยวกับเงินทองทรัพย์สมบัติของโลกนี้นะครับ เพราะมันทำให้ชีวิตหลายคนต้องถึงความพินาศมามากแล้วครับ
ปฐมกาล 13:5-13 TH1971
[5] ฝ่ายโลทที่ไปกับอับรามนั้น มีฝูงแพะ แกะ และฝูงโคกับเต็นท์ด้วย [6] ที่ดินที่นั่นไม่กว้างขวางพอให้เขาทั้งสองอยู่ด้วยกันหมดได้ เพราะฝูงสัตว์ของเขาทั้งสองมีอยู่มาก จึงอยู่ด้วยกันไม่ได้ [7] คนเลี้ยงสัตว์ของอับรามกับคนเลี้ยงสัตว์ของโลทก็วิวาทกัน เวลานั้นพวกคานาอันและคนเปริสซียังอาศัยอยู่ที่นั่น
[8] อับรามจึงพูดกับโลทว่า <<เราอย่าวิวาทกันเลย อย่าให้คนเลี้ยงสัตว์ของเจ้ากับคนเลี้ยงสัตว์ของเราวิวาทกัน เพราะเราเป็นญาติสนิท [9] ที่ดินทั้งหมดอยู่ตรงหน้าเจ้ามิใช่หรือ จงแยกไปจากเราเถิด ถ้าเจ้าไปทางซ้าย เราก็จะไปทางขวา หรือเจ้าจะไปทางขวาเราก็จะไปทางซ้าย>>
[10] โลทเงยหน้าแลดูที่ลุ่มแม่น้ำจอร์แดนทางทิศเมืองโศอาร์ เห็นว่ามีน้ำบริบูรณ์อยู่ทุกแห่งเหมือนพระอุทยานของ พระเจ้า เหมือนแผ่นดินอียิปต์ นี่เป็นสภาพก่อนพระเจ้าทรงทำลายเมืองโสโดม และเมืองโกโมราห์ [11] โลทจึงเลือกที่ลุ่มแม่น้ำจอร์แดนทั้งหมดเป็นส่วนของตน โลทออกเดินทางไปทิศตะวันออก เขาทั้งสองจึงแยกกันไป
[12] อับรามอาศัยอยู่ในแผ่นดินคานาอัน ส่วนโลทอาศัยอยู่ท่ามกลางหัวเมืองในที่ลุ่มแม่น้ำ และย้ายเต็นท์ไปตั้งถึงเมืองโสโดม [13] ชาวเมืองโสโดมเป็นคนชั่วช้าทำบาปผิดต่อพระเจ้าเป็นอันมาก
โลทเองไปต่อกับลุงคืออับราฮัมไม่ได้ เพราะเขาอยากสร้างฐานะของตัวเอง ไม่อยากมาอยู่ใต้การปกครองของลุง ถ้าอยู่กับลุงแบบนี้ก็ทำไม่ได้? ก็เหมือนกับคนมากมายทุกวันนี้ที่อยากแยกตัวออกจากครอบครัวพ่อแม่เพื่อจะได้ทำอะไรตามแนวทางที่ตนเห็นชอบจริงๆ ถ้าอยู่กับพ่อแม่มันทำตามใจไม่ได้ ก็เดินตามรอยของอาดัมที่ออกจากพระเจ้ามาครับ
แต่ช่องทางที่จะทำให้โลทได้รับพรคือโดยผ่านทางอับราฮัมครับ ไม่ใช่ด้วยตัวเอง สิบปีผ่านไปทุกสิ่งที่เขาได้สร้างมันขึ้นก็ล่มสลายที่เมืองโสโดม เมียก็ตาย ลูกสาวก็เสียสติมอมเหล้าข่มขืนพ่อของตนเอง จนเกิดลูกที่มาต่อต้านชนชาติของพระเจ้าคืออัมโมนกับโมอับ และแทนที่เขาจะกลับไปหาอับราฮัมแต่ไม่ยอม ชีวิตของโลทจึงจบลงที่ตรงนี้ ในขณะที่อับราฮัมยังดำเนินต่อไปจนให้กำเนิดพระเยซูคริสต์และได้กลายมาเป็นบิดาของประชาชาติมากมายทุกวันนี้ครับ
ลูกหลานอับราฮัมในปัจจุบันก็เปรียบเหมือนพระเยซูหรือคริสตจักรนี้ครับ เป็นประตูเปิดเข้าสู่โลกที่เต็มด้วยพระพรของพระเจ้า เป็นคานาอันฝ่ายวิญญาณ เป็นสวรรค์บนโลก
ช่วงนี้ผมดูข่าวดูโพสต์ของคนไทยหลายคนที่ระบายความอัดอั้นตันใจกับประเทศไทย กับการที่ไม่สามารถจะหลุดพ้นออกจากอำนาจอิทธิพลที่ครอบงำประเทศได้จริงๆ ไม่สามารถจะพึ่งพาวางใจกับใครได้จริงๆ คือยากมากกับพลังมวลชนกำจัดอิทธิพลเหล่านี้ออกไปไม่ได้จริงครับ คนเก่าไปคนใหม่มาก็เหมือนเดิม มันโยงใยไปทั้งหมดกับมหาอำนาจทั่วโลก ไม่ใช่แค่ในประเทศกับอิทธิพลที่กำลังทำงานกับประเทศไทย ประชาชนแค่เป็นหมากให้พวกเขาเล่นกันครับ พิการบาดเจ็บล้มตายมากมายเพื่อให้บรรลุแผนการของพวกเขาผู้มีอำนาจครับ
มองประเทศเขมร คนเดือดร้อนมากจริงๆ คือประชาชนครับ พวกผู้นำข้างบนยังอยู่สุขสบายใช้ประชาชนเป็นโล่ห์ปกป้องตัวเอง ที่กาซ่าก็เหมือนกันครับ
กับคนที่ไม่ติดตามพระเจ้าก็ได้แต่ต้องตกเป็นเหยื่อของพวกเขาที่ใช้กลไกต่างๆบีบให้ประชาชนไปในทิศทางที่พวกเขาต้องการครับ แม้ประชาชนรวมตัวลุกฮือได้แต่ก็ไม่นานเหมือนโยนหินลงน้ำตูมน้ำแตกกระจาย แต่แป้บเดียวไม่นานก็จะกลับมาเหมือนเดิม เหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นครับ
เพราะรากปัญหาจริงๆ มันอยู่ที่ใจของประชาชนส่วนมากเองที่มีปัญหา ไม่สามารถรวมตัวหรือร่วมใจกันได้จริงๆ เพราะความบาปในใจของทุกคนนี้ครับ อำนาจมืดพวกนี้จึงสามารถทำงานได้อย่างมีพลังครับ และนอกจากพระเจ้าแล้วไม่มีใครสามารถจะเอาชนะอำนาจมืดที่ว่าได้ครับ
เราจึงต้องเริ่มต้นที่ตัวเราเองต้องหันกลับมาหาพระเจ้าก่อนครับ แล้วจะหลุดพ้นจากความบาปเมื่อได้ย้ายมาเชื่อพระเจ้าแทนตัวเองแบบนี้ครับ
การพยายามความขยันตั้งใจดีของเราเองจะไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นได้ครับ ยังไงก็ออกจากฤทธิ์อำนาจของบาปไม่ได้ ยังไงก็ได้แต่ถูกความบาปลากไปสู่ความตายความพินาศหรือการแช่งสาปเท่านั้นครับ
ต้องยอมรับการช่วยเหลือจากพระเยซูจึงจะรอดได้ครับ บนโลกพระองค์กำลังทำงานผ่านพระคัมภีร์ไบเบิ้ลและคริสตจักรแบบนี้ครับ
ยอห์น 3:16-17 TH1971
[16] เพราะว่าพระเจ้าทรงรักโลก จนได้ทรงประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่วางใจในพระบุตรนั้นจะไม่พินาศ แต่มีชีวิตนิรันดร์ [17] เพราะว่าพระเจ้าทรงให้พระบุตรเข้ามาในโลก มิใช่เพื่อพิพากษาลงโทษโลก แต่เพื่อช่วยกู้โลกให้รอดโดยพระบุตรนั้น
ซึ่งความจริงนี้ควรจะถูกแชร์ส่งต่อไปยังทุกๆคนเพื่อจะรอดได้อย่างแท้จริงครับ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
