Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
หนังสือสนทนากับพระเจ้า
•
ติดตาม
10 ต.ค. เวลา 07:52 • หนังสือ
#17 9️⃣ การเปลี่ยนแปลงที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ทุกสิ่ง — บทที่ 1️⃣2️⃣ ความจริงของเรามาจากที่ใด(2) :
เปลี่ยนความจริงที่อยู่ลึกที่สุดของคุณเกี่ยวกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น ด้วยการเริ่มความคิดของคุณในที่ใหม่
💟 ผู้แปล : คุณ♾️อุดม
หากคุณพร้อมที่จะไปต่อเท่านั้น ให้เลื่อนลงไปที่ . . .
...
...
...
WHAT DO WE HAVE TO GO ON❓
เรามีอะไรให้ดำเนินต่อไป❓
คุณเริ่มเห็นแล้วหรือยังว่าสิ่งเหล่านี้สามารถนำมาปรับใช้กับคุณได้อย่างไร? คุณเริ่มเข้าใจแล้วหรือไม่ว่าประสบการณ์ของคุณเกี่ยวกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในชีวิตของคุณตอนนี้ #สามารถเปลี่ยนแปลงอย่างมากได้โดยการเข้าใจ—และจากนั้นใช้—กลไกที่ผมได้อธิบายไว้ที่นี่?
สิ่งที่คุณต้องทำคือ #เปลี่ยนความจริง(truth)#ที่อยู่ลึกที่สุดของคุณเกี่ยวกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น #เริ่มความคิดของคุณในที่ใหม่ แต่นี่คือความท้าทายใหม่ . . . .
ไม่มีจุดเริ่มต้นที่หมดจด ไม่มีมุมมองอะไรใหม่
มีคนเคยกล่าวไว้ว่า “ในชีวิตมนุษย์ ไม่มีมุมมองใหม่ที่เป็นไปได้หลังจากวันแรก”
นั่นอาจจะเป็นการกล่าวเกินจริงไปหน่อย แต่ประเด็นนั้นชัดเจน #เราเกือบจะมาจากข้อมูลก่อนหน้าเสมอเมื่อพิจารณาไม่ว่าจากช่วงเวลาใดๆ จะเป็นอย่างอื่นได้อย่างไร? เราไม่มีอะไรให้ดำเนินต่อนอกจากสิ่งที่กำลังดำเนินอยู่
หรือเรามี . . . ?
สิ่งที่สร้างความคิดของคุณคือ “ความจริง” ที่คุณเชื่อ★ และสิ่งที่กำหนดความจริงที่คุณเชื่อ—ความจริงที่ปรากฏหรือความจริงที่จินตนาการ—คือ #ข้อมูลในอดีต(past data)#ใดที่คุณมอง
★ตรงนี้ได้ความเข้าใจใหม่แล้วนะครับว่า
ความจริง = สิ่งที่เราเชื่อ(ความเชื่อของเรา) ; ความเชื่อของเราจึงสร้างความคิดของเรา และความเชื่อของเราก็มาจากข้อมูลที่เราใส่เข้าไป (ให้จิต) ในทุกๆขณะ ; ข้อมูล สร้าง ความเชื่อ สร้าง ความคิด —ผู้แปล
นี่แหละ เราจะลงลึกลงไปในรูกระต่ายลึกยิ่งขึ้นและลึกยิ่งขึ้น ซึ่งในไม่ช้าช่างทำหมวกบ้า (Mad Hatter)★ จะปรากฏตัว สาบานกับเราว่า #สิ่งที่เป็นอยู่ไม่ได้เป็นอยู่_และสิ่งที่ไม่ได้เป็นอยู่กลับเป็นอยู่ นี่แหละ เราจะลงลึกเข้าไปในเมทริกซ์ลึกยิ่งขึ้นและลึกยิ่งขึ้น ในไม่ช้าชายในชุดขาวจะพาเราไปยังห้องขาวที่มีจอโทรทัศน์มากมายและอธิบายทุกอย่างให้เราฟัง . . . ★★
★Mad Hatter ในการ์ตูนเรื่อง อลิซในดินแดนมหัศจรรย์
★★The Architect ในหนังเรื่อง The Matrix —ผู้แปล
สิ่งที่เราจะเรียนรู้ไม่เพียงแต่ว่าความจริงที่อยู่ลึกที่สุด (innermost truth) ของคุณเกิดขึ้นจากข้อมูลในอดีต (Past Data) ของคุณเท่านั้น แต่ยังมาจากตัว(การ)เลือกที่คุณทำจากข้อมูลในอดีตที่คุณเลือกมอง
ในระหว่างกระบวนการสร้างความจริง (ใช่ จิตใจของคุณสร้างความจริง ไม่ได้สังเกตมัน) จิตใจเดินทางย้อน(เวลา)กลับไป ในเวลา #เพื่อดึงข้อมูลทุกชิ้นจากช่วงเวลาก่อนหน้าทั้งหมด ที่เห็น รู้สึก รับรส ได้ยินเสียง หรือได้กลิ่นเหมือนช่วงเวลานี้ ถ้าจิตใจพบการจับคู่ มันจะเปรียบเทียบข้อมูลทั้งสองเพื่อดูว่าการจับคู่นั้นใกล้เคียงแค่ไหน จากนั้น #เพิ่มข้อมูลทั้งหมดจากอดีตที่มันพิจารณาว่าเกี่ยวข้องเข้าไปในช่วงเวลาปัจจุบัน ทำให้เกิดชุดข้อมูลใหม่ทั้งหมดที่ไม่เหมือนกับข้อมูลที่สังเกตเห็นในตอนแรกเลย
ข้อมูลที่ได้รับการแก้ไขและเพิ่มเติมนี้มีอิทธิพลอย่างมากในการสร้างสิ่งที่คุณเรียกว่า “ประสบการณ์” ของคุณ “ความเป็นจริง (reality)” ของคุณไม่ใช่สิ่งที่คุณกำลังเห็น แต่เป็นสิ่งที่คุณ #คิดว่า คุณกำลังเห็นหลังจากที่คุณได้เพิ่มข้อมูลในอดีตเข้าไป มันขึ้นอยู่กับ “ความจริง (truth)” ที่จิตใจของคุณได้ดึงออกมาจากข้อมูลในอดีตของคุณและส่งออกไปยังช่วงเวลาปัจจุบัน มันคือ “ความเป็นจริง (reality)” ตามที่คุณได้ประสบมา คนอื่น 10 คนอาจจะประสบมันในอีก 10 วิธี นี่เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้เสมอ ต้องจำไว้ให้มั่นเสมอ
ตอนนี้มาถึงส่วนที่ยากแล้ว ข้อเท็จจริงก็คือคุณเก็บข้อมูลในอดีต 2 ประเภทไว้ในใจ
ผมจะเรียกสิ่งนี้ว่า #ข้อมูลในอดีตที่ถูกตัดสิน และ #ข้อมูลในอดีตที่เป็นข้อเท็จจริง
จะไม่วิเศษหรอกหรือถ้าทุกอย่างมาเป็นหนึ่งเดียว? (แบบเดียว) แต่ไม่ เราต้องมี ‘ความเป็นจริง’ 3 ประการ (Triune Reality) และ ‘ความจริง’ 3 ยี่ห้อ (Three Brands of Truth) และตอนนี้เราลงลึกไปถึง ‘ข้อมูลในอดีต’ 2 ประเภท (two kinds of Past Data) แต่อย่างน้อยนี่ก็คือก้นบึ้งของมันแล้ว #นี่คือตัวการที่แท้จริง
ถ้ามีข้อมูลในอดีตเพียงประเภทเดียว เราก็จะมีความจริงเพียงยี่ห้อเดียวและความเป็นจริง(เฉพาะตน)เพียงแบบเดียว ดังนั้นอย่างน้อยตอนนี้เราก็รู้แล้วว่าปัญหาคืออะไร❗
ตอนนี้ . . . ข้อมูลในอดีตที่ถูกตัดสินสามารถมีสิ่งที่คุณเรียกว่าความทรงจำที่ดีหรือความทรงจำที่เลว ซึ่งฉลาก(จะเป็นดีหรือเลวก็)ขึ้นอยู่กับว่าคุณตัดสินเหตุการณ์ที่สร้างความทรงจำเหล่านั้นในตอนแรกอย่างไร. . .
ซึ่งแน่นอน เป็นการตัดสินที่อยู่บนพื้นฐานของเหตุการณ์ก่อนหน้าที่มองผ่านบริบทของข้อมูลในอดีตที่ถูกตัดสินก่อนหน้า . . . ซึ่งในทางกลับกัน อยู่บนพื้นฐานของเหตุการณ์ก่อนหน้ายิ่งกว่า . . . และเป็นเช่นนี้ ย้อนกลับไปจนถึงตอนที่คุณเกิด—และไกลกว่านั้น (ใช่ คุณเริ่มรับข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวคุณตั้งแต่อยู่ในครรภ์)
❌#ตัวอย่างของข้อมูลในอดีตที่ถูกตัดสิน : การเลิกราของความสัมพันธ์แบบคนรักเป็นความเจ็บปวด
✅#ตัวอย่างของข้อมูลในอดีตที่เป็นข้อเท็จจริง : การเลิกราของความสัมพันธ์คือการสิ้นสุดของเวลาที่คนสองคนจะใช้ร่วมกันในการใช้ชีวิตอย่างใกล้ชิด สิ่งนี้อาจจะเป็น “แย่” หรือ “ดี”. . . หรือ “ไม่ใช่ทั้งสองอย่าง” มันก็เป็นเพียงสิ่งที่เป็นอยู่★
★หมายความว่ามันจะเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับนิยามหรือความหมายที่เราให้มัน แต่ปัญหาคือ ตอนที่พวกเราทุกคนยังเด็ก ไม่มีใครมาสอนเราในเรื่องนี้ ไม่มีที่ไหนสอนเราเรื่องความสัมพันธ์ 101 ทั้งหมดเราเป็นคนตีความเอาเอง ซึ่งส่วนใหญ่ก็เลยหมายความออกมาเป็น "แย่/เลวร้าย" 😅 —ผู้แปล
#สิ่งเหล่านี้ทั้งหมดกำลังหมุนวนอยู่ในใจของคุณตลอดเวลา มันอาศัยอยู่ที่นั่น และไม่สามารถลบได้ ไม่มีปุ่มลบในคอมพิวเตอร์เครื่องนี้ จิตใจของคุณจะ “นำมาไว้ข้างหน้า” ข้อมูลในอดีตนี้ทันทีที่ข้อมูลปัจจุบันดูคล้ายกับมันแม้เพียงเล็กน้อย #คุณจะทำการประเมินข้อมูลปัจจุบันบนพื้นฐานของข้อมูลก่อนหน้าที่คุณ #และมีเพียงคุณเท่านั้นที่มี ไม่มีใครเดินไปมาพร้อมกับอดีตของคุณ ไม่มีใครมีประวัติศาสตร์ของคุณ
นี่หมายความว่าไม่มีใครในจักรวาลสามารถเผชิญ เข้าใจ หรือประสบกับสิ่งใดๆในแบบเดียวกับที่คุณทำได้อย่างแม่นยำ ไม่ใช่ตราบใดที่คุณยังอยู่ในจิตใจของคุณ ในแง่ที่เคร่งครัดตามตัวอักษร เป็นไปไม่ได้ที่จะมี “#การพบกันของจิตใจ”★
อย่างไรก็ตาม #คุณสามารถมีการผสานกันของวิญญาณได้* (*วิญญาณคุณกับวิญญาณดวงอื่น) นี่คือความสัมพันธ์ที่ได้รับพรซึ่งมนุษย์ทุกคนโหยหา นี่คือที่ที่ความจริง(truth)ถูกรู้ มนุษย์โหยหาความสัมพันธ์ที่ได้รับพรนี้เพราะพวกเขามีการรับรู้ในระดับเซลล์ว่าไม่เพียงแต่มันเป็นไปได้ ไม่เพียงแต่มันเคยเกิดขึ้น แต่มันกำลังเกิดขึ้นตอนนี้★★ สิ่งเดียวที่ขวางกั้นเราจากการประสบความสัมพันธ์นี้คืออารมณ์ที่อยู่บนพื้นฐานของความคิดที่อยู่บนพื้นฐานของความจริงที่อยู่บนพื้นฐานของ #ข้อมูลในอดีตที่ถูกตัดสิน
★หากยังจำกันได้ นีลถึงบอกเราไว้ตั้งแต่แรก (การเปลี่ยนแปลงแรก) ว่า “อย่าเดิน(อย่าอยู่)เพียงลำพัง–don’t go alone”
★★หมายถึงความสัมพันธ์แบบผสานกันของวิญญาณกำลังเกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้ —ผู้แปล]
วิญญาณสามารถก้าวข้ามเส้นแห่งเหตุและผลนี้ได้อย่างไรในเมื่อจิตใจดูเหมือนจะทำไม่ได้? ง่ายๆ ในความเป็นจริงสูงสุด (Ultimate Reality) (ที่ซึ่งวิญญาณอาศัยอยู่) #ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าข้อมูลในอดีต #มันเป็นที่นี่และเดี๋ยวนี้เสมอ★
[★เป็นปัจจุบันขณะเสมอ ไม่มีอดีต ไม่มีอนาคต —ผู้แปล]
อ่า แต่นั่นเป็นการสนทนาที่แตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง เราจะเก็บเรื่องนั้นไว้ในส่วนที่ 2 (ของหนังสือ)
เมื่อพิจารณาย้อนกลับไปที่ประสบการณ์ของมนุษย์ที่เกิดขึ้นในชีวิตของคนส่วนใหญ่ เราจะเห็นว่าจิตใจของเราหมุนวนอยู่กับข้อมูลในอดีตที่ผ่านการตัดสิน หรือ ข้อมูลในอดีตที่เป็นข้อเท็จจริง ซึ่งในท้ายที่สุดของเส้นแห่งเหตุและผลนั้น จิตแพทย์และนักจิตวิทยาเรียกมันว่า ความเป็นจริงเชิงวัตถุวิสัย (Objective Reality) และ ความเป็นจริงเชิงอัตวิสัย (Subjective Reality)
ความเป็นจริงเชิงอัตวิสัยเกิดจากข้อมูลในอดีตที่ผ่านการตัดสิน (ซึ่งไม่ได้เป็นแง่ลบทั้งหมด และไม่ควรตีความเช่นนั้น บ่อยครั้งเราตัดสินเหตุการณ์ในอดีตว่าเป็นสิ่งที่วิเศษมาก) ความเป็นจริงเชิงวัตถุวิสัยเกิดจากข้อมูลในอดีตที่เป็นข้อเท็จจริง (สิ่งที่คุณอาจเรียกว่า “ข้อมูลดิบ” เทียบกับ “ข้อมูลที่ผ่านการวิเคราะห์”)
ในโมเดลของผมเอง ผมเรียกความเป็นจริงเชิงวัตถุวิสัยว่า “ความเป็นจริงที่สังเกตได้”* (*ข้อมูลดิบ-ข้อเท็จจริง) และเรียกความเป็นจริงเชิงอัตวิสัยว่า “ความเป็นจริงที่บิดเบือน”* (*ข้อมูลที่ผ่านการวิเคราะห์-ผ่านการตัดสิน) ทำไมผมไม่ใช้คำศัพท์เดียวกับที่ชุมชนการบำบัดใช้? ทำไมผมจึงสร้างโมเดลของตัวเองขึ้นมา?
เพราะคำศัพท์ของผมอธิบายได้ชัดเจนกว่า และที่สำคัญกว่านั้นคือ เพราะโมเดลการบำบัดแบบดั้งเดิมไม่ยอมรับการมีอยู่ของความเป็นจริงที่ 3
ทุกอย่างลงตัวสำหรับผมเมื่อผมเริ่มมองชีวิตโดยใช้โมเดลที่แสดงให้เห็นบางสิ่งที่อยู่เหนือความเป็นจริงที่บิดเบือนและความเป็นจริงที่สังเกตได้—สิ่งที่ผมเรียกว่า #ความเป็นจริงสูงสุด (Ultimate Reality)
การมีอยู่ของความเป็นจริงที่ 3 นี้คือสิ่งที่ทำให้ทุกคนสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของตนเองได้อย่างมหัศจรรย์ ไม่ใช่แค่เปลี่ยนแปลงเล็กน้อย แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงแบบพลิกผัน (แบบหน้ามือเป็นหลังมือ)
การให้ความสนใจกับความเป็นจริงที่ 2—สิ่งที่คุณสังเกตเห็นอย่างเป็นรูปธรรม (objectively observe) แทนที่จะเป็นสิ่งที่คุณประสบอย่างเป็นอัตวิสัย (subjectively experience)—สามารถเปลี่ยนแปลงประสบการณ์ของคนเราให้ดีขึ้นได้ และนักจิตวิทยาที่ดีก็ได้ช่วยผู้คนทำเช่นนั้น แต่การให้ความสนใจกับความเป็นจริงที่ 3️⃣—สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นใน(ท้าย)ที่สุด (ultimately happening) แทนที่จะเป็นสิ่งที่เราสังเกตเห็นว่ากำลังเกิดขึ้น—สามารถส่งผลต่อชีวิตของคุณ #จนคุณอาจไม่ต้องทนทุกข์กับความปั่นป่วนทางอารมณ์อีกเลย_ตลอดไป
นี่คือที่(สภาวะ) #ที่พระพุทธเจ้าดำรงอยู่ (เป็นอยู่) นี่คือ #ที่ที่พระเยซูคริสต์สถิต นี่คือที่ที่พระอาจารย์ที่แท้จริงทั้งหลายอาศัยอยู่ มันเป็นบ้านของท่านปรมหังสา โยคานันทะ เป็นที่พำนักขององค์ดาไลลามะ เป็นที่ที่คุณจะพบติช นัท ฮันห์ และพระอาจารย์ชาวตะวันตกด้วย เช่น สตีเฟน เลวีน เอ็คฮาร์ท โทลเล่ ไบรอน เคที และแมรี่ โอมัลลีย์ คนเหล่านี้คือ #ผู้ที่เข้าใจ และบางคนกล่าวว่าพวกเขาได้เข้าถึงแก่นแท้ของชีวิต
ผมได้นำความเข้าใจนี้มาเรียบเรียงด้วยถ้อยคำของตัวเอง สำหรับผม ดูเหมือนชัดเจนว่าการที่จะใช้จิตใจให้เกิดประโยชน์สูงสุด (และด้วยเหตุนี้ จึงสามารถประสบกับตัวชีวิตเองได้ในระดับสูงสุด) เราต้องก้าวข้ามโมเดลการบำบัดแบบมาตรฐานไป
แนวคิดทางจิตวิทยาสมัยใหม่มีพื้นที่น้อยมาก (หากมี) สำหรับจิตวิญญาณ นั่นคือ สำหรับพระเจ้าและวิญญาณ(soul) นี่เป็นความย้อนแย้งอย่างสูงเพราะแนวคิดดั้งเดิมนั้นตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง!
คำว่า “จิตวิทยา–psychology (ไซโคโลยี)” เองก็ให้เบาะแสแก่เรา “จิต–Psyche (ไซคี)” มาจากคำกรีกที่แปลว่า “วิญญาณ(soul)” “Logy (โลยี)” ก็มาจากภาษากรีกเช่นกัน แปลว่า “ความรู้-วิทยา (knowledge)” เราจึงเห็นได้ว่า “psycho+logy” = “ความรู้เกี่ยวกับวิญญาณ (soul knowledge)”—ซึ่งเป็นสิ่งที่ชาวกรีกโบราณรู้ว่าพฤติกรรมที่ดีทั้งหมดล้วนมีรากฐานมาจากสิ่งนี้!
แนวคิดที่ผมใช้ (รวมถึงที่อยู่ในหนังสือเล่มนี้) รู้สิ่งเดียวกัน โมเดลที่ผมใช้เพื่อศึกษาและส่งผลต่อพฤติกรรมมีพื้นฐานอยู่บนจิตวิญญาณ (spirituality) มีรากฐานอยู่ใน theo+logy (ธีโอโลยี)—นั่นคือ ความรู้เกี่ยวกับพระเจ้า สิ่งนี้ทำให้การบำบัดมีประสิทธิภาพมากขึ้นหรือไม่?
คุณคิดว่าอย่างไร?
จากการสังเกตของผม ความเป็นจริงที่ 3 หรือ ความเป็นจริงสูงสุด (Ultimate Reality) ซึ่งเกิดขึ้นจากความจริงแท้(Actual Truth) ในที่สุดได้มอบคำอธิบาย (ที่ความเป็นจริง 2 อย่างแรกไม่สามารถให้ได้) ไม่เพียงแต่เกี่ยวกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น แต่ยังรวมถึงเหตุผลว่าทำไมด้วย และเมื่อเรารู้ว่าทำไมบางสิ่งจึงเกิดขึ้น (เช่น การเปลี่ยนแปลงแบบฉับพลัน)
เราสามารถใช้พลังอันมหาศาลของจิตใจ ร่วมกับความชัดเจนนิรันดร์ของวิญญาณ ไม่เพียงแต่เพื่อเปลี่ยนแปลงประสบการณ์ของเราต่อสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว แต่ยังสามารถสร้างประสบการณ์ของเราต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นด้วย
นี่คือก้าวต่อไปในวิวัฒนาการของมนุษยชาติ และมนุษย์ไม่จำเป็นต้องรอเป็นปีเพื่อที่จะก้าวไป คุณเองก็สามารถก้าวขึ้นไปได้ในเวลาเพียงไม่กี่นาที จริงๆแล้ว #ในเวลาแค่ที่ใช้อ่านหนังสือเล่มนี้จบ
และนี่คือสิ่งที่ดีที่สุด คุณไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยกับมุมมองของผมเกี่ยวกับพระเจ้าเพื่อที่จะทำเช่นนั้น คุณไม่จำเป็นต้องเชื่อในพระเจ้าเลย คุณมีอิสระ หนังสือเล่มนี้ไม่ได้ต้องการให้คุณเปลี่ยนศาสนา ผมจะไม่พยายามโน้มน้าวให้คุณเชื่อในสิ่งใดที่นี่ ผมเพียงแต่แบ่งปันเครื่องมือบางอย่างให้กับคุณ คุณจะเห็นเองว่ามันได้ผลสำหรับคุณหรือไม่ แต่คุณไม่จำเป็นต้องเชื่อในสิ่งใดเพื่อที่จะใช้เครื่องมือเหล่านี้
แต่พึงรู้ไว้ว่าสิ่ง(ใด)ที่จะเปลี่ยนแปลงที่นี่ หากคุณใช้เครื่องมือเหล่านี้ ไม่ใช่แค่ประสบการณ์ของคุณต่อการเปลี่ยนแปลงในชีวิตที่คุณกำลังผ่านอยู่ในขณะนี้ เครื่องมือเหล่านี้จะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดที่คุณจะประสบตั้งแต่นี้จนถึงวันที่คุณตาย—เมื่อคุณจะผ่านการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
ในตอนที่คุณตาย สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับคุณ สิ่งที่คุณจะตระหนักรู้ จะเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งเกี่ยวกับมุมมองที่คุณมีต่อชีวิตที่คุณได้ใช้มา ทุกเหตุการณ์จะถูกมองจากมุมมองที่กว้างขึ้น ทุกช่วงเวลาจะถูกมองด้วยความรักและการยอมรับ ทุกความผิดพลาดจะถูกมองด้วยความเข้าใจและความเมตตา ทุกความสำเร็จจะถูกมองด้วยความภาคภูมิใจอันอ่อนโยนและความสุขอันละเอียดอ่อน และความเต็มใจที่จะยอมรับและโอบกอดความยิ่งใหญ่ของตัวเองในที่สุด
การสนทนาที่เรากำลังมีอยู่นี้เกี่ยวกับการนำมุมมองเดียวกันนั้นมาสู่ปัจจุบัน มันเกี่ยวกับการย้ายมันจาก “ตอนนั้น” มาสู่ “ตอนนี้”
ผมจำได้ว่าพ่อของผมเคยพูดว่า “ถ้าฉันรู้ตอนนั้นในสิ่งที่ฉันรู้ตอนนี้ . . .” นี่คือเรื่องราวเกี่ยวกับการรู้ “ตอนนี้” ในสิ่งที่คุณจะรู้ “ตอนนั้น” (อะไรคือสิ่งที่คุณจะได้รู้จากนี้ล่ะ) น่าตื่นเต้นใช่ไหมครับ❓
✦
All of This:
it is preparation for walking in the world
as Light.
You have been found now,
and the running of many lifetimes
is over.
ทั้งหมดนี้:
คือการเตรียมตัวเพื่อเดินในโลก
ดั่งแสงสว่าง
เจ้าถูกพบแล้วตอนนี้
และการวิ่งหนีผ่านหลายชีวิต
สิ้นสุดลงแล้ว
So as each layer of dust
is wiped clean
from the surface,
the You
you have known
must disperse.
ดังนั้นเมื่อแต่ละชั้นของธุลี
ถูกเช็ดล้างจนสะอาด
จากผิวกาย
ตัวตน
ที่เจ้าเคยรู้จัก
ต้องสลายไป
Let this Light become
Your speech & Your silence.
ปล่อยให้แสงสว่างนี้กลายเป็น
คำพูด และ ความเงียบของเจ้า
Let the grief
that has lived you,
pass away.
ปล่อยให้ความโศก
ที่ได้ใช้ชีวิตผ่านเจ้า
จางหายไป
Let the people
who love You,
love Themselves.
ปล่อยให้ผู้คน
ที่รักเจ้า
รักตัวพวกเขาเอง
Let the earth shake,
the stars burn
the skies break
when You do.
ปล่อยให้แผ่นดินสั่นไหว
ดวงดาวลุกไหม้
ท้องฟ้าแตกสลาย
เมื่อเจ้าเป็นเช่นนั้น
As painful as this part is,
แม้ช่วงเวลานี้จะเจ็บปวดเพียงใด
You were meant to know your Light.
เจ้าถูกกำหนดมาให้รู้จักแสงสว่างของเจ้า
✦
—‘You Were Meant’ © 2007 Em Claire
—‘เจ้าถูกกำหนดมา’ © 2007 เอ็ม แคลร์
หนังสือ
จิตวิญญาณ
1 บันทึก
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
9 การเปลี่ยนแปลงที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ทุกสิ่ง
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย