12 ต.ค. เวลา 13:20 • สุขภาพ

9 กลไกหลักของการแก่ชรา (The 9 Hallmarks of Aging)

กลไกทั้ง 9 นี้ถูกจัดกลุ่มออกเป็น 3 หมวดหมู่หลัก ได้แก่ ต้นเหตุหลัก (Primary), การตอบสนอง (Antagonistic), และผลรวมของความเสียหาย (Integrative)
ส่วนที่หนึ่ง ต้นเหตุหลัก (Primary Hallmarks: Causes of Damage)
เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดความเสียหายสะสมในเซลล์เมื่อเวลาผ่านไป
1. Genomic Instability ความไม่เสถียรของสารพันธุกรรม
DNA ในเซลล์เกิดความเสียหายหรือการกลายพันธุ์สะสม ซึ่งเป็นผลจากความผิดพลาดในการซ่อมแซมและปัจจัยภายนอก
2. Telomere Attrition การสั้นลงของเทโลเมียร์
เทโลเมียร์ (ปลอกหุ้มปลายโครโมโซม) สั้นลงเรื่อย ๆ ในทุกการแบ่งตัว เมื่อสั้นถึงจุดวิกฤต เซลล์จะหยุดแบ่งตัวและเข้าสู่ภาวะชรา
3. Epigenetic Alterations การเปลี่ยนแปลงทางอิพิเจเนติก
การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการอ่านหรือแสดงออกของยีน โดยที่ลำดับ DNA ไม่เปลี่ยน ทำให้เซลล์ทำงานผิดปกติจากเดิม (เช่น เซลล์ตับทำงานเหมือนเซลล์ผิว)
4. Loss of Proteostasis การสูญเสียสมดุลโปรตีน
เซลล์ไม่สามารถควบคุมคุณภาพและการพับตัวของโปรตีนได้ ทำให้เกิดการสะสมของโปรตีนที่ผิดรูปและเป็นพิษต่อเซลล์
ส่วนที่สอง การตอบสนองต่อความเสียหาย (Antagonistic Hallmarks: Responses to Damage)
เป็นกระบวนการที่ร่างกายพยายามปรับตัวหรือตอบสนองต่อความเสียหายที่เกิดจากกลุ่มที่ 1 แต่เมื่อเกิดขึ้นต่อเนื่องจะส่งผลเสียในระยะยาว
5. Deregulated Nutrient-Sensing การรับรู้สารอาหารผิดปกติ
การเปลี่ยนแปลงของสัญญาณที่ควบคุมการเผาผลาญพลังงาน (เช่น อินซูลิน, AMPK, mTOR, Sirtuins) ทำให้การจัดการพลังงานในเซลล์ผิดปกติ นำไปสู่โรคเบาหวานหรือโรคเมตาบอลิก
6. Mitochondrial Dysfunction ความผิดปกติของไมโทคอนเดรีย
ไมโทคอนเดรีย (โรงงานพลังงานของเซลล์) ทำงานได้น้อยลง ประสิทธิภาพการผลิตพลังงานลดลง และมีการสร้างอนุมูลอิสระเพิ่มขึ้น
7. Cellular Senescence ภาวะเซลล์ชรา
เซลล์หยุดแบ่งตัวอย่างถาวร (ไม่ใช่การตาย) แต่ยังคงมีชีวิตอยู่และปล่อยสารอักเสบ (SASP) ออกมาทำลายเซลล์ข้างเคียง
ส่วนสุดท้าย ผลรวมของความเสียหาย (Integrative Hallmarks: Culprits of the Phenotype)
เป็นผลกระทบที่เกิดจากความเสียหายสะสมของทั้งสองกลุ่มแรก ซึ่งนำไปสู่การทำงานที่ล้มเหลวของเนื้อเยื่อและอวัยวะ
8. Stem Cell Exhaustion ภาวะสเต็มเซลล์อ่อนล้า
สเต็มเซลล์ (เซลล์ต้นกำเนิด) ที่ทำหน้าที่ซ่อมแซมเนื้อเยื่อต่างๆ มีจำนวนลดลงหรือสูญเสียความสามารถในการแบ่งตัว ทำให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเองได้ช้าลง
9. Altered Intercellular Communication การสื่อสารระหว่างเซลล์ที่ผิดพลาด การเปลี่ยนแปลงของสัญญาณเคมีและฮอร์โมนระหว่างเซลล์ ทำให้ระบบภูมิคุ้มกัน ฮอร์โมน และการอักเสบในร่างกายทำงานผิดปกติ
นอกจากนี้ ในงานวิจัยล่าสุด (หลังปี 2013) ยังได้อัพเดทเพิ่มเติมอีก นักวิทยาศาสตร์ได้เสนอการเพิ่มกลไกสำคัญบางอย่างที่ส่งผลต่อความชราเข้าไปด้วย ซึ่งขยายจาก 9 เป็น 12 กลไก โดยมีการเพิ่ม 3 กลไกใหม่ที่สำคัญดังนี้:
10. Disabled Macroautophagy (ความบกพร่องของระบบออโตฟาจี): ความสามารถของเซลล์ในการกำจัดส่วนประกอบที่เสียหายภายในตัวเองลดลง
11. Chronic Inflammation (Inflammaging) (การอักเสบเรื้อรังระดับต่ำ): ภาวะอักเสบเรื้อรังที่เพิ่มขึ้นตามอายุ
12. Dysbiosis (ความไม่สมดุลของจุลชีพในลำไส้): การเปลี่ยนแปลงของชุมชนแบคทีเรียในลำไส้ที่ส่งผลต่อสุขภาพและภูมิคุ้มกัน
หากคุณสนใจเรื่องการชะลอวัย (Longevity) การเข้าใจกลไกเหล่านี้จะช่วยให้คุณเลือกแนวทางการดูแลสุขภาพได้อย่างตรงจุดครับ
โฆษณา