17 ต.ค. เวลา 12:18 • นิยาย เรื่องสั้น

ตอนที่ 5 ก่อนจะสำเร็จต้องเรียนรู้ก่อนว่าจะสำเร็จไปเพื่ออะไร

ดาวาอ่านนิยาย ต่อ เธอกำลังสนุกกับตัวละครทั้งสอง
ณ ห้องนอนศิลา
จดหมายถึง ทีปาเซีย
วันนี้เราไปหานักแต่งเพลงคนนั้นมาแล้วนะ
ทำไมเค้าหน้าตาเหมือนเธอเลยล่ะ
แถมยังเล่นไวโอลินได้ด้วย
ทำไมทุกอย่างมันดูเหมือนเธอมากๆเลยนะ
เธอรู้ใช่ไหมว่าเขาเป็นใคร
เธอก็เลยเตือนเราไว้ก่อน แต่อีตานั่นอ่ะนะ
พูดอะไรก็ไม่รู้กวนประสาทมาก
ถ้าไม่ติดว่าเธอให้ไปหานะ
เราไม่มีทางกลับไปอีกรอบแน่ๆ
คนบ้าอะไรก็ไม่รู้ เหมือนจะอินดี้ตอนแรกๆนะ
แต่อยู่ดีๆกลายเป็นเด็กสามขวบซะงั้น
รอบหน้าไม่เอาแล้วนะแบบนี้
จาก อาซินล่า
ศิลาพับกระดาษส่งจดหมายผ่านกระจก
ข้ามมิติกลับไปหาทิณแต่หารู้ไม่
คนที่ส่งจดหมายข้ามมิตินั้นคือ ไตเติ้ล
ณ ห้องนอนไตเติ้ล
ไตเติ้ลอ่านจดหมายที่ส่งผ่านกระจก
บนโต๊ะทำงานของเขา เขายิ้มและหัวเราะ
ก่อนจะเขียนตอบกลับไป
จดหมายถึง อาซินล่า
เขาก็เป็นแบบนั้นแหละ อย่าไปถือสาอะไรมากเลย
เขาจะเป็นใครก็ไม่ต้องสนใจเขาหรอกนะ
เป้าหมายของเราคือภารกิจสร้างโลกศิวิไลซ์นะ
เราอยู่มิตินี้เราเองก็ตั้งใจทำงานมากๆเลยนะ
เราเชื่อว่าเขาก็จะตั้งใจช่วยให้เพลงของเธอออกมาได้ดีมากๆเลยนะ เราเป็นกำลังใจให้เธอเสมอเลยนะ
มีปัญหาอะไรก็เขียนจดหมายทิ้งไว้ได้เลย
ถ้าเราว่างเมื่อไร เราจะรีบมาอ่านเลยทันที
จาก ทีปาเซีย
“ทำอย่างนี้ศิลารู้เข้าทีหลังจะไม่โกรธแย่เลยหรอ”
ไตเติ้ลคุยกับพระธิดาจินตนาในร่างโฮโลแกรม
เธอยืนอยู่ข้างๆเขา
“การทำแบบนี้จะทำให้ศิลาดึงพลังของตัวเอง
ออกมาใช้ได้อย่างเต็มศักยภาพ หากเราบอกศิลา
ให้รู้ว่าใครคือทวินเฟรมคู่ภารกิจล่ะก็
การโฟกัสที่เป้าหมายของศิลาจะไม่อยู่ที่การทำเพลง
เป็นแน่ ธรรมชาติของพลังงานผู้หญิงน่ะ
มักจะโหยหาการเติมพลังงานจากผู้ชาย
การโหยหาของคู่ทวินจะทำให้ทั้งคู่ถูกจับแยกออกจากกัน
นั่นทำให้ภารกิจไม่ดำเนินไปถึงไหนสักที
การจะได้กลับมาร่วมทำภารกิจด้วยหรือเจอกัน
แบบไม่ถูกจับแยกอีกนั้น พลังงานฝ่ายหญิงและฝ่ายชายนั้น
จะต้องรู้สึกเติมเต็มอุดมสมบูรณ์ไม่รู้สึกขาดแคลน
สามารถอยู่ได้ด้วยตัวเองโดยไม่พึ่งพลังงานของฝ่ายหญิง
หรือชายเท่านั้น เราไม่ต้องการให้ศิลายึดติดกับกายภาพ 3D
ภารกิจของเราคือสร้างโลกศิวิไลซ์
เธอต้องทำยังไงก็ได้ ไม่ให้ศิลารู้ว่าทีปาเซีย
มีอยู่ในมิตินี้ การทำแบบนี้จะทำให้ศิลารักตัวเอง
และเข้าโฟกัสที่ภารกิจของตัวเอง จนกว่าจะถึงเวลา
ได้กลับมารวมกันอีกครั้ง มิตินั้นเธอเก่งมาก
ที่สามารถดึงพลังของธิดาออกมาได้
ส่วนมิตินี้ เราเชื่อว่าเธอจะสามารถ
ดึงพลังเทพศิลปะของอาซินล่าออกมาได้”
พระธิดาจินตนาพูดกับไตเติ้ลก่อนจะหายตัวไป
ศิลาอ่านจดหมายจากทิณที่ส่งข้ามมิติกลับมา
เธอคิดว่าเธอจะต้องทำให้สำเร็จให้ได้
ณ ห้องทำเพลงไตเติ้ล
“เราว่าตรงท่อนเนี้ยมันยังไม่ได้นะ”
ไตเติ้ลพูดด้วยความจริงจัง
“ไม่ได้ยังไง”
ศิลาสงสัย
“เราว่ามันเหมือนขาดอะไรไปสักอย่าง ไม่รู้สิ”
ไตเติ้ลใช้ความรู้สึกจากจิตวิญญาณ
“อืม…..งั้นก็ยังไม่ต้องคิดก็ได้นะ ผลงานศิลปะ
ใช้ความคิดอย่างเดียวไม่ได้หรอก
มันต้องมาจากจิตวิญญาณ”
ศิลายิ้มเล็กน้อย
“งั้นไปหาอะไรกินกันม้ะ คลายเครียด”
ไตเติ้ลยิ้มเล็กน้อย
“ไปสิ กำลังหิวพอดีเลย”
ศิลายิ้มดีใจที่จะได้กิน
ทั้งสองเดินออกจากห้องทำเพลงของไตเติ้ล
พวกเขาเดินหาร้านอาหารในระแวกนั้น
ศิลายืนมองร้านขายพวงกุญแจเล็กๆ
เป็นรูปปั้นเด็กผู้หญิงเล่นเปียโน
เธอไม่รอช้ารีบเดินเข้าไปทันที
เธอหยิบขึ้นมามองด้วยสายตาเปล่งประกาย
เธอนึกถึงตัวเองในสมัยเด็กๆ
“ชอบหรอ”
ไตเติ้ลถามนิ่งๆ
“ใช่”
ศิลายิ้มเล็กน้อยเธอกำลังหยิบเงินจากกระเป๋าสตางค์
“นี่ครับ”
ไตเติ้ลยื่นเงินให้เจ้าของร้าน
“จ่ายให้เราทำไม เราจ่ายเองได้”
ศิลาสงสัย
“ไม่เป็นไรหรอกแค่นี้เอง”
ไตเติ้ลพูดนิ่งๆ
“งั้นขออีก 2 ชิ้นนะ สองอันนี้ก็อยากได้พอดี เดี๋ยวๆ!!
อันนี้ก็น่าร๊ากกก อุ๊ย ดูอันนี้สิ น่าร๊ากกก
อันนั้นก็สวย เฮ้ย อันนี้ก็ดี”
ศิลาเริ่มคิดอะไรสนุกๆออกเธอเริ่มกวนเขาทันที
“เหมาหมดร้านเลยปะล่ะ”
ไตเติ้ลทำหน้านิ่งๆและยักคิ้วกวนๆ
“ได้หรอ งั้นเหมาหมดเลยนะ”
ศิลายิ้มกวนกลับ
“ได้สิ ซื้อให้ทั้งร้านเลยก็ได้นะ”
ไตเติ้ลยิ้มกวนกลับ
“แต่มีข้อแม้ เธอต้องเป็นคนขายร้านนี้แทนนะ เอาม้ะ”
ไตเติ้ลหัวเราะเบาๆ
“ไม่เอาละ เดี๋ยวรวยเกินไปต้องมานั่งคิดอีก
จะเปิดสาขาที่ไหนบ้างน้าา เดี๋ยวกลายเป็นเศรษฐี
พันล้านขึ้นมาจะทำยังไง ไม่ได้ทำเพลงกันพอดี”
ศิลาแกล้งพูดกวนๆ
“ถือว่าเราไม่เคยรู้จักกันนะ”
ไตเติ้ลส่ายหัวเดินหนีไปทันที
ศิลาเริ่มรู้สึกสนุกกับการแกล้งไตเติ้ล
เธอกำลังคิดอะไรสนุกๆบางอย่างออกแล้ว
“จะไปไหน รอด้วยสิ”
ศิลาวิ่งตาม
“กินก๋วยเตี๋ยวไหมง่ายดี”
ไตเติ้ลยิ้มเล็กน้อย
“ก๋วยเตี๋ยวหรอ อ๋อ…..ดีเลย”
ศิลายิ้มด้วยรอยยิ้มสดใสเปล่งประกาย
เพราะเธอกำลังคิดอะไรสนุกๆออกแล้ว
ทั้งสองกินก๋วยเตี๋ยวร้านประจำของไตเติ้ล
ป้าวางก๋วยเตี๋ยวให้ทั้งสอง
“เธอๆ ผู้ชายคนนั้นอ่ะเค้าเป็นอะไรไม่รู้อ่ะ”
ศิลาชี้ไปทางข้างหลังของไตเติ้ล
เขาหันไปมองตามเธอโดยที่ไม่รู้ว่า
ศิลาแอบตักพริกพูนๆใส่ไป 2 ช้อน
เธอรีบคนให้เข้ากันเพื่อไม่ให้เขารู้
ไตเติ้ลไม่รู้ว่าศิลาแอบตักพริกใส่ไปแล้ว 2 ช้อน
เขาตักใส่เพิ่มอีก 1 ช้อน ศิลาแอบยิ้ม
เธอทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอเป็นอะไรไม่รู้
แต่รู้สึกสนุกมากที่ได้แกล้งเขา
ไตเติ้ลกินก๋วยเตี๋ยวเข้าไป เขารู้สึกว่ามันเผ็ดกว่าปกติ
เขาจึงลองชิมดูอีกครั้ง เขากำลังคิดว่าทำไมมันถึงเผ็ดกว่าปกติ
ศิลาแอบมองแบบเนียนๆ
เธอกินเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ป้าใส่พริกให้ผมรึเปล่าครับ”
ไตเติ้ลถามป้าขายก๋วยเตี๋ยว
“ไม่นะลูก มันเผ็ดเกินหรอลูก”
ป้าทำหน้างงๆ
ศิลาทำเป็นกินอย่างไม่สนใจอะไร
ไตเติ้ลมองหน้าศิลาเขาสงสัยเธอ
แต่ศิลากินเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“อิ่มแล้วอ่ะ วันนี้มีธุระด่วนต้องรีบไป
โทษทีนะพอดีว่าเพื่อนทักมาต้องไปบริษัทน่ะ
บาย เจอกันใหม่วันหลังนะ”
ศิลาก่อเรื่องเสร็จเธอรีบหนีไปทันที
ไตเติ้ลคิดว่าต้องเป็นเธอแน่ๆที่แกล้งเขา
ณ AT ROSE ENT.
“ศิลาาาาาา เป็นยังไงบ้าง
เราไปเยี่ยมเธอบ่อยมากเลยนะ
หลับไปเป็นเดือนเลยอ่ะ อดดูเธอร้องเพลงเลย”
ช่อฟ้าพูดกับเพื่อนของเธอ
“ไม่เป็นไรหรอกหน่า ค่อยขึ้นงานหลังก็ได้”
ศิลายิ้ม
“เดี๋ยวเราไปซ้อมก่อนนะ แล้วเจอกัน”
ศิลาโบกมือบ๊ายบาย
ศิลาเข้าร่วมฝึกซ้อมกับเพื่อนๆศิลปิน
ตามตารางที่บริษัทจัดเตรียมไว้ให้
หลังจากหมดตารางซ้อมเธอยังไม่กลับบ้าน
เธอเข้าไปในห้องซ้อมเปียโนเพื่อแต่งเพลงนั้น
เธอเล่นเพลงนี้ด้วยความสนุกสนาน
เธอรู้สึกว่าเพลงนี้เป็นเพลงที่เธอเล่นแล้วมีความสุขมากๆ
ณ ห้องนอนศิลาล่า
จดหมายถึง ทีปาเซีย
ทิณตอนนี้เราแต่งเพลงไปได้เกินครึ่งแล้วนะ
ขอบคุณมากเลยนะที่แนะนำทุกอย่างให้
เราอยากเจอเธอบ้างจัง เราจะทำให้สำเร็จนะ
เราหวังว่าเธออยู่ที่นั่นแล้วเธอจะมีแต่ความสุขนะ
เราจะไปเจอเธอที่โลกศิวิไลซ์ให้ได้เลยนะ
จาก อาซินล่า
เธอเขียนจดหมายวางทิ้งไว้ที่โต๊ะก่อนจะไปอาบน้ำ
จดหมายถูกดูดข้ามมิติกลับไป
ณ ห้องนอนไตเติ้ล
“ระหว่างทิณเจ้าชายสุภาพบุรุษ น่ารักอ่อนหวาน
กับไตเติ้ลอย่างเราตรงข้ามกับทิณมากขนาดนี้
เราเข้าใจแล้วล่ะทำไมพระธิดาถึงไม่ให้เธอรู้”
ไตเติ้ลพูดกับจดหมายที่ศิลาส่งมา
จดหมายถึง อาซินล่า
จริงหรอ ทำเพลงเสร็จสมบูรณ์แล้วอย่าลืม
ส่งมาให้เราฟังด้วยนะ เราคิดถึงเธอเหมือนกันนะ
อยู่ที่นี่เรามีความสุขมากๆเลย
เธอเองน่ะก็ต้องรักตัวเอง และมีความสุขให้มากๆนะ
เรารอเจอเธอที่โลกศิวิไลซ์นะ เราจะทำภารกิจของเรา
ให้เต็มที่ที่สุดเท่าที่เราจะทำได้เลยนะ
เรารักและคิดถึงเธอเสมอ
จาก ทีปาเซีย
“เธออย่ายึดติดกับตัวตนของทิณเลย
ด้อยค่าตัวเองเปล่าๆน่ะ มิตินี้คาแรคเตอร์ของเธอ
คือทีปาเซีย เธอก็ต้องภูมิใจในคาแรคเตอร์ของเธอสิ
ไม่อย่างนั้นเราจะเกิดมาสร้างสรรค์
และมีประสบการณ์ทำไมล่ะ เธอต้องภูมิใจ
ในทุกบทบาทของเธอสิ ไม่มีตัวตนไหนจะดีที่สุดหรอกนะ
เพราะทุกตัวตนล้วนมีเอกลักษณ์ตัวเฉพาะของตัวเอง
แม้แต่ตัวร้ายน่ะพวกเขายังเป็นที่น่าจดจำในจักรวาลเลย
เราอยากให้เธอภูมิใจในทุกตัวตนของตัวเองนะ
หากเราตัดสินตัวเอง แล้วเราจะกล้าสร้างสรรค์ได้ยังไงกัน”
พระธิดาพูดอยู่ข้างๆเขา
“จริงด้วยสินะ ขนาดตัวตนนั้นเป็นเราเองแท้ๆ
เรายังรู้สึกน้อยใจตัวเองได้เลยเนอะ”
ไตเติ้ลหัวเราะเล็กน้อย
“จักรวาลถึงได้มีโลกคู่ขนานไว้ให้เราเลือก
ที่จะลงเล่นในเส้นเวลาต่างๆไงล่ะ
เพื่อให้เราได้เข้าใจทุกตัวตนและทุกบทบาทที่ได้รับ
แม้แต่เราเอง เรายังมีโลกคู่ขนานที่เราเป็นตัวร้ายเลยนะ
แค่เราภูมิใจในทุกตัวตนของเราและไม่ตัดสินตัวเอง
เพราะทุกคนล้วนมีทุกตัวตนอยู่ในโลกคู่ขนานอื่นๆอยู่แล้ว
อยู่ที่ว่าเราจะเลือกตัวตนไหนมาเล่น
ในเส้นเวลาหลักเท่านั้นเอง”
พระธิดาพูดจบก็หายตัวไป
ศิลามองกระจกที่จดหมายส่งมาข้ามมิติอยู่บ่อยๆ
เธอกำลังคิดว่า ถ้าจดหมายส่งข้ามมิติได้
แล้วเธอล่ะ ข้ามไปได้ไหมนะ ลองดูเล่นๆดีกว่า
ศิลา ยื่นมือไปแตะกระจกเธอพูดในใจว่า
“กระจกจ๋าพาเราข้ามมิติไปหาเจ้าชายเทวทิณณ์หน่อยสิ”
แสงสีขาวผสมสีทองส่องออกมาจากกระจก
ดูดศิลาเข้าไปข้ามมิติไปยังห้องนอนของ ไตเติ้ล
ศิลาเดินดูผลงานศิลปะ เธอยิ้มดีใจด้วยความรัก
แต่เธอหันไปมองกรอบรูปข้างหัวเตียง
เธอตกใจและยืนอึ้งกับรูปไตเติ้ลใส่กรอบไว้
บนหัวเตียงนอน ศิลาก้มมองใต้เตียงเธอเห็น
กล่องกระดาษจดหมายของเธอทั้งหมด
เธอนิ่งไปชั่วขณะ แต่เธอได้สติกลับมาอย่างรวดเร็ว
“ทิณคือไตเติ้ลอย่างนั้นหรอ
เรื่องทั้งหมดเธอหลอกเราอย่างนั้นหรอ
เธอทำแบบนี้ทำไม เธอหลอกเราทำไม”
ศิลารู้สึกเสียใจแต่เธอนึกบางอย่างขึ้นได้
“ถ้าเราโกรธตอนนี้ เราอาจจะไม่ได้รู้บางอย่างก็ได้
แต่ถ้าเราแกล้งทำเป็นไม่รู้เราอาจจะได้รู้มากกว่านี้ คริคริ”
ศิลาคิดอะไรบางอย่างออกแต่เธอได้ยินเสียง
คนเดินเข้ามาในห้องนี้ เธอทิ้งจดหมายไว้บนโต๊ะ
และรีบหลบเข้าไปนอนใต้เตียงอย่างรวดเร็ว
ไตเติ้ลเดินเข้าห้องมาด้วยความเหนื่อยล้า
เขามุ่งเดินมาที่โต๊ะทำงานของเขา
เขาเปิดดูจดหมายด้วยความดีใจ
“คนแต่งเพลงเก่งก็งี้แหละ”
ไตเติ้ลพูดขำๆกับจดหมายของเขา
“แหวะ”
ศิลานอนอยู่ใต้เตียงเธอได้ยินที่เขาพูด
ไตเติ้ลได้ยินเสียงศิลาแว่วๆ แต่เขาไม่ได้เอะใจอะไร
“มิตินี้เธอทำหน้าที่ได้ดีมากๆ เราขอชื่นชมเธอ
ไม่ว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นเราขอให้เธอเชื่อเรานะ”
พระธิดาจินตนาในร่างโฮโลแกรมกำลังคุยกับไตเติ้ล
ซึ่งเธอรู้ว่าศิลาอยู่ในห้องนอนแห่งนี้ด้วย
ศิลาตกใจมาก ไตเติ้ลคุยกับพระธิดาจินตนา
ได้อย่างนั้นหรอ งั้นก็หมายความว่า
พระธิดากับไตเติ้ลรวมหัวกันหลอกเราอย่างนั้นหรอ
แต่เอ๊ะ!! พระธิดาก็คือเราในมิติสูงนี่
ทำไมถึงทำกับเราแบบนี้นะ
ไตเติ้ลยังไม่รู้ว่าศิลารู้เรื่องทุกอย่างหมดแล้ว
เขารีบอาบน้ำเข้านอนอย่างสบายใจ
ศิลารอจังหวะให้ไตเติ้ลหลับสนิท
เธอรีบเดินมาที่โต๊ะทำงานทันที
เธอกำลังใช้ความคิดว่าเธอจะกลับยังไงดี
เธอปิ๊ง!!ไอเดียบางอย่างขึ้น
“กระจกจ๋าพาเรากลับที่ห้องนอนของเราหน่อยสิ
เราอยากกลับห้องนอนตัวเองแล้วอ่ะ นะนะ
ส่องแสงออกมาหน่อยนะๆๆ”
ศิลาพูดในใจเธออ้อนวอนกับกระจกตั้งโต๊ะใบเล็กๆใบนั้น
แสงสีขาวจากกระจกส่องสว่างออกมา
ท่ามกลางความมืดของห้องนอนไตเติ้ล
“เฮ้ย เรียกได้จริงๆด้วย เดะมาใหม่วันหลังนะ คริคริ”
ศิลายื่นมือแตะที่กระจกแสงสีขาวดูดเธอข้ามมิติ
กลับมาในห้องนอนของเธอดั่งเดิม
ศิลายืนยิ้มหัวเราะอยู่คนเดียวที่หน้ากระจก
“หลอกเราว่าทวินไม่มีในมิตินี้อย่างนั้นหรอ
แต่ขอโทษนะจับได้แล้ว อิอิ”
ศิลายืนขำอยู่คนเดียว
“เราเข้าใจเธอนะพระธิดาจินตนา ว่าทำไมถึงทำแบบนี้
เราผ่านจุดนั้นมาแล้วล่ะ ไม่ได้โฟกัสที่เป้าหมายจริงๆด้วย
จนทุกอย่างพังและเข้าเส้นทางมืดไปเลยล่ะ
แต่ตอนนี้กลับมาได้แล้ว เราเข้าใจเธอนะพระธิดาจินตนา
ตอนนี้ เราจะไม่ให้มันเกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นอีก
กว่าจะดึงสติกลับมาได้ เราเข้าใจเจตนา
ของพระธิดาจินตนามากๆสุดๆเลยล่ะ”
ดาวากำลังคิดในใจกับตัวละครแต่ละตัว
“เราจะเขียนถึงเธอและบอกเธอว่า
เมื่อไรจะพูดกันตรงๆสักที ทำไมเธอ
ชอบหนีปัญหาอยู่เรื่อย เราไม่ชอบอะไรที่มันค้างคา
ไม่ชัดเจน เมื่อไรจะพูดกันตรงๆ
เมื่อไรจะเลิกทำตัวเป็นเด็กแบบนี้สักที
มีอะไรทำไมไม่มาพูดคุยกันตรงๆสักที”
เทียน คนที่ดาวากล่าวถึงเขาบ่อยๆ
แอบเข้าไปมิติคู่ขนานเพื่อเขียนจดหมาย
ส่งไปในความทรงจำของเธอ เมื่อดาวาตื่นขึ้น
จากการนอนหลับ เธอจะรู้สึกถึงความรู้สึก
อะไรบางอย่างเสมอ และมันทำให้เกิดเรื่องราวใหม่ๆ
ในการสร้างสรรค์มาได้เสมอไม่มีจุดจบ
จุดจบมักจะเป็นจุดเริ่มต้นใหม่เสมอ
โฆษณา