18 ต.ค. เวลา 13:16 • นิยาย เรื่องสั้น

ตอนที่ 6 เวลาจะช่วยให้เข้าใจหลายๆอย่าง

ดาวานอนหลับพักผ่อนพรุ่งนี้เธอจะเริ่มแต่งเพลงใหม่
ระหว่างที่เธอนอนหลับในสภาวะกึ่งหลับกึ่งตื่น
เธอได้ยินเสียงและความรู้สึกภายในตัวเอง
พูดคุยกับเธอถึงเรื่องการขอให้ได้พบกันอีกครั้ง
เหมือนมีใครบางคนกำลังร้องขอกับพระผู้สร้าง
ขอโอกาสอีกครั้งให้ได้พบกัน เธออยู่ในสภาวะ
กึ่งหลับกึ่งตื่นได้ยินความรู้สึกและเสียงภายในบางอย่าง
เธอมองเห็นภาพถนนสีน้ำตาลและเสาไฟวินเทจ
เธอเห็นภาพพี่เทียนบังเอิญเดินสวนทางกับเธอ
บนถนนสีน้ำตาล เธอไม่รู้ว่าที่นั่นคือที่ไหน
ก่อนจะลืมตาขึ้นพบว่าตัวเอง
ตอนหลับอยู่ในห้องนอนบริษัท
เธอนอนหลับอีกครั้งอยู่ในสภาวะหลับลึก
เธอนอนหลับและใช้มือตัวเองหยิบโทรศัพท์มือถือ
เปิดเพลงเอง เป็นบทเพลงที่พูดถึงการหยุดทะเลาะกัน
กันปรับความเข้าใจกัน นอนหลับพร้อมเปิดเพลงนั้นเอง
ตื่นเช้าขึ้นมาเธอเปิดเพลงนั้นฟัง
ก่อนจะงงว่าเธอเปิดเพลงนี้ตอนไหน
แล้วใครพิมเพลงนี้และมันเปิดเองได้ยังไง
เธอไม่เคยฟังเพลงนี้มาก่อนด้วยซ้ำ
“นิยายตอนไหนนะ รู้สึกคุ้นๆแฮะ”
ดาวากำลังนึกคิดก่อนจะไล่หาตอนสำคัญในนิยาย
นิยาย อาทีเซีย ภารกิจเทพแห่งศิลปะ
ตอน ทุกอย่างมีเวลาของมัน
เสียงเพลงรักจบลง
เขายิ้มด้วยความเข้าใจอะไรบางอย่างแล้ว
“เราว่า เราเข้าใจแล้วล่ะ
ทำไมเส้นทางของทวินถึงยาวนาน
และกว่าจะผ่านบททดสอบแต่ละบทไปได้”
ไตเติ้ลนั่งลงบนโซฟา
“ทำไมล่ะ”
ศิลาถาม
“เธอดูตั้งแต่รูปวาดรูปแรกจนถึงรูปปัจจุบันสิ”
ไตเติ้ลยิ้ม
ศิลามองรูปวาดตั้งแต่รูปแรกจนถึงรูปสุดท้าย
“แต่ละรูปมีเรื่องราวทั้งสุขและทุกข์
กว่าจะผ่านด่านไปได้แต่ละด่าน”
ศิลามองตามเรื่องราวของรูปวาด
“เธอดูรูปนี้สิ ตอนที่เธอตกอยู่ในความมืดในมิติของธิดา เพราะความมืดทำให้เธอสามารถดึงพลังจินตนาการ
ออกมาได้ท่ามกลางความมืด”
ไตเติ้ลเข้าใจทุกอย่างแล้ว
“จริงด้วย ถ้าไม่มีความมืด เราคงไม่สามารถค้นพบ
พลังที่แท้จริงของเราได้ เพราะว่าเราตกอยู่ในความมืด
เราเลยค้นหาแสงสว่าง มันเป็นเส้นทางที่ทำให้เรา
ได้ค้นพบตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง
มันเป็นบทละครที่เราเลือกลงมาเล่นเองที่ดาวโลก”
ศิลาเข้าใจอะไรหลายๆอย่างแล้ว
“เราดีใจ ที่เราสามารถช่วยเธอ
ออกมาจากความมืดได้สำเร็จ”
ไตเติ้ลยิ้มพร้อมมองรูปวาดทุกรูป
“เราเข้าใจแล้วล่ะ จักรวาลต้องการให้เรา
เห็นคุณค่าของความรัก ดูสิ กว่าจะผ่านบททดสอบ
แต่ละด่านมาได้ กว่าจะเข้าใจอะไรหลายๆอย่างได้”
ศิลาชี้ไปที่รูปวาดตั้งแต่รูปแรกจนถึงรูปสุดท้าย
“นั่นสินะ ทุกด่านมีแต่ความผิดพลาด
แต่ก็สามารถผ่านมาได้ จนเข้าใจว่า
ทุกอย่างเป็นแค่บทบาทสมมุติ”
ไตเติ้ลยิ้ม
“หลังจากสร้างโลกศิวิไลซ์เสร็จแล้ว
เราจะได้อยู่ที่นี่ต่อไปไหม ตอนนี้ร่างที่แท้จริงของเรา
อยู่ในโหลแก้วใส ในอาณาจักรกาแล็กซี่”
ศิลาเริ่มเข้าใจ
“ไม่รู้สิ ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลานั้นน่ะ
เราทำหน้าที่ของเราตอนนี้ให้ดีที่สุดก็พอ”
ไตเติ้ลยิ้ม
“เราจะทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดเลยนะ
ให้สมกับตำแหน่งพระธิดาแห่งจักรวาลผู้ถือพิมพ์เขียว
แต่ตำแหน่งสูงขนาดไหน
บททดสอบก็หนักมากตามตำแหน่งจริงๆ
กว่าจะผ่านมาได้ถึงวันนี้”
ศิลานั่งดูรูปวาด
“เราต้องทำสำเร็จ เราเชื่อแบบนั้น”
ไตเติ้ลยิ้ม
“เราก็เชื่อแบบนั้นเหมือนกัน”
ศิลายิ้มสดใส
“อย่าลืมนะศิลา ถึงเวลาแล้วกลับมาด้วย”
พี่ฟ้า(แสงจันทร์)
พยาบาลคนสวยประจำห้องดับจิตคุยกับศิลา
“ไม่ลืมแน่นอน ถึงเวลาหนูจะกลับมา”
ศิลายิ้มพร้อมกลับเดินออกจากโรงพยาบาลไป
ศิลาสดุ้งตื่นขึ้นเธอฝันเห็นพี่ฟ้า
เธอจึงนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
เธอรีบเดินทางไปโรงพยาบาลแสงรวีสุข
เธอมุ่งตรงไปที่แผนกห้องดับจิตที่พี่ฟ้าทำงานอยู่
เธอเคาะประตูหน้าห้องดับจิต
“ก๊อกๆๆๆๆ”
เสียงศิลาเคาะประตู
พี่ฟ้าเปิดประตูห้องออกมา เธอดีใจที่ศิลายืนอยู่ตรงนี้
“เดี๋ยวนี้ดังใหญ่แล้วนะ”
พี่ฟ้ายิ้ม
“แค่บทบาทน่ะ ว่าแต่พี่สบายดีไหม”
ศิลายิ้ม
“สบายดี พี่ทำงานอยู่ที่นี่ คุยกับวิญญาณ
สบายใจกว่าคุยกับคนทั่วไปตั้งเยอะ”
พี่ฟ้ายิ้ม
“ใช่พี่ มีเพื่อนอยู่มิติอื่น
สบายใจกว่ามีเพื่อนอยู่มิตินี้อีกเนอะ”
ศิลายิ้มสดใส
“มาคุยกันในห้องดีกว่า”
พี่ฟ้าเรียกศิลาเข้ามาในห้องดับจิต
ศิลาเดินเข้าไปในห้องดับจิตบรรยากาศเย็นสุดๆ
พี่ฟ้าเห็นร่าง higher self ของศิลาอีกหนึ่งร่าง
เธอมองเห็นร่างโฮโลแกรมของอาทีเซีย(เทพศิลปะ)
เป็นหญิงแกร่งเหมือนผู้ชายผิวขาวผมสีรุ้ง
ดวงตาสีรุ้ง สวมชุดสีรุ้ง ออร่าสีรุ้งเจิดจรัส
“เธอชื่ออะไร”
พี่ฟ้าถามศิลา
“ห้ะ!!!”
ศิลาตกใจ
“เราคือ อาทีเซียเป็นเทพศิลปะเต็มดวงจิตวิญญาณ
ร่างศิลาคือ อาซินล่า เป็นครึ่งหนึ่งของเรา”
เสียงตอบกลับจากจิตวิญญาณภายในของอาทีเซีย
ส่งต่อกลับไปที่พี่ฟ้าเพื่อต้องการบอกอะไรบางอย่าง
“งั้นหรอ”
พี่ฟ้าพูด
“งั้นอะไร”
ศิลาสงสัย
“เธอเคยเห็นผู้หญิงผมสีรุ้งตาสีรุ้งไหม
จะว่าหญิงก็ไม่หญิงจะชายก็ไม่ชาย ชื่อ อาทีเซีย”
พี่ฟ้าถามศิลา
“พี่มองเห็นอาทีเซียหรอ หนูไม่เคยบอกใคร
เรื่องนี้เลยนะ หนูเคยเห็นอาทีเซีย หลังจากนั้น
หนูก็ได้กลับมาทำภารกิจเป็นศิลปินในฐานะศิลาล่า”
ศิลาเข้าใจแล้วว่าเธอมาที่นี่ทำไม
“มีอีกครึ่งดวงจิตวิญญาณอยู่อีกร่างหนึ่ง”
พี่ฟ้าพูด
“ใช่ หนูเจอแล้วล่ะ อาทีเซียต้องการจะบอกอะไรหรอ”
ศิลาถาม
“ไม่รู้สิ ไม่ได้บอกอะไรแค่มายิ้มให้”
พี่ฟ้าส่ายหัวเล็กน้อย
“นอกจากบีอิ้งอื่นๆแล้ว ก็มีพี่นี่แหละ
ที่หนูสามารถคุยเรื่องแบบนี้กับพี่ได้”
ศิลายิ้ม
“ใช่ พี่มองเห็นวิญญาณและนั่งคุยกับวิญญาณ
เป็นเรื่องปกติสำหรับพี่ แต่พวกพยาบาลคนอื่นๆ
บอกว่าพี่บ้า ก็พี่มองเห็นพวกเค้า
เรานั่งคุยกันเหมือนเพื่อน
พี่ไม่เห็นว่ามันจะแปลกตรงไหน”
พี่ฟ้าหัวเราะ
“พลัง third eye (ตาที่สาม) น่ะ
หนูก็มีแต่คนละแบบกับพี่”
ศิลายิ้ม
“ใช่ ของศิลาคือเห็นภาพผ่านดวงตา”
พี่ฟ้ายิ้ม
“ทำไมหนูถึงฝันถึงพี่”
ศิลาถาม
“ฝันถึงพี่หรอ”
พี่ฟ้าสงสัย
“ใช่หนูฝันถึงพี่ หนูเลยมาหาพี่ที่นี่ เพราะอะไรนะ”
ศิลากำลังนึกคิด
“นั่นสิ เพราะอะไรนะ”
พี่ฟ้าคิดตาม
“หรือว่า……สร้างโลกศิวิไลซ์”
ศิลาคิดอะไรบางอย่างออก
“ห้ะ!!!!”
พี่ฟ้างง
“การที่เราสามารถใช้ของขวัญทางจิตวิญญาณ
ที่พระผู้สร้างมอบไว้ให้ได้ ต้องใช่แน่ๆ”
ศิลาพยักหน้าเบาๆ
“อะไรหรอ”
พี่ฟ้าสงสัย
“เดี๋ยวถึงเวลาตื่นรู้ของพี่ พี่จะได้รู้ทุกอย่าง
หนูไปก่อนนะ โชคดีนะพี่
แล้วมาสร้างโลกศิวิไลซ์ด้วยกันนะ”
ศิลายิ้มพร้อมโบกมือบ๊ายบาย
“ว่าไงนะ”
พี่ฟ้ายืนงง
ณ บริษัท AT ROSE ENT.
ศิลาเปิดประตูเข้ามาในบริษัท
“ศิลา เธอรู้จักกับเติ้ลตั้งแต่เมื่อไร
รู้จักได้ยังไง ตอนไหน นานยัง”
ต้าถามรัวๆ
“ไม่บอก!!”
ศิลายิ้มกวนๆเธอรีบเดินไปขึ้นห้องซ้อม
ต้าวิ่งตามขึ้นไปกวนเธอต่อ
“ถ้าไม่บอก ไม่ให้เข้าห้องซ้อมหรอก
จะยืนขวางอยู่ตรงนี้แหละ”
ต้ายักคิ้วกวนๆ
“หวัดดีชมพู่!!! มาทำอะไรที่นี่อ่ะ”
ศิลาแกล้งพูดขึ้นเธอมองไปข้างหลังต้า
แต่ไม่มีใครอยู่ตรงนั้น
“ห้ะ!! ชมพู่”
ต้าหันหลังกลับไปมองแต่กลับไม่พบใครเลย
ศิลารีบหนีเข้าห้องซ้อมและหัวเราะอย่างสนุกสนาน
“ศิลา!!! ว่าแต่รู้เรื่องชมพู่ได้ไง”
ต้ายืนเกาหัวแบบงงๆ
ศิลากำลังซ้อมคอนเสิร์ตรวมกับเพื่อนๆ
ที่กำลังถูกจัดขึ้นเร็วๆนี้ บรรยากาศเต็มไปด้วย
ความสนุกสนาน ทุกคนตั้งใจทำกันอย่างเต็มที่
ณ บริษัท CABIRA ENT.
ศิลปินทุกคนตั้งใจซ้อมคอนเสิร์ตรวมกัน
อย่างสนุกสนาน บรรยากาศเสียงเพลงบรรเลง
พร้อมกับเสียงร้องเพลงรวมกัน
ตื๊ด!!!!! ตื๊ด!!!!!!
“ว่างยัง มาที่ห้องทำเพลงเราหน่อยสิ”
เสียงโทรศัพท์จากไตเติ้ล
“ห้ะ!! ตอนนี้เนี้ยนะ!!”
ศิลาตกใจ
“ใช่ ตอนนี้แหละ”
ไตเติ้ลยิ้มเขามีเซอร์ไพรส์บางอย่าง
“โอเค เดี๋ยวไป”
ศิลารู้สึกงงนิดๆ
ณ ห้องทำเพลงไตเติ้ล
ศิลาเปิดประตูห้องเข้ามา เธอยืนอึ้ง
เพราะห้องทำเพลงถูกตกแต่งด้วยไฟสีทองสวยงาม
มีตัวหนังสือขนาดใหญ่สีทองบนฝาผนังห้องเขียวว่า
L O V E และภาพวาดที่เขาตั้งใจวาดขึ้นตามเรื่องราว
ตั้งแต่มิติของทิณ มาจนถึงมิติของไตเติ้ล
“เซอร์ไพรส์!!!”
ไตเติ้ลยิ้มสดใส
ศิลายืนมองไปรอบๆด้วยความดีใจ
ด้วยรอยยิ้มสดใสเปล่งประกาย
“ขอบคุณน้าา”
ศิลาวิ่งเข้าไปกอดด้วยความดีใจ
“แหวนโรสควอตซ์ สั่งทำพิเศษ มีชิ้นเดียวในโลก”
ไตเติ้ลสวมแหวนที่เขาสั่งทำพิเศษ
ศิลายิ้มดีใจ เธอคิดในใจ
“มีมุมของเจ้าชายเหมือนกันนะเนี้ย”
“มีเพลงจะให้ฟัง”
ไตเติ้ลเดินไปเปิดเพลงใหม่ที่เขาแต่งไว้
ให้เธอเป็นพิเศษ เขาเปิดเพลงพร้อมกับเล่นไวโอลิน
ศิลาคิดในใจ
“วันนี้ดูเป็นเจ้าชายจริงๆนะเนี้ย น่ารักกก”
ศิลายืนเขิน
“โรแมนติกสุดๆไปเลยอ๊าา งุ้ยยย”
ดาวาอ่านแล้วรู้สึกเขินตามตัวละครไปด้วย
ก่อนที่จะคิดได้ว่ายังไม่ได้กินอะไรเลยวันนี้
ดาวาเดินออกไปหาของกินด้านนอกตึก
เธอเดินออกไปอีกทางก่อนจะยืนอึ้งซักพัก
เธอจำถนนสีน้ำตาลนี้ได้ในความฝัน
ก่อนจะเดินเข้าไปตรงนั้นตามจุดในฝันที่เห็น
“มาจริงๆด้วย”
พี่เทียนยืนทักทายอยู่ข้างหลังดาวา
“เสียงนี้มัน…..”
ดาวารู้สึกดีใจสุดๆก่อนจะหันกลับไปมองตามเสียงเรียกนั้น
เขาเปิดเพลงที่เธอได้ยินเมื่อคืนก่อนจะยื่นให้เธอฟัง
“ห้ะ!!!! เป็นไปได้ยังไง“
ดาวามองเพลงนั้น เพลงที่เมื่อคืนเปิดเองทั้งคืน
ก่อนที่เธอจะตื่นขึ้นมาเจอแบบงงๆ
“เมื่อไรจะคุยกันดีๆซักที จะหนีทำไม?”
เทียนยืนทำหน้านิ่งๆ
“อืม…เรื่องมันยาวน่ะ ยืนเล่าตรงนี้คงได้นอนตรงนี้แน่ๆ”
ดาวาตอบนิ่งๆแอบติดตลก
”งั้นเล่ามา เดี๋ยวเอาหมอนมานอนรอ“
พี่เทียนกวนกลับแบบหน้านิ่งๆ
โฆษณา