12 พ.ย. เวลา 00:30 • ข่าวรอบโลก

เรื่องอื้อฉาวของทรัมป์ อดีตเจ้าชายแอนดรูว์ และการค้าประเวณีในประเทศไทย

เรื่องราวเมื่อ 20 ปีที่แล้วของเจฟฟรีย์ เอปสเตน (Jeffrey Epstein) นักการเงินซึ่งกลายเป็นผู้ต้องหาคดีล่วงละเมิดทางเพศและค้ามนุษย์ระดับElite ยังคงตามหลอกหลอนผู้เกี่ยวข้อง
เจฟฟรีย์ เอปสเตน ในเคมบริดจ์ รัฐแมสซาชูเซตส์ ในปี พ.ศ. 2547
ตามเอกสารของศาลระบุว่าในช่วงทศวรรษ 1990 เอปสเตนสามารถสะสมที่ดินและอพาร์ตเมนต์ได้ในหลายประเทศ รวมถึงเกาะส่วนตัวในทะเลแคริบเบียน และยังได้อยู่ใกล้ชิดกับบุคคลร่ำรวยและทรงอิทธิพลที่สุดในโลกอีกด้วย บุคคลเหล่านี้ได้แก่ เจ้าชายแอนดรูว์ อดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
.
ความลับของเอปสเตนถูกเปิดเผยครั้งแรกในปี 2548 เมื่อผู้หญิงคนหนึ่งติดต่อตำรวจปาล์มบีช แจ้งความว่าลูกเลี้ยงวัย 14 ปีของเธอถูกหญิงสาวที่อายุมากกว่าพาตัวไปที่คฤหาสน์ของเอปสเตน เด็กหญิงคนดังกล่าวได้รับเงิน 300 ดอลลาร์เพื่อเปลื้องผ้าและนวดให้เอปสเตน
.
คำให้การของคณะลูกขุนใหญ่ที่ถูกเปิดเผยในหลายปีต่อมา ระบุว่าเอปสเตนซึ่งขณะนั้นอายุ 40 กว่าปี ได้ข่มขืนเด็กสาววัยรุ่นอายุเพียง 14 ปี ที่คฤหาสน์ของเขาในปาล์มบีช เด็กสาวหลายคนให้การว่า เอปสเตนได้จ่ายเงินค่านวดหรือบริการทางเพศแก่เด็กสาวเหล่านี้ และยังได้เสนอเงินให้เพื่อหาเด็กสาวมาเพิ่มเติมให้เขาด้วย
เจฟฟรีย์ เอปสเตน ในศาลที่เวสต์ปาล์มบีช รัฐฟลอริดา เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2551ภาพถ่าย: Uma Sanghvi/AP
เอปสเตนได้ทำข้อตกลงกับอัยการรัฐบาลกลางเซาท์ฟลอริดาในปี 2551 เขารับสารภาพผิดในข้อหากระทำความผิดทางเพศ จัดหาบุคคลอายุต่ำกว่า 18 ปีเพื่อค้าประเวณีและชักชวนให้ค้าประเวณีแทน ซึ่งเป็นข้อหากระทำผิดของรัฐ เพื่อหลีกเลี่ยงข้อกล่าวหาที่รุนแรงกว่าของรัฐบาลกลาง ทำให้เอปสไตน์เพียงแค่ถูกตัดสินจำคุกหนึ่งปีครึ่งในเรือนจำปาล์มบีชเคาน์ตี และถูกกักบริเวณในบ้านเป็นเวลาหนึ่งปี
.
ในปี 2561 มีผู้หญิงอีกหลายสิบคนกล่าวหาว่าเอปสเตนล่วงละเมิดทางเพศพวกเธอ ทำให้กระทรวงยุติธรรมเปิดการสอบสวนเอปสเตนอีกครั้ง และเขาถูกตั้งข้อหาในนิวยอร์กในคดีค้ามนุษย์เพื่อการค้าประเวณีเด็กหญิงอายุต่ำกว่าเกณฑ์หลายสิบคน ซึ่งแน่นอนเขาให้การปฏิเสธข้อกล่าวหาของรัฐบาลกลาง อย่างไรก็ตาม ยังมีเหยื่อบางรายฟ้องร้องคดีแพ่งต่อเขา ด้วย
.
เหตุการณ์ในวันเสาร์ที่ 10 สิงหาคม 2562 เวลาประมาณ 6.30 น. เจ้าหน้าที่เรือนจำพบผู้ต้องขังชื่อ เจฟฟรีย์ เอ็ดเวิร์ด เอปสเตน วัย 66 ปี ผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์เพื่อการค้าประเวณีเด็กหญิง หมดสติอยู่ในห้องขังที่ศูนย์ราชทัณฑ์เมโทรโพลิแทนในนิวยอร์ก และต่อมาทางโรงพยาบาลก็ประกาศว่าเสียชีวิต โดยศาลตัดสินว่าเป็นการฆ่าตัวตาย
เจ้าชายแอนดรูว์และเจฟฟรีย์ เอปสเตน ถ่ายภาพร่วมกันในเซ็นทรัลพาร์ค เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2010 ถ่ายภาพโดยเจ ดอนเนลลี
การเสียชีวิตของเอปสเตนเกิดขึ้นหนึ่งวันหลังจากมีการเปิดข้อมูลใหม่ เกี่ยวกับรายชื่อลับของผู้ร่วมกระทำความผิดในการล่วงละเมิดหญิงสาวที่บ้านของเขาในปาล์มบีช รัฐนิวยอร์ก และหมู่เกาะเวอร์จิน
.
รายงานการชันสูตรพลิกศพทำให้หลายคนสงสัยเกี่ยวกับการเสียชีวิตของเอปสเตน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ระบุว่ากระดูกที่คอหัก ซึ่งในทางทฤษฎีอาจเป็นผลมาจากการแขวนคอหรือการบีบคอ แล้วทฤษฎีสมคบคิดเกี่ยวกับแผนการฆาตกรรมก็เริ่มเป็นที่พูดถึง ทฤษฎีที่ว่าเอปสเตนเก็บรายชื่อลูกค้าไว้เพื่อแบล็กเมล์กลายเป็นเรื่องที่น่าเชื่อถือ
.
กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ได้ประกาศเมื่อเดือนกรกฎาคม 2568 ว่าไม่มีหลักฐานใดๆ ที่บ่งชี้ว่าเจฟฟรีย์ เอปสเตน มี "รายชื่อลูกค้า" หรือถูกฆาตกรรม นอกจากนี้ กรมตำรวจยังได้เผยแพร่ภาพจากกล้องวงจรปิดในเรือนจำนาน 10 ชั่วโมงซึ่งแสดงให้เห็นว่าไม่มีใครเข้าไปในห้องขังของเอปสเตนในวันที่เขาฆ่าตัวตาย
.
แม้ว่าเจฟฟรีย์ เอปสเตน จะเสียชีวิตไปแล้ว แต่เรื่องราวอื้อฉาวของเขายังตามหลอกหลอนผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะภาพถ่ายของเอปสเตน แม็กซ์เวลล์ และเจ้าชายแอนดรูว์ ปรากฏตัวที่คลับมาร์-อา-ลาโกของโดนัลด์ ทรัมป์ ในฟลอริดา เมื่อปี 2543
.
ข้อมูลที่เปิดเผยในปี 2542 แสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าชายแอนดรูว์กับเอปสเตน ซึ่งเป็นนายธนาคารเพื่อการลงทุนและนักการเงิน ได้รู้จักกันผ่านทางกิสเลน แม็กซ์เวลล์ (Ghislaine Maxwell) เพื่อนสนิท ซึ่งเป็นบุตรสาวของโรเบิร์ต แม็กซ์เวลล์ (Robert Maxwell) เจ้าพ่อสื่อผู้ล่วงลับ
เวอร์จิเนีย กิฟเฟร จัดงานแถลงข่าวนอกศาลนิวยอร์กในปี 2019ภาพ: Bebeto Matthews/AP
ประเด็นร้อนของราชวงศ์อังกฤษเกิดขึ้นในปี 2544 เมื่อเวอร์จิเนีย กิฟเฟร (Virginia Giuffre) กล่าวหาว่าเจ้าชายแอนดรูว์ล่วงละเมิดทางเพศเธอที่บ้านของแม็กซ์เวลล์ในย่านเบลเกรเวีย ลอนดอน และอีกสองครั้งที่บ้านของเอปสเตนในนิวยอร์ก และใน "งานเลี้ยงที่เกี่ยวข้องกับการมีเพศสัมพันธ์" กับเอปสเตนและ "เด็กสาวอีกแปดคน" บนเกาะส่วนตัวของเขาในทะเลแคริบเบียนขณะเธออายุ 17 ปี
.
ในเอกสารทางกฎหมายที่ยื่นต่อศาลนิวยอร์ก เจ้าชายแอนดรูว์ปฏิเสธการเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดกับเอปสเตน และได้รับการถอนออกจากคดีในศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ เมื่อปี 2558 รวมทั้งเอกสารลับที่เจ้าชายแอนดรูว์ดำรงตำแหน่งทูตการค้าก็ยังคงถูกปิดผนึกเป็นความลับ
.
26 เมษายน 2568 เวอร์จิเนีย กิฟเฟร เสียชีวิตด้วยวัย 41 ปี โดยครอบครัวของเธอออกแถลงการณ์ยืนยันว่าเธอได้ฆ่าตัวตายที่ฟาร์มของเธอในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย
หลังจากกิฟเฟร เสียชีวิต เรื่องราวของเจ้าชายแอนดรูว์ก็เป็นไวรัลอีกครั้งเมื่อหนังสือชีวประวัติของเจ้าชายแอนดรูว์ ชื่อว่า Entitled: The Rise and Fall of the House of York โดย แอนดรูว์ โลว์นี่ (Andrew Lownie) ได้รับการตีพิมพ์ ในบทความอ้างว่าเจ้าชายแอนดรูว์และซาราห์ เฟอร์กูสัน อดีตภรรยา รู้จักกับเอปสเตนมานานก่อนปี 2542 ซึ่งเฟอร์กูสันเองก็เคยยอมรับว่ารับเงินจากเอปสเตนเพื่อชำระหนี้
.
เรื่องอื้อฉาวของเจ้าชายแอนดรูว์กลายเป็นกระแสวิจารณ์ไปทั่วโลก เมื่อข้อกล่าวหาของโลว์นี่ปรากฏในการสัมภาษณ์กับพอดแคสต์ “ Deep Dive: The Fall of the House of York ” ของเดลีเมล์ ซึ่งเป็นสื่อในสหราชอาณาจักร
อดีตเจ้าชายแอนดรูว์แห่งสหราชอาณาจักรในปี พ.ศ. 2549 ขณะเสด็จเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ( ที่มา: Mercury News และ New York Post )
โลว์นี่ระบุว่า เจ้าชายแอนดรูว์เคยใช้วาระการเป็นตัวแทนของประเทศเสด็จพระราชดำเนินเยือนเพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 60 ปีแห่งการครองราชย์ของพระมหากษัตริย์ไทย (ร.9) ในปี 2549 และซื้อบริการทางเพศจากโสเภณี 40 คน ภายในระยะเวลาสี่วันที่พำนักในประเทศไทย
.
พร้อมทั้งประเด็นใหม่ที่ถูกขุดคุ้ยย้อนไปในปี 2544-2554 ก็เกิดขึ้น โลว์นี่กล่าวว่าสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 น่าจะทรงทราบเกี่ยวกับกิจกรรมยามว่างของพระโอรสที่พระองค์โปรดปรานในระหว่างเสด็จเยือนต่างประเทศ รวมถึงการมีเพศสัมพันธ์ในประเทศไทยด้วย
.
การเดินทางมายังประเทศไทยครั้งนั้น เจ้าชายแอนดรูว์ได้ประทับอยู่ในโรงแรมที่หรูหราที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย และเป็นโรงแรมที่เก่าแก่ที่สุดในใจกลางกรุงเทพฯ
.
รายงานระบุว่าพระองค์ได้เข้าพักในห้องสวีทส่วนตัวและใช้พื้นที่ทั้งชั้นของโรงแรมด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย ซึ่งก่อนหน้านี้ในเดือนมกราคม 2544 พระองค์ทรงใช้เวลาสองสัปดาห์พักผ่อนริมชายหาดกับกิสเลน แม็กซ์เวลล์ (ปัจจุบัน แม็กซ์เวลล์ถูกจำคุกถูกตัดสินจำคุก 20 ปีในสหรัฐอเมริกาข้อหาค้ามนุษย์ จัดหาหญิงสาว และล่อลวงเด็กหญิงอายุเพียง 14 ปี ให้กับเอปสเตน เพื่อล่วงละเมิดทางเพศ เมื่อเดือนธันวาคม 2564)
เวอร์จิเนีย โรเบิร์ตส์ กิฟเฟร ผู้กล่าวหาเจฟฟรีย์ เอปสเตน เปิดเผยเรื่องราวการถูกทำร้ายหลายปีในบันทึกความทรงจำหลังเสียชีวิต ภาพโดย Rasid Necati Aslim/Anadolu via Getty Images
นอกจากนี้ บันทึกความทรงจำหลังมรณกรรมของเวอร์จิเนีย กิฟเฟร ยังจุดประกายการตรวจสอบอีกครั้ง บันทึกของเธอได้เปิดเผยเรื่องราวที่ต้องเดินทางไปทั่วโลกกับเอปสเตนเป็นเวลาหลายปี เธอถูกบังคับให้มีเพศสัมพันธ์กับผู้ร่วมงานที่มีอิทธิพลบางคนของเขา รวมถึงนักการเมืองและเชื้อพระวงศ์ที่มีชื่อเสียง
.
กิฟเฟร เป็นหนึ่งในเหยื่อที่กล้าเปิดเผยและออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับตนเองและเหยื่อรายอื่น ๆ อีกจำนวนมากที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศและการค้ามนุษย์
ภาพถ่ายที่ไม่มีวันที่ซึ่งถ่ายในสถานที่ที่ไม่เปิดเผย แสดงให้เห็นเจ้าชายแอนดรูว์ เวอร์จิเนีย กิฟเฟร และกิสเลน แม็กซ์เวลล์ภาพ: AFP/Getty Images
ในปี 2564 กิฟเฟร ได้ยื่นฟ้องแพ่งเจ้าชายแอนดรูว์ต่อศาลรัฐบาลกลางในนิวยอร์ก โดยกล่าวหาว่าเขาล่วงละเมิดทางเพศเธอถึงสามครั้งขณะที่เธออายุ 17 ปี และกล่าวหาว่าเอปสเตนและแม็กซ์เวลล์ บังคับให้เธอมีเพศสัมพันธ์กับเจ้าชายแอนดรูว์
.
เธอให้การว่า เจ้าชายแอนดรูว์มี "เหงื่อออกท่วมตัวฉัน" ในคืนที่พวกเขามีเพศสัมพันธ์กัน ที่ไนท์คลับแห่งหนึ่งในลอนดอน แต่เจ้าชายแอนดรูว์อ้างว่าพระองค์เป็นโรคประหลาด “ไม่มีเหงื่อ” รวมทั้งในคืนที่อ้างพระองค์ทรงอยู่บ้านกับลูกๆ ตลอดทั้งคืน
.
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเจ้าชายแอนดรูว์จะปฏิเสธข้อกล่าวหาเหล่านี้มาโดยตลอด แต่ครั้งนี้พระองค์ได้ยอมความในคดีแพ่งกับกิฟเฟรในปี 2565 ยอมจ่ายเงินหลายล้านปอนด์ โดยทางพระราชวังอ้างถึงข้อตกลงนี้ว่าเป็นความพยายามที่จะยุติเรื่องราว
เจ้าชายแอนดรูว์ ดยุกแห่งยอร์ก และพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 เสด็จฯ ไปทรงร่วมพระราชพิธีพระศพของดัชเชสแห่งเคนต์ ณ มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ เมื่อวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2568 ณ กรุงลอนดอน ภาพ: Getty Images
ประชาชนจำนวนมากโกรธแค้น และตั้งคำถามถึงพฤติกรรมของเจ้าชายแอนดรูว์ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้แทนพิเศษด้านการค้าระหว่างประเทศและการลงทุนของสหราชอาณาจักรระหว่างปี 2544 - 2554 พระองค์ทรงใช้เงินภาษีของประชาชนในการเดินทางเพื่อ “หาเงินเข้ากระเป๋า” เล่นกอล์ฟ และ “ตามจีบผู้หญิง”
.
ในเดือนตุลาคม 2568 ได้มีอีเมลรั่วไหลออกมาใหม่ เผยให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าชายแอนดรูว์ กับเอปสเตน และกิฟเฟร เป็นผลให้เจ้าชายแอนดรูว์ออกมาประกาศสละตำแหน่งและพระเกียรติยศของพระองค์ในฐานะอัศวินแกรนด์ครอสแห่งราชบัลลังก์วิกตอเรีย อัศวินสหายแห่งราชบัลลังก์การ์เตอร์ และตำแหน่งดยุกแห่งยอร์ก เหลือเพียงพระอิสริยยศเจ้าชายเท่านั้น
แถลงการณ์ของพระราชวังฉบับเต็ม
เรื่องนี้ถูกเปิดเผยก่อนที่พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 จะดำเนินการขั้นเด็ดขาดต่อพระอนุชา 30 ตุลาคม 2568 พระราชวังบักกิงแฮมออกแถลงการณ์ว่า ได้ถอดพระอิสริยยศเจ้าชายแอนดรูว์ออกจากตำแหน่งสุดท้ายที่เหลืออยู่ โดยให้ใช้นามว่า “แอนดรูว์ เมานต์แบตเทน วินด์เซอร์” (Andrew Mountbatten Windsor) และพระองค์ยังทรงมีพระบรมราชโองการให้แอนดรูว์ออกจากราชบัลลังก์รอยัลลอดจ์ ซึ่งเป็นที่ประทับของเขาในวินด์เซอร์มานานกว่า 20 ปี
ซาราห์ เฟอร์กูสัน อดีตดัชเชสแห่งยอร์ก ก็สูญเสียตำแหน่งเช่นกัน และถูกบังคับให้ย้ายออกจากที่พำนักอันยาวนานของทั้งคู่ที่รอยัลลอดจ์ ภาพ: Getty Images
ซาราห์ เฟอร์กูสัน อดีตภรรยา ซึ่งเป็นอดีตดัชเชสแห่งยอร์ก ก็สูญเสียบรรดาศักดิ์เช่นกัน ส่วนพระราชธิดาทั้งสองพระองค์ คือ เจ้าหญิงเบียทริซและเจ้าหญิงเออเฌนี ยังคงดำรงตำแหน่งราชวงศ์ต่อไป
.
กลับมาที่กระทรวงยุติธรรมและสำนักงานสอบสวนกลางแห่งสหรัฐอเมริกา (FBI) ได้ตัดสินใจว่าจะไม่มีการเปิดเผยข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับเหยื่อเพิ่มเติมอีก เพราะเอปสเตนได้ทำร้ายเหยื่อมากกว่าหนึ่งพันคน และแต่ละคนได้รับบาดแผลทางจิตใจที่แตกต่างกัน การเปิดเผยข้อมูลที่กระทบต่อเหยื่อเหล่านั้น เท่ากับเป็นการซ้ำเติมเหยื่อ
.
รายงานนี้สร้างความไม่พอใจในสังคมทันที โดยเฉพาะทางออนไลน์ รวมทั้งอีลอน มัสก์ อดีตพันธมิตรของทรัมป์ ซึ่งเคยโพสต์วิดีโอทรัมป์ในงานปาร์ตี้กับเอปสเตน
คนเราจะศรัทธาในตัวทรัมป์ได้อย่างไร หากเขาไม่ยอมเปิดเผยไฟล์ของเอปสเตน?
อีลอน มัสก์ ตั้งคำถามใน X เมื่อกรกฎาคม 2568
ประเด็นเอปสเตนกลายเป็นบททดสอบเชิงสัญลักษณ์สำหรับฐานเสียงฝ่ายอนุรักษ์นิยมบางส่วนของสหรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่เชื่อในสัญญาของทรัมป์ ว่าจะรักษาความโปร่งใสอย่างเต็มที่
แพม บอนดี กล่าวสุนทรพจน์หลังจากเข้ารับตำแหน่งอัยการสูงสุดของสหรัฐอเมริกา ณ ห้องทำงานรูปไข่ของทำเนียบขาวในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568
มีเสียงเรียกร้องหลายครั้งให้ปลดอัยการสูงสุดแพม บอนดี (Pam Bondi) ซึ่งได้รับแต่งตั้งโดยทรัมป์ เกี่ยวกับการปกปิด "รายชื่อลูกค้า" ของเอปสเตนที่เป็นข่าวลือมานาน แฟ้มลับนี้ได้จุดชนวนให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากสมาชิก Make America Great Again และความแตกแยกที่ขยายวงกว้างขึ้นภายในขบวนการ MAGA
เมื่อโดนัลด์ ทรัมป์เยือนสหราชอาณาจักรในเดือนกันยายน เขาได้รับการต้อนรับด้วยภาพที่แสดงให้เห็นเขาและเจฟฟรีย์ เอปสเตน ผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ทางเพศด้วยกัน
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคเดโมแครตกดดันกระทรวงยุติธรรมให้เปิดเผยรายละเอียดการสืบสวนผู้สมรู้ร่วมคิดของเอปสเตน และประณามความล้มเหลวของกระทรวงยุติธรรมและFBI ในการสืบสวนคดีว่าเป็นการทรยศต่อผู้รอดชีวิตกว่า 1,000 คนจากเครือข่ายค้ามนุษย์ทางเพศระหว่างประเทศมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์
.
ส.ส. โทมัส แมสซี สมาชิกพรรครีพับลิกันจากรัฐเคนตักกี้ เรียกร้องให้สภาลงมติเพื่อเปิดเผยเอกสารของเอปสเตน ซึ่งจะชี้ให้เห็นถึงผู้ต้องสงสัยร่วมสมคบคิด 20 ราย
.
โดย ส.ส.แมสซี ระบุว่าบุคคลที่มีชื่อเสียงได้แก่ โปรดิวเซอร์ฮอลลีวูดที่มีทรัพย์สินหลายร้อยล้านดอลลาร์ เจ้าชายหนึ่งพระองค์ บุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการเพลงคนหนึ่ง นายธนาคารผู้มีชื่อเสียงคนหนึ่ง เจ้าหน้าที่รัฐที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง อดีตนักการเมืองที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง เจ้าของบริษัทผลิตรถยนต์ในอิตาลีคนหนึ่ง ร็อกสตาร์คนหนึ่ง นักมายากลคนหนึ่ง และมหาเศรษฐีอย่างน้อย 6 ราย รวมถึงมหาเศรษฐีจากแคนาดาด้วย
ลิซ่า ฟิลลิปส์ เป็นหนึ่งในผู้รอดชีวิตหลายคนที่เรียกร้องให้มีความโปร่งใสอย่างเต็มที่ในเรื่องอื้อฉาวของเอปสเตนระหว่างการประท้วงในวอชิงตันเมื่อเดือนกันยายนภาพ: Andrew Harnik/Getty Images/AFP
คดีเอปสเตนกลายเป็นปัญหาใหญ่สำหรับทรัมป์ ทั้งประชาชนทั่วไปและนักการเมืองต่างเรียกร้องให้กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เปิดเผย "แฟ้มเอปสเตน" ฉบับเต็ม (แฟ้มบางส่วนสามารถเข้าถึงได้โดยสาธารณะ แต่หลายส่วนถูกแก้ไข)
.
ทรัมป์เป็นเพื่อนกับเอปสเตนมานาน มีรูปถ่ายและวิดีโอมากมายที่ยืนยันเรื่องนี้ ในการให้สัมภาษณ์กับนิตยสารนิวยอร์ก เมื่อปี 2545 ทรัมป์กล่าวถึงเอปสเตนว่า "เป็นคนดีมาก" และกล่าวว่า "เขาเป็นคนที่อยู่ด้วยแล้วสนุกมาก มีคนบอกว่าเขาชอบผู้หญิงสวยๆ เหมือนกับผม และหลายคนก็อายุน้อยกว่าด้วย"
.
เมื่อปี 2566 ทรัมป์เองก็ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานล่วงละเมิดทางเพศนักเขียน อี. จีน คาร์โรลล์ ในปี 2539 และพยายามที่จะแยกตัวออกจากเรื่องของเอปสเตนทั้งหมด ทั้งที่ทรัมป์เองก็ให้คำมั่นสัญญาในตอนหาเสียงว่าจะเปิดเผยเอกสารทั้งหมดของเอปสเตน ซึ่งเป็นสาเหตุที่ผู้สนับสนุนที่เหนียวแน่นที่สุดของเขาบางส่วน ซึ่งเป็นสมาชิกของขบวนการ MAGA รู้สึกโกรธแค้นที่เขาไม่ทำเช่นนั้น
.
แต่สิ่งที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เลือกดำเนินการคือ ไล่ฟ้องสื่อที่ลงข่าว :
♦️ฟ้องนิวยอร์กไทมส์ โดยระบุชื่อนักข่าว 4 คน ในข้อหาหมิ่นประมาทเป็นมูลค่า 15,000 ล้านดอลลาร์ หนังสือพิมพ์ฉบับนี้สร้างความไม่พอใจให้กับทรัมป์ จากการตีพิมพ์โน้ตที่มีลายเซ็นของเขา ซึ่งปรากฏใน "สมุดอวยพรวันเกิด" ของเจฟฟรีย์ เอปสเตน โน้ตดังกล่าวมีเนื้อหาส่อไปในเชิงอนาจาร ทำให้เกิดการถกเถียงกันอีกครั้งว่าประธานาธิบดีรู้มากแค่ไหนเกี่ยวกับพฤติกรรมอาชญากรรมของเอปสเตน
♦️ฟ้องวอลล์สตรีทเจอร์นัล ข้อหาหมิ่นประมาทเป็นมูลค่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ จากบทความที่เชื่อมโยงเขากับเอปสเตน บทความระบุถึงจดหมายที่มีลายเซ็นของทรัมป์ซึ่งถูกเก็บอยู่ในหนังสือที่มอบให้เนื่องในโอกาสวันเกิดครบรอบ 50 ปีของเอปสเตน มีรายงานว่าจดหมายจากทรัมป์ฉบับนั้น มีโครงร่างภาพของผู้หญิงเปลือยกาย พร้อมข้อความว่า "เพื่อนเป็นสิ่งที่วิเศษ สุขสันต์วันเกิด และขอให้ทุกวันเป็นความลับอันวิเศษอีกครั้ง"
♦️ฟ้องเครือข่ายโทรทัศน์ ABC และ CBS ซึ่งทั้งสองเครือข่ายได้ยอมความกับประธานาธิบดีเป็นเงินหลายล้านดอลลาร์
.
และล่าสุดทรัมป์ขู่จะฟ้อง BBC มูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ แม้จะไม่ใช่ประเด็นความสัมพันธ์ที่อื้อฉาวกับเจฟฟรีย์ เอปสเตน แต่ก็แสดงให้เห็นถึงวิธีการแก้ปัญหาตามทัศนคติของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาผู้นี้.
โฆษณา