12 พ.ย. เวลา 01:59 • ธุรกิจ

🏆 ทำไม A-Players ถึงไม่อยากทำงานกับคุณ?

เมื่อ “คนเก่ง” ไม่ใช่ของ HR แต่คือความรับผิดชอบของคุณเอง
💥 เมื่อกลยุทธ์เฉียบ แต่ Execution ไม่คมพอ?
”องค์กรส่วนใหญ่ไม่ได้ล้มเพราะ “กลยุทธ์แย่” แต่เพราะ “คนไม่พร้อม” ที่จะทำให้มันสำเร็จจริงๆ”
เรามักเห็นแผนกลยุทธ์ระดับองค์กรที่สวยหรู เต็มไปด้วย Vision Statements และ Framework ระดับโลก แต่เมื่อถึงเวลาลงมือทำ ทุกอย่างกลับสะดุดตั้งแต่ชั้นหน้างาน เพราะ “คนที่ลงสนาม” ไม่มีความเข้าใจลึกพอ หรือไม่รู้วิธีแปลงกลยุทธ์ให้กลายเป็นผลลัพธ์จริงในสนามปฏิบัติ
“องค์กรที่มีแผนดีแต่ทีมไม่แหลมคม ก็เหมือนเรือที่มีแผนที่ดีแต่ไม่มีคนขับที่รู้จักคลื่นลม  สุดท้ายก็วนอยู่ในวงน้ำวนเดิมๆ”
ในโลกที่ “ความเร็ว” และ “ความแม่นยำ” คือเกมการอยู่รอด ปัญหาที่แท้จริงของผู้นำไม่ใช่การคิดกลยุทธ์ แต่คือการ “หาคนเก่งที่ลงมือได้จริง” และยอมรับความจริงว่า “การสร้างทีมแกร่ง” ไม่ใช่หน้าที่ของ HR แต่คือ “บททดสอบภาวะผู้นำ” ของคุณโดยตรง
====
🎯 หาคนไม่ได้ = ปัญหาผู้นำ ไม่ใช่ปัญหา HR
อดีต CEO ของ Agoda เคยกล่าวไว้อย่างเฉียบว่า “ถ้าหา A-Player ไม่ได้ อย่าโทษ HR ให้โทษตัวเองก่อน”
* เพราะการดึงดูด (Attract) และพัฒนา (Develop) คนเก่ง คือ “ภารกิจของผู้นำ” ไม่ใช่ “หน้าที่ของฝ่ายสรรหา”
* ถ้าคุณยังรอให้ HR ส่งเรซูเม่มาให้ นั่นไม่ใช่คุณหาคนเก่งไม่ได้ แต่คุณยังไม่เดือดร้อนพอ ถ้าคุณยังบ่นว่า “คนเก่งไม่อยากมาทำงานกับเรา” นั่นแปลว่าคุณยังไม่เข้าใจว่า “อะไรในตัวคุณ” ที่ไม่ดึงดูดพวกเขา
ลองถามตัวเองว่า
* คุณเคยออกไปเจอคนเก่งด้วยตัวเองไหม?
* คุณเคยชวนคนที่อยากร่วมทีมมาคุยเรื่องวิสัยทัศน์ไหม?
* หรือคุณเอาแต่นั่งรอให้ HR ป้อนคนมาให้?
* เพราะสุดท้ายแล้ว A-Players ไม่ได้เลือก “องค์กร” ก่อนเสมอไป แต่พวกเขาเลือก “หัวหน้า” ที่เขาเชื่อว่าจะพาเขาเติบโตได้จริง
====
🔍 สิ่งที่คนเก่งมองหา ไม่ใช่แค่เงินเดือน
ท่านประธานอาวุโส ธนินท์ เจียรวนนท์ แห่งเครือซีพี เคยพูดไว้อย่างลึกซึ้งว่า “คนเก่งจริง” มองหา 3 สิ่งนี้ตามลำดับ คือ
1. อำนาจ (Authority): เขาต้องการ “เวที” ในการตัดสินใจ ต้องการรู้ว่าตัวเองมีอิสระในการสร้างคุณค่าจริง ไม่ใช่แค่รับคำสั่งไปวัน ๆ
2. เกียรติ (Honor): เขาต้องการรู้ว่าสิ่งที่เขาทำจะสร้างความภูมิใจให้ตัวเองและทีม เขาอยากอยู่ในองค์กรที่เขาสามารถพูดได้เต็มปากว่า “ผมภูมิใจที่ได้อยู่ที่นี่”
3. เงิน (Money): เงินเป็นสิ่งจำเป็น แต่ไม่ใช่สิ่งที่ซื้อความภักดีได้ หากสองข้อแรกไม่ตอบโจทย์ ต่อให้เสนอแพ็คเกจสูงแค่ไหน พวกเขาก็พร้อมจะปฏิเสธ
A-Players มักไม่เริ่มต้นด้วยคำถามว่า “เงินเดือนเท่าไร?” แต่เริ่มจาก “ผมจะได้สร้างอะไร?” หรือ “ผมจะมีอิทธิพลแค่ไหนในบทบาทนี้?”
“พวกเขาไม่ได้แสวงหาความสบาย แต่แสวงหาความหมาย และนี่คือสิ่งที่เงินซื้อไม่ได้”
====
🛡️ ทำไมคนเก่งถึงไม่อยากทำงานกับคุณ?
ในห้องสัมภาษณ์ คุณอาจคิดว่าคุณเป็นคนคัดเลือกเขา แต่ในความเป็นจริง “เขาก็กำลังสัมภาษณ์คุณกลับ” เช่นกัน
A-Players จะสแกนคุณเงียบๆ ผ่านคำถาม ท่าที และวิธีคิด พวกเขาจะประเมินทันทีว่า “คุณคือหัวหน้าที่เขาอยากทำงานด้วยไหม?”
และนี่คือสัญญาณที่ทำให้คนเก่งปฏิเสธคุณอย่างไม่ลังเล ได้แก่
* คุณกลัวคนเก่งกว่า: คุณพยายามลดบทบาทเขา กลัวว่าเขาจะมาแย่งแสงหรือข้ามหัวคุณ
* คุณกลัวถูกแทนที่: คุณจ้างเขามา แต่คุณไม่เคยปล่อยให้เขาทำงานอย่างเต็มศักยภาพ
* คุณไม่มีแรงบันดาลใจ: บทสนทนาในห้องสัมภาษณ์ไม่มีพลัง ไม่มีวิสัยทัศน์ และเต็มไปด้วยคำถามซ้ำซาก คนเก่งรู้ทันทีว่า “อยู่ไปก็ไม่โต”
A-Players ไม่มองหาหัวหน้าที่ใจดีหรือพูดเพราะ แต่หาคนที่ “พาเขาเก่งขึ้น” และ “เปิดพื้นที่ให้เขาแสดงศักยภาพ” ได้เต็มที่
====
⚔️ Missionaries vs. Mercenaries คือ คนเก่งต้องการ “ภารกิจ” ไม่ใช่ “คำสั่ง”
Mercenaries: ทำงานเพื่อเงิน ทำสิ่งที่ถูกสั่ง
Missionaries: ทำงานเพื่อความเชื่อ ทำสิ่งที่ตัวเองศรัทธา
* A-Players คือ “Missionaries” พวกเขาทำงานได้ดีที่สุดเมื่อเข้าใจเป้าหมายใหญ่ และได้รับความเชื่อใจให้ขับเคลื่อนด้วยตัวเอง
* ผู้นำที่ไม่เข้าใจข้อนี้จะสูญเสียพวกเขาเร็วมาก เพราะเมื่อคุณ “Micromanage” หรือ “ไม่ไว้ใจให้เขาคิดเอง” พวกเขาจะรู้ทันทีว่า “ที่นี่ไม่ใช่ที่ของฉัน”
* คนเก่งไม่ต้องการหัวหน้าที่คอยชี้นิ้ว แต่ต้องการผู้นำที่ “กำหนดทิศทางให้ชัด” แล้ว “เปิดเวทีให้ลงมือจริง” เพราะสำหรับ A-Players แล้ว “Direction สำคัญกว่า Instruction” เสมอ
====
🧭 บทบาทใหม่ของผู้นำยุคนี้?
ผู้นำยุคใหม่ไม่ใช่คนที่เก่งที่สุดในห้อง แต่คือ “คนที่ทำให้ทุกคนในห้องเก่งขึ้นกว่าเดิม”
หน้าที่ของคุณไม่ใช่การ “สั่งให้คนทำตาม” แต่คือ “สร้างระบบให้คนเก่งที่สุดแสดงฝีมือได้เต็มที่” ซึ่งประกอบด้วย 4 เรื่องหลัก
1. หาคนด้วยตัวเอง (Find): อย่ารอ HR คุณควรออกไปเจอคนเก่งในวงการ ชวนมาคุยเรื่องอนาคต และบอกเล่าวิสัยทัศน์ของทีมด้วยตัวเอง
2. สร้างสภาพแวดล้อมที่เขาอยากอยู่ (Build): สร้าง “วัฒนธรรมที่เสืออยากอยู่ในป่า” ไม่ใช่ “กรงที่แมวต้องทนอยู่”
3. วางคนให้ถูกที่ (Place): อย่าส่งเสือไปจับหนู หรือให้คนเก่งทำงานที่ไม่ท้าทายความสามารถ
4. ตั้งเป้าหมายให้ชัด (Set): แล้วปล่อยให้เขาแสดงฝีมือในแบบของตัวเอง
เมื่อคุณทำได้ครบทั้ง 4 ข้อนี้ องค์กรของคุณจะกลายเป็นแม่เหล็กดูดคนเก่งโดยไม่ต้องประกาศรับสมัครเลยด้วยซ้ำ
====
✨ เพราะสุดท้าย “ทีมของคุณ” คือภาพสะท้อนของ “ตัวคุณ”
ถ้าทีมของคุณต้องถูกผลักให้เดิน หรือคอยสั่งถึงจะขยับ แปลว่าคุณยังไม่ได้สร้างแรงบันดาลใจมากพอ แต่ถ้าทีมคุณเต็มไปด้วยคนที่ลุกขึ้นมา “ทำก่อนสั่ง” แปลว่าคุณกำลังสร้างวัฒนธรรมที่คนอยากเติบโตด้วยจริงๆ
อย่าเสียเวลาโทษ HR หรือระบบ เพราะสุดท้าย A-Players ไม่ได้หายไปไหน  พวกเขาแค่ไม่อยากทำงานกับผู้นำที่ไม่เข้าใจพวกเขาเท่านั้นเอง
“ทีมที่คุณมีในวันนี้ คือกระจกสะท้อนภาวะผู้นำของคุณ”
#วันละเรื่องสองเรื่อง
#Leadership
#TalentManagement
#APlayer
#MissionariesVsMercenaries
#Hiring
#CorporateCulture
#ภาวะผู้นำ
โฆษณา