3 ธ.ค. เวลา 15:17 • ธุรกิจ

⚽ เมื่อ "เวทีที่ยิ่งใหญ่" อาจกลายเป็น "สุสานคนเก่ง"

บทเรียนฟุตบอลสู่การบริหาร Talent องค์กร?
🌍 ความฝันที่สว่างที่สุด…อาจมีเงามืดซ่อนอยู่?
ในโลกฟุตบอล หากถามนักเตะอาชีพว่าจุดสูงสุดของเส้นทางอยู่ที่ไหน ต้องมีชื่อของ Real Madrid และ Barcelona ปรากฏเป็นลำดับแรกๆ เสมอ ทั้งสองสโมสรยังคงเป็นแบรนด์ทรงพลังที่สุดในโลก ทั้งด้านรายได้ แฟนบอล ความสำเร็จระดับยุโรป และความสามารถในการดึงดูดซูเปอร์สตาร์
แต่ภายใต้แสงไฟที่เจิดจ้านี้ กลับมีความจริงที่น่าขบคิดอยู่เสมอว่า
“แม้ที่นั่นจะเป็นเวทีที่ดีที่สุด แต่ก็อาจไม่ใช่ที่ที่ใช่ที่สุดสำหรับทุกคน”
และความจริงนี้สะท้อนให้เราเห็นชัดมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อพิจารณาชะตาของนักเตะระดับโลกจำนวนไม่น้อยที่ไปไม่สุดในสองทีมยักษ์ใหญ่เหล่านี้ฦ
====
📉 บทเรียนจาก “Talent Graveyard” หรือ "เก่งมาก แต่ผิดระบบ = ล้มเหลว"
ประวัติศาสตร์ฟุตบอลเต็มไปด้วยตัวอย่างของนักเตะที่เก่งระดับโลก แต่ไปไม่รอดที่ทีมใหญ่สุดในโลก เช่น
🔹 ดิเอโก้ มาราโดน่า (Diego Maradona) — Barcelona (1982–1984)
* เขาคือหนึ่งในนักเตะที่เก่งที่สุดตลอดกาล แต่การย้ายไปบาร์ซ่ากลับเต็มไปด้วยอาการบาดเจ็บ ความขัดแย้ง และระบบทีมที่ไม่เอื้อ
* หลังจากย้ายไป Napoli เขากลับกลายเป็นตำนานทันที
🔹 ฮวน โรมัน ริเกลเม (Juan Román Riquelme) — Barcelona (2002–2005)
* เป็นเพลย์เมกเกอร์ที่โดดเด่นที่สุดคนหนึ่งในยุคของเขา
* แต่บาร์ซ่าของยุคนั้นต้องการปีกที่เร็วและเพรสซิ่งหนัก ทำให้เขาถูกจับไปเล่นตำแหน่งที่ไม่ถนัด
* เมื่อย้ายไป Villarreal เขากลายเป็นหัวใจของทีมทันที
🔹 ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ (Philippe Coutinho) — Barcelona (2018–2022)
* เป็นดีลที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร
* แต่ไม่สามารถปรับตัวเข้ากับระบบของทีมได้ และถูกปล่อยยืมหลายครั้ง จนหายไปจากเรดาร์ของ Superstar ในที่สุด
🔹 เอเดน อาซาร์ (Eden Hazard) — Real Madrid (2019–2023)
* เดิมเป็นซูเปอร์สตาร์ของพรีเมียร์ลีก
* แต่เจออาการบาดเจ็บต่อเนื่อง ระบบที่แตกต่าง และความกดดันสูงจนสูญเสียความมั่นใจไปเกือบหมด สุดท้ายต้องจบอาชีพค้าแข้งอย่างไว
====
❗สรุปบทเรียนสำคัญ
“ความเก่งไม่เพียงพอ หากระบบไม่ใช่ การโฟกัสขององค์กรไม่ใช่ และความคาดหวังไม่เอื้อให้เติบโต”
นี่คือปัญหาที่ทีมใหญ่ทุกทีมมีเหมือนกัน
* ความคาดหวังมหาศาล (Pressure Cooker)
* ระบบที่แข็งแรงจน “ปรับคนไม่ได้” (System First)
* พร้อมเปลี่ยนตัวทันทีหากผลงานไม่ถึง (Disposable Culture)
และที่สำคัญที่สุดคือ…“ทีมใหญ่ไม่ได้ต้องการคนเก่งที่สุด แต่ต้องการคนที่เหมาะที่สุดด้วย”
====
🧭 ทางเลือกที่ชาญฉลาดอยู่ในที่ที่ “ระบบ” ทำให้เราเฉิดฉาย
นักเตะจำนวนมากที่ไม่ได้ไปสุดกับทีมยักษ์ใหญ่ กลับประสบความสำเร็จอย่างงดงามเมื่อได้อยู่ในระบบที่เหมาะกับตัวเอง
* โมฮาเหม็ด ซาลาห์ — Liverpool: จากสตาร์ที่กลายเป็นส่วนเกินในเชลซี แต่เมื่ออยู่ในระบบ Gegenpressing ของ Klopp เขากลายเป็นหนึ่งในดาวยิงดีที่สุดในยุโรป
* อันเดรีย ปิร์โล่ — Juventus: ถูกมองว่าโรยราที่ AC Milan แต่ Juventus ให้บทบาทที่ตรงกับ DNA ของเขา จนกลายเป็นตำนานอีกครั้ง
* ลูคา โมดริช — Real Madrid (ที่ประสบความสำเร็จ): เพราะเขา “Fit พอดีกับระบบ” ของ Madrid
ดังนั้น ชัยชนะของอาชีพ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความดังของสโมสร…
แต่ขึ้นอยู่กับ “เวทีที่ปล่อยให้เราส่องแสงได้เต็มที่”
====
🏢 จากสนามฟุตบอล → สู่การบริหาร Talent ในองค์กร?
บทเรียนจากฟุตบอลถูกถอดออกมาใช้ในโลกขององค์กรได้อย่างเฉียบคม โดยเฉพาะเรื่อง “การเลือกคนให้เหมาะกับที่” ซึ่งเป็นหัวใจของ Talent Management
🎯 1) ระบบที่ใช่ สำคัญกว่าคนที่เก่งที่สุด
องค์กรชั้นนำหลายแห่งแสดงให้เห็นว่า
* ไม่จำเป็นต้องรับ “คนที่เก่งที่สุดในตลาด”
* แต่ต้องรับ “คนที่เหมาะที่สุดกับระบบวัฒนธรรมและวิธีทำงานขององค์กร”
องค์กรที่ล้มเหลวในการบริหาร Talent มักเป็นองค์กรที่…
* รับคนเก่ง แต่ไม่ Fit วัฒนธรรม
* มีระบบ Rigid เกินกว่าจะเปิดพื้นที่ให้นวัตกรรมเกิดขึ้น
* คิดว่าเก่ง = ไปได้ทุกที่ ทั้งที่จริงไม่ใช่?
🎯 2) Context คือทุกอย่าง
เหมือนที่ริเกลเมหรือคูตินโญ่ “เก่งผิดที่ผิดเวลา” คนทำงานก็เป็นแบบเดียวกัน
“ถ้าองค์กรไม่สร้างบริบทที่เอื้อต่อความสำเร็จ คนเก่งก็ไปไม่รอด”
องค์กรต้องถามตัวเองว่า…
* เรามีระบบสนับสนุน (Support System) ดีพอหรือไม่?
* เราออกแบบบทบาทให้ตรงกับ “จุดแข็ง” ของ Talent แล้วหรือยัง?
* เราให้ Feedback แบบสร้างสรรค์จริงหรือไม่?
🎯 3) Pressure Management หรือความกดดันที่พอดี = ความเร็วที่เหมาะสม
ฟุตบอลระดับท็อปมีความกดดันมหาศาล เช่นเดียวกับองค์กรใหญ่ในยุค AI & Digital Transformation
"ความกดดันที่มากเกินไปทำลายความมั่นใจและคุณภาพงานได้อย่างรวดเร็ว"
คนเก่งจะไปต่อได้ ก็ต่อเมื่อองค์กรรู้จักบริหาร
* ความคาดหวัง
* ความชัดเจนของเป้าหมาย
* ระดับอิสระในการตัดสินใจได้ เป็นต้น
🎯 4) องค์กรที่ดีต้องเป็น “เวที ไม่ใช่หลุมศพของ Talent”
องค์กรจำนวนไม่น้อยรับคนเก่งเข้ามา แต่ระบบกลับทำลายเขาจนหมดไฟ เช่น
* ระบบประเมินผลที่ไม่ยุติธรรม
* หัวหน้าที่มอง Talent เป็นภัยคุกคาม
* วัฒนธรรมที่ไม่เปิดโอกาสให้ทดลองผิด
* ไม่มี Growth Path ที่ชัดเจน เป็นต้น
องค์กรที่ดีต้องทำให้ Talent “โตขึ้น” ไม่ใช่ “ถอยหลัง”
====
🔥 อย่าเลือกที่ทำงานเพราะโลโก้หรือแบรนด์บริษัท แต่เลือกที่ทำให้คุณเติบโต
เหมือนในตลาดนักเตะ คนจำนวนมากอยากย้ายไปทีมใหญ่เพราะชื่อเสียง ความหวัง หรือภาพลักษณ์ แต่ลืมมองว่า "ระบบของที่นั่น" สร้างพื้นที่ให้ตัวเองหรือไม่
ในโลกการทำงานก็เช่นกัน…
* บริษัทใหญ่ไม่ใช่คำตอบเสมอไป
* บริษัทดังไม่ใช่สถานที่ที่ทำให้ทุกคน “เฉิดฉาย”
* ความสำเร็จไม่ใช่การได้อยู่กับแบรนด์ใหญ่ที่สุด แต่คือการได้อยู่ในที่ที่ทำให้ "ศักยภาพพุ่งสูงที่สุด"
อย่าเลือกงานเพราะอยากให้คนอื่นประทับใจ แต่จงเลือกงานที่ทำให้คุณประทับใจในตัวเองมากขึ้นทุกวัน
และในฐานะองค์กร…อย่าเป็น Barcelona หรือ Real Madrid ที่เต็มไปด้วยซากของ Talent ที่มาไม่ถึงฝั่งฝัน แต่จงเป็น "Liverpool หรือ Juventus" ที่รู้จักสร้างเวทีเพื่อให้ Talent กลายเป็นเวอร์ชันที่ดีที่สุดของตัวเอง
====
✨ ดังนั้น ความสำเร็จไม่ได้เกิดจาก “ทีมที่ดังที่สุด” แต่จาก “ระบบที่ใช่ที่สุด”
ฟุตบอลยุคใหม่กำลังบอกเราว่า…
* ไม่ใช่นักเตะทุกคนที่ต้องไปอยู่สโมสรอันดับหนึ่งถึงจะประสบความสำเร็จ
* หลายคนสร้างตำนานในทีมที่ “ระบบใช่กว่า” ไม่ใช่ทีมที่ “ดังที่สุด”
* ความรุ่งเรืองขึ้นอยู่กับ Environment Fit มากกว่า Big Name
* สิ่งนี้คือหัวใจเดียวกับ Talent Management ในยุคนี้
1. สำหรับองค์กรและผู้นำ
คำถามที่ถูกต้องไม่ใช่ “จะไปดึงคนเก่งมาจากไหน?” แต่คือ “เราสร้างระบบที่ทำให้คนเก่งอยากอยู่ และอยากเติบโตหรือยัง?”
* ระบบไหนที่ช่วยให้คนเปล่งประกาย มากกว่ากดทับศักยภาพ
* วัฒนธรรมแบบใดที่ทำให้คนอยากทุ่มเท มากกว่าอยากหนี
* ผู้นำแบบใดที่สร้างความไว้ใจ มากกว่าสร้างแรงกดดัน
2. สำหรับคนทำงาน
คำถามไม่ใช่ “บริษัทไหนดังที่สุด?” แต่คือ “ที่ไหนทำให้คุณเป็นเวอร์ชันที่ดีที่สุดของตัวเอง?”
* ที่ไหนให้คุณได้ลงเล่นในตำแหน่งที่ถนัด
* ที่ไหนเคารพความเป็นคุณ ไม่ใช่พยายามให้คุณเป็นใครคนอื่น
* ที่ไหนทำให้คุณรู้สึกว่า “การเติบโต” คือเรื่องจริง ไม่ใช่คำโฆษณา
“ความสำเร็จไม่ได้วัดที่โลโก้บนโปรไฟล์ แต่วัดที่ระบบที่ทำให้คุณเติบโตได้จริง” เมื่อเข้าใจสิ่งนี้ ทั้งองค์กรและคนทำงานจะ “เลือกให้ตรง” และ “ใช้ศักยภาพได้เต็ม” มากกว่าการวิ่งตามชื่อเสียงเพียงอย่างเดียว
#วันละเรื่องสองเรื่อง
#CareerStrategy
#TalentManagement
#Leadership
#OrganizationFit
#SelfDevelopment
#Barcelona
#RealMadrid
โฆษณา