Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
The Last karuda
•
ติดตาม
19 ธ.ค. เวลา 13:55 • ข่าวรอบโลก
ออสเตรเลีย
ความเหี้ยมโหดแบบไม่เลือกหน้า...
ออสเตรเลียได้เพิ่มมาตรการควบคุมที่เข้มงวดขึ้นในครั้งนี้ เรามาดูกันว่าจะสามารถหยุดยั้งเหตุการณ์ยิงกันได้นานแค่ไหน
และจะกำจัดเหตุการณ์เหล่านี้ให้หมดไปได้หรือไม่
ในเมื่อเสรีภาพในการครอบครองอาวุธปืนเป็นรากฐานของระบอบประชาธิปไตย
โดยประเทศสวิตเซอร์แลนด์มีระบบการครอบครองอาวุธปืนที่เป็นธรรมสำหรับทุกคน และพลเมืองยังได้รับอนุญาตให้ครอบครองอาวุธหนักได้อีกด้วย
แล้วกฎหมายควบคุมอาวุธปืน(เพิ่มเติม)ของออสเตรเลียมีรายละเอียดอย่างไรบ้างล่ะ ?
เมื่อวัวหาย ก็ต้องล้อมคอก นี่เป็นเหตุการณ์กราดยิงครั้งใหญ่ครั้งแรกในออสเตรเลียในรอบเกือบ 30 ปี
1
กับเหตุการณ์กราดยิงที่หาดบอนไดในซิดนีย์เมื่อเร็วๆนี้ กระทำโดยพ่อและลูกชาย ทำให้มีผู้เสียชีวิต 15 คน
1
พ่อ (อายุประมาณ 50 ปี) ถูกตำรวจยิงเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนลูกชาย (อายุประมาณ 20 ปี) ถูกตำรวจยิงและกำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล
เยี่ยมชม
blockdit.com
[ชตระกูล ศรีสวัสดิ์] ความเหี้ยมโหดแบบไม่เลือกหน้า...
ความเหี้ยมโหดแบบไม่เลือกหน้า…
ที่ผ่านๆมา มีเหตุการณ์กราดยิงครั้งใหญ่ครั้งสุดท้ายในออสเตรเลียคือเหตุการณ์สังหารหมู่ที่พอร์ตอาร์เธอร์ (Port Arthur)สถานที่ท่องเที่ยวในรัฐแทสเมเนีย เมื่อปี 2539
ในเหตุการณ์นั้น มาร์ติน ไบรอัน อายุ 28 ปี ใช้ปืนไรเฟิลกึ่งอัตโนมัติและปืนกลมือที่ซื้อมาอย่างผิดกฎหมายหลายกระบอก กราดยิงในร้านกาแฟ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 35 คน
1
หลังโศกนาฏกรรมครั้งนี้ รัฐบาลออสเตรเลียได้แก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับอาวุธปืนอย่างมีนัยสำคัญ
โดยควบคุมการครอบครองอาวุธปืนส่วนบุคคลอย่างเข้มงวด และเพิ่มมาตรการสำคัญหลายอย่าง
ได้แก่ การห้ามขายอาวุธปืนกึ่งอัตโนมัติและอัตโนมัติเต็มรูปแบบ
การตรวจสอบประวัติผู้ซื้ออาวุธปืนอย่างเข้มงวด และกำหนดให้มีระยะเวลารอ 28 วันหลังการซื้อ
นอกจากนี้ รัฐบาลออสเตรเลียยังได้ดำเนินการซื้อคืนอาวุธปืนอัตโนมัติและกึ่งอัตโนมัติจำนวนมากที่หมุนเวียนอยู่ในระบบก่อนที่กฎหมายใหม่จะถูกประกาศใช้
นับตั้งแต่กฎหมายใหม่ถูกบังคับใช้ในปี 2539 อาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับอาวุธปืนในออสเตรเลียลดลงอย่างมาก
และเหตุกราดยิงหมู่ก็ยุติลง (จนกระทั่งเมื่อวานนี้)
แน่นอนว่าเหตุการณ์ก่อการร้ายที่น่าสยดสยองยังคงเกิดขึ้น ตัวอย่างเช่น ในปี 2557 กลุ่มติดอาวุธ ISIS ได้จับตัวประกันมากกว่าสิบคนในร้านกาแฟใจกลางเมืองซิดนีย์
หลังจากสังหารตัวประกันชายไปหนึ่งคน ตำรวจได้บุกเข้าไปในพื้นที่และสังหารผู้ก่อการร้าย
แต่ตัวประกันหญิงคนหนึ่งเสียชีวิตจากกระสุนปืนที่หลงมาโดยบังเอิญ
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยเฉพาะประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต (ตอนนั้น น่าจะเป็นช่วงของโอบามา) จึงมักอ้างถึงกฎหมายควบคุมอาวุธปืนของออสเตรเลียเป็นตัวอย่าง
เมื่อเรียกร้องให้มีการควบคุมอาวุธปืนที่เข้มงวดมากขึ้นในสหรัฐฯ
แม้ว่ามาตรการควบคุมอาวุธปืนของออสเตรเลียจะถูกนำไปใช้ในบางรัฐของสหรัฐฯ
เช่น การตรวจสอบประวัติ และข้อจำกัดและการห้ามขายอาวุธปืนกึ่งอัตโนมัติและอัตโนมัติอย่างเข้มงวด
แม้แต่รัฐที่สนับสนุนพรรคเดโมแครตอย่างแคลิฟอร์เนียและนิวยอร์กก็ตาม แต่เป็นที่น่าสังเกตุว่าโดยทั่วไปแล้วกฎหมายของออสเตรเลียเองจะเข้มงวดกว่ากฎหมายในรัฐใดๆ ของสหรัฐฯ
นอกจากนี้ แม้ว่าทั้งออสเตรเลียและสหรัฐฯ จะเป็นประเทศแบบสหพันธรัฐ แต่ออสเตรเลียได้รวบรวมกฏระเบียบต่างๆเพื่อออกกฎหมายควบคุมอาวุธปืนทั่วประเทศอย่างแท้จริง
ซึ่งแตกต่างจากแนวทางที่กระจัดกระจายในสหรัฐฯ
1
ที่น่าสังเกตคือ พรรคอนุรักษ์นิยม ไม่ใช่พรรคเสรีนิยม ที่เป็นฝ่ายผลักดันให้มีการควบคุมอาวุธปืนที่เข้มงวดมากขึ้นในออสเตรเลียในขณะนั้น
ขณะที่ สหรัฐอเมริกายึดมั่นในหลักการที่ว่า "กฎหมายเก่าแก่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้" มาโดยตลอด ฮาาาาา
ด้วยบทบัญญัติของบทแก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่สองเกี่ยวกับ "สิทธิในการพกพาอาวุธ" สหรัฐฯ จึงไม่เคยมีกฎหมายห้ามอาวุธปืนอย่างเป็นทางการใดๆ
แต่ได้อาศัยกฎหมายและแบบอย่างในการควบคุมการครอบครองอาวุธปืนมากกว่า ซึ่งรวมถึงการควบคุมประเภทของอาวุธปืนที่อนุญาต
คุณสมบัติของผู้ที่สามารถซื้ออาวุธปืนได้ พื้นที่ที่สามารถพกพาอาวุธปืนได้ (เช่น ห้ามพกพาอาวุธปืนใกล้โรงเรียนประถม(หรือไม่???))
และวิธีการพกพาอาวุธปืน เช่น ห้ามพกพาปืนพกซ่อนในที่สาธารณะ
ข้อสังเกตเพิ่มเติม ก็คือการแก้ไขเพิ่มเติมครั้งที่สองของรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ ไม่ได้ประกันโดยเนื้อแท้ว่าชาวอเมริกันทุกคนมีสิทธิที่จะพกพาอาวุธปืน
ข้อความดังกล่าวจึงค่อนข้างไม่สมเหตุสมผล และทำให้เกิดการตีความที่หลากหลาย จนสามารถตีความเข้าข้างตนเองได้มากโข
กล่าวโดยง่าย ประเด็นเรื่องสิทธิในการครอบครองอาวุธปืนในสหรัฐฯ เป็นเรื่องของการอ่านทำความเข้าใจและไวยากรณ์เป็นหลัก
1
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการพยายามอย่างไม่ลดละของเจ้าหน้าที่ศาลฎีกาฝ่ายอนุรักษ์นิยม
ทำให้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเป็นการตีความว่าเป็น "สิทธิส่วนบุคคล"
ยิ่งไปกว่านั้น ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ฝ่ายอนุรักษ์นิยมของอเมริกาได้ผลักดันให้มีการควบคุมอาวุธปืนที่ผ่อนคลายมากขึ้น และแน่นอนว่าโดนทดสอบขอบเขตทางศีลธรรมของศาลฎีกาได้อย่างต่อเนื่อง
ต่อมาในปี 2565 ศาลฎีกาสหรัฐฯ ในคดี Dobbs v. Jackson Women's Health Organization (Dobbs v. Wade) มันได้พลิกคำตัดสินของคดี Roe v. Wade
โดยปฏิเสธว่าการทำแท้งเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญของรัฐบาลกลาง
อย่างไรก็ตาม ในวันเดียวกันนั้นเอง ก็มีคำตัดสินสำคัญอีกคดีหนึ่งที่พลิกกลับความก้าวหน้าทางประวัติศาสตร์
นั่นคือ คำตัดสินในคดี Bruen v. Bruen คำตัดสินนี้ได้ล้มล้างกฎหมายของรัฐนิวยอร์กที่มีอายุ 100 ปี ไปซะงั้น
ซึ่งเกี่ยวกับ ห้ามการพกพาปืนพกซ่อนเร้นในที่สาธารณะ แม้ว่าดูเหมือนจะเกี่ยวข้องกับการพกพาปืนพกเท่านั้น แต่คำตัดสินนี้มีผลกระทบอย่างกว้างขวาง
โดยถือว่ากฎหมายควบคุมปืนทั้งหมดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ ที่ไม่ถือว่า "เก่าแก่" นั้นละเมิดแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญฉบับที่สอง
และดังนั้นมันจึงขัดต่อรัฐธรรมนูญและเป็นโมฆะ
1
ในปีต่อๆ มา คดีแปลกๆ จำนวนมากก็ได้หลั่งไหล (หรือพยายามที่จะหลั่งไหล) เข้าสู่ศาลฎีกา
อ่านเพิ่มเติม
blockdit.com
[The Last karuda] ”โรคปืน” แทรกซึมเข้าไปในไขกระดูกไม่ว่าจะในไทย ฮามาส หรือสหรัฐอเมริกา ”โรคปืน” แทรกซึมเข้าไปในไขกระดูกและทรมาน ”ร่างกายที่ป่วย” ของประเทศ
″โรคปืน” แทรกซึมเข้าไปในไขกระดูกและทรมาน ”ร่างกายที่ป่วย” ของประเทศ
ตัวอย่างเช่น รัฐเท็กซัสมีกฎหมายห้ามบุคคลที่มีประวัติความรุนแรงในครอบครัวจากการยื่นขอครอบครองปืน
มีชายคนหนึ่งที่ก่อเหตุความรุนแรงในครอบครัวได้ฟ้องร้องกฎหมายฉบับนี้
โดยอ้างว่าในยุคของวอชิงตันและแฟรงคลิน ความรุนแรงในครอบครัวไม่ใช่ปัญหาที่ร้ายแรง และไม่มีกฎหมายใดห้ามผู้ชายที่ก่อเหตุความรุนแรงในครอบครัวครอบครองปืน
ดังนั้น กฎหมายฉบับนี้จึงไม่ใช่ "กฎหมายเก่าแก่โบราณ" และขัดต่อรัฐธรรมนูญ
ในช่วงสองปีที่ผ่านมา มีความพยายามต่างๆ ที่จะยกเลิกกฎหมายที่ห้ามผู้เยาว์ครอบครองปืน ห้ามโรงเรียนครอบครองปืน โบสถ์ครอบครองปืน
ห้ามขายปืนที่ยังไม่ได้ประกอบหรือปืนที่ดัดแปลงแล้ว (เนื่องจากไม่มีหมายเลขประจำเครื่องและไม่สามารถตรวจสอบได้)
และห้ามดัดแปลงปืนไรเฟิลธรรมดาให้เป็นปืนไรเฟิลกึ่งอัตโนมัติ
อย่างไรก็ตาม การกราดยิงในสหรัฐอเมริกายังคงเกิดขึ้นบ่อยครั้ง.......ฮาาาาาา
2
แนวคิด
ประวัติศาสตร์
ไลฟ์สไตล์
บันทึก
11
8
2
11
8
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย