Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เรื่องเล่าเมาเมาแมน
•
ติดตาม
8 ชั่วโมงที่แล้ว • ข่าวรอบโลก
เหตุผลน่ะได้ แต่มันไม่มีความชอบธรรม…
ทรัมป์พูดอีกแล้ว เรื่องกรีนแลนด์….
เขาบอกว่า เขาต้องการกรีนแลนด์ ด้วยเหตุผลทางยุทธศาสตร์
ความมั่นคง มากกว่าการมองไปที่แร่หายาก ซึ่งคาดว่าเยอะ
…มันเป็นแบบนั้นจริงๆเหรอ ?….
เราคงต้องมาพูดกันก่อน เกี่ยวกับว่าการอยากได้กรีนแลนด์
ของทรัมป์ และคนมีอำนาจในสหรัฐบางส่วนนั้น มองที่
แร่หายากจริงๆหรือไม่
เรื่องนี้ คงต้องบอกว่า การมองว่าสหรัฐอยากได้แร่นั้น
ไม่ค่อยสมเหตุผลมากนัก เมื่อดูจากการลงทุนของ
ชาติเจ้าของดินแดนจริงๆ คือเดนมาร์ก
ถ้าเราคิดให้เมคเซนส์สักนิด ว่าถ้ามันเยอะและคุ้ม
ที่จะทำจริงๆ ทำไมเดนมาร์กจึงลงทุนเรื่องนี้ค่อนข้างน้อย
และไม่กลายเป็นผู้ส่งออกแร่รายใหญ่เสียเองล่ะ ?
จะว่าเดนมาร์กไม่มีทุน อันนี้ไม่ใช่แน่ พวกเขาคือประเทศ
ร่ำรวย เช่นเดียวกับอีกหลายชาติในแถบนั้น และมีเทคโนโลยี
การทำเหมืองแร่ในระดับที่สูงมาก พวกเขาทำเองได้ ถ้าจะทำ
เดนมาร์กมีเงินลงทุนแน่ๆ แต่ไม่ทำ มันเพราะอะไรล่ะ ?
คำตอบมันอาจจะอยู่ที่ข้อมูลจากบริษัทร่วมทุน
สัญชาติอังกฤษ-ออสเตรเลีย ที่เข้าไปลองทำ
แล้วปรากฎว่ามันไม่คุ้มค่า และพาให้ขาดทุน
ไม่ใช่แร่น้อยจนไม่คุ้ม แต่ลักษณะพื้นที่ของกรีนแลนด์เอง
ทำให้การขุดเจาะนั้นยาก ต้นทุนสูง ไม่สามารถแข่งขันได้
ดังนั้นไอ้ที่ว่าสหรัฐอยากได้แร่ มันจึงไม่เมคเซนส์นัก
เพราะว่าถ้าสหรัฐเข้าไป ก็คงขาดทุนในลักษณะเดียวกัน
การเลือกลงทุนในออสเตรเลีย ที่เพิ่งทำความตกลงกันไป
ดูจะสมเหตุผลกว่า และออสเตรเลียเองก็เป็นพันธมิตรที่ไว้ใจ
ได้ของสหรัฐ ในระดับสูงมากๆ ที่จะไม่มีทางตีตัวออกห่าง
แถมเอาเข้าจริงๆ สหรัฐก็ไม่ใช่ไม่มีแร่พวกนี้
บนแผ่นดินตัวเองเลย ที่จริงพวกเขามีเยอะพอสมควรเลย
แต่มีปัญหาว่า การทำเหมืองพวกนี้ มันติดกฎหมายด้านมลพิษ
เท่านั้นเอง จึงไม่ทำกัน
ดังนั้นหากสหรัฐยึดกรีนแลนด์มาเป็นดินแดนของสหรัฐ
พวกเขาก็จะเจอข้อกฏหมายแบบเดียวกัน ทำยากอยู่ดีนั่นเอง
ความต้องการแร่หายากมันจึงไม่น่าใช่เหตุผลหลัก
อย่างทรัมป์ว่าจริงๆอยู่เหมือนกัน ถ้ามองเหตุผลจริงๆ
…ที่จริงแล้ว เรื่องที่หลายคนมองว่าสหรัฐเที่ยวได้ไปบุกคนโน้น
คนนี้ เพื่อหวังทรัพยากรนั้น บางทีมันก็ไม่เมคเซนส์เท่าไหร่
หากเมื่อเรามองถึงความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจเป็นตัวตั้ง…
…เช่น การปิดล้อมเวเนซุเอลารอบนี้ ที่ทางเวเนโวยวาย
ว่าเป้าหมายคือน้ำมัน ความจริงมันค่อนข้างตรงข้าม
และสหรัฐก็ไม่คุ้มที่จะสร้างสงครามเอาน้ำมัน
…เพราะในความเป็นจริง สหรัฐเองนั่นแหละ ที่ไม่อยากให้มี
ปริมาณน้ำมันในตลาดโลกเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน พวกเขาเลยพยายามบล็อกน้ำมันจากรัสเซีย อิหร่าน และเวเนซุเอลา
ด้วยข้ออ้างทางการเมือง …
…สหรัฐ ไม่ได้ต้องการให้น้ำมันในตลาดโลกมันถูกครับ
ไม่งั้นบริษัทน้ำมันที่ผลิตภายในสหรัฐจะเจ๊งหมด เพราะ
เมื่อ supply มันเพิ่ม ราคามันก็ตก บริษัทน้ำมันสหรัฐ
จะรอดได้ คือราคาน้ำมันตลาดโลก ต้องมากกว่า 60$
ต่อบาร์เรลขึ้นไปเท่านั้น…
…ดังนั้น ถ้าจะบอกว่าสหรัฐอยากได้น้ำมันเวเนซุเอลาไปขาย
เพื่อเอาเงิน มันจึงไม่ถูกต้อง แต่ถ้าบอกว่า เพื่อควบคุมไม่ให้
เวเนซุเอลาส่งออกน้ำมันไปถล่มตลาดได้ อันนี้จะถูกต้องกว่า….
กับเรื่องแร่หายากก็เป็นแบบเดียวกัน เนื่องจากสหรัฐรู้ดี
ว่าไม่มีทางที่จะได้ประโยชน์จากเรื่องนี้ ทำไปก็ขาดทุน
ยังไงจีนก็ควบคุมตลาดอยู่ถึงกว่า 80%มันเลยไม่คุ้มที่จะลงทุน
มันสายเกินไปแล้ว ที่จะไปตามจีนแบบนั้น
และถ้ามองยุทธศาสตร์ถึงการมีใช้หรือไม่ของสหรัฐเอง
มันก็ไม่ได้วิกฤตขนาดนั้น เมื่อมองจากการไปลงทุนเรื่องนี้
ทั่วโลกของบรรดาบริษัทสหรัฐเอง
…จะเห็นว่า ถ้ามองความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจแล้ว
มันจะไม่สมเหตุผลทันที กับการเที่ยวได้ไล่ยึดที่ของคนอื่น
…เพราะเมื่อคุณยึด มันก็เท่ากับคุณมีภาระกับการดูแลดินแดน
ที่เพิ่มเข้ามา ซึ่งมันก็ไม่ได้คุ้มเลยกับสิ่งที่ได้กลับไป…
บทเรียนความบักโกรกของจักรวรรดิอังกฤษในอดีต
ที่ผลาญไปกับอาณานิคมต่างๆ จนอ่อนแอ ก่อนสงครามโลก
ครั้งที่สอง คือบทเรียนที่มหาอำนาจทุกชาติรู้ และไม่เดินตาม
มหาอำนาจปัจจุบัน เลือกแนวทาง satellite state
มากกว่า เพราะไม่ต้องดูแล ก็กอบโกยได้เหมือนกัน
เช่นกรณีของจีน กับเมียนมาร์ เป็นอะไรที่ชัดเจนมาก
โลกเราจบยุคล่าดินแดนเพิ่ม เพื่อทรัพยากรมานานแล้วครับ
อันนี้คงต้องเลิกเพ้อเจ้อกันได้เสียที เพราะมันไม่คุ้มจริงๆ
…การล่มสลายจักรวรรดิ์อังกฤษ สอนบทเรียนขนาดนั้น มันก็คงไม่มีใครโง่ทำอะไรซ้ำรอยหรอก มหาอำนาจมันไม่ได้โง่ครับ ….
ใครที่ชอบคิดถึงการล่าดินแดนเพิ่ม ควรเข้าใจเรื่องนี้ด้วยนะครับ จะได้เลิกเพ้อว่าคนโน้นคนนี้จะมายึดเรา แบบสมัยอาณานิคมเสียที เขามาในรูปแบบอื่นครับ ….
อ้างความมั่นคง ฟังขึ้น !
สหรัฐนั้นอ้างอิงถึงการปฏิบัติการของเรือดำน้ำจากคู่อริ
อย่างรัสเซีย และจีนในแถบอาร์คติกว่า หนาแน่นมาก
ในดินแดนแถบกรีนแลนด์
และอ้างอิงคลังแสงนิวเคลียร์ของรัสเซีย ที่ขยับมาใกล้
พวกเขามากขึ้น ทางตะวันออกฝั่งแอตแลนติก
ตรงกรีนแลนด์เนี่ย เป็นเส้นทางที่ใกล้ที่สุด
จากยุโรปตอนเหนือมาสหรัฐนะครับ
แต่ที่ไม่ฮิตในการเป็นเส้นทางเดินเรือพาณิชย์นัก
ก็เนื่องจากสภาพดินฟ้าอากาศ มันไม่เอื้อให้ปลอดภัยนัก
ในอดีตที่เรือยังไม่ดีเท่าปัจจุบัน และมหาอำนาจฝั่งยุโรป
ก็อยู่ทางใต้ลงไป จึงมักใช้เส้นทางยิบรอลต้าเสียมากกว่า
แต่ปัจจุบัน เทคโนโลยีมันดีขึ้น มันไม่ใช่อุปสรรคแล้ว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเรือรบ และเรือดำน้ำ
สหรัฐมีความจำเป็นจริงๆ ที่จะต้องควบคุมเส้นทาง
นี้ไว้ให้ได้ เพื่อป้องกันตัวเอง โดยเฉพาะจากเรือดำน้ำ
และขีปนาวุธจากรัสเซีย
กับขีปนาวุธนั้น ถ้ารัสเซียโจมตีสหรัฐทางแอตแลนติก
จากแผ่นดินรัสเซียเอง มันจะต้องผ่านกรีนแลนด์ที่ใกล้ที่สุด
มันจึงจำเป็นจริงๆ ที่สหรัฐจะต้องสามารถเฝ้ามอง
และมีอิสระในการปฏิบัติการ เหนือฟากฟ้ากรีนแลนด์ได้
ในมุมกลับ
ถ้าสหรัฐครองกรีนแลนด์ได้ ก็เท่ากับเอาฐานทัพ
ฐานขีปนาวุธ ไปไว้เพื่อจ่อคอหอยรัสเซียได้แบบเต็มที่
และแทบจะปิดตายรัสเซียทางอาร์คติกได้แบบสมบูรณ์แบบ
เมื่อมองแบบร่วมกับแนวตั้งรับนาโต้หลังรับสวีเดน
เพื่อปิดทะเลบอลติกไปแล้วชั้นหนึ่ง
สำคัญจริงๆ ถ้าพูดถึงการเป็นพื้นที่ทางยุทธศาสตร์
ความมั่นคงของสหรัฐเอง และอาจรวมถึงยุโรปด้วย
มันไม่ใช่การพูดแบบเลื่อนลอยของทรัมป์เลย
ที่สำคัญที่สุด ที่ทำให้สหรัฐกังวลมาก
ก็คือว่า กรีนแลนด์และเดนมาร์กนั้น
ไม่มีขีดความสามารถพอ ที่จะป้องกันตัวเองเลย
มันง่ายมากหากรัสเซียจะยึด ในตอนนี้หรือกระทั่งอนาคต
ซึ่งนั่นถือว่าเป็นภัยร้ายแรงมาก ต่อความมั่นคงของสหรัฐ
ถึงได้บอกว่า จะว่าสหรัฐไร้เหตุผลด้านความมั่นคง มันไม่ใช่
…ที่จริง มันมีเหตุผลที่ดี และมีน้ำหนักมากเลยด้วยซ้ำ…
อย่างไรก็ตาม….
ไม่ว่าเหตุผลของสหรัฐจะดี หรือฟังขึ้นแค่ไหน
มันก็ไม่เปลี่ยนความจริงที่ว่า กรีนแลนด์เป็นของเดนมาร์ก
การพูดแบบนี้ของสหรัฐ แม้จะถูกต้อง แต่ก็ออกจะน่าเกลียด
และเห็นแก่ตัวไปมากๆ และสำหรับเดนมาร์กนี่ย่อมเป็น
การกระทำที่ไม่สามารถรับได้เลย
จริงๆแล้ว เดนมาร์กไม่เคยเป็นปฏิปักษ์กับสหรัฐ
และมีความสัมพันธ์ที่ดีมาตลอด
สหรัฐจึงไม่ควรใช้ท่าทีคุกคามในลักษณะนี้
หากสหรัฐเห็นว่ามีปัญหาจริงๆ ทางที่ถูกต้องกว่า
ก็ควรจะเอาใจเดนมาร์กให้มาก เพื่อขอความร่วมมือ
มีการเสนอผลประโยชน์ให้ เพื่อให้ได้ในสิ่งทีต้องการ
ในลักษณะที่วินวินทั้งสองฝ่าย
ไม่ใช่จะเอาแต่ได้อย่างเดียวอย่างที่ทรัมป์ทำ
เรื่องกรีนแลนด์ สหรัฐมองเห็นปัญหานี้มานานมากแล้ว
แต่ไม่มีใครมีท่าทีในลักษณะทรัมป์ อเมริกาเองที่ผ่านมา
ก็ใช้วิธีเอาใจเดนมาร์กมาตลอด ก็เพราะสิ่งที่ว่ามา
การกลับท่าทีแบบไร้มารยาทของทรัมป์
ไม่น่าจะส่งผลดีอะไรเลยต่อสหรัฐเอง
ซึ่งมันอธิบายยาก ว่าทรัมป์เกิดผีเข้าอะไรขึ้นมา
ถึงได้ไปขู่พันธมิตรที่แน่นแฟ้นมานานแบบนั้น
เดนมาร์กจริงๆ ไม่มีทางเลือกอยู่แล้ว
พวกเขาต้องพึ่งสหรัฐในด้านนี้เต็มๆ ทั้งอาวุธ
และอาศัยกองทัพสหรัฐ ป้องกันตัวจากรัสเซีย
การกระทำของทรัมป์ จึงไร้สาระถึงขีดสุด
และยิ่งสร้างความไม่ไว้ใจในหมู่พันธมิตรตะวันตก
ให้ร้าวมากขึ้นไปอีก หลังกรณีของยูเครน
การทูตยุคทรัมป์ ไม่ใช่อะไรที่เป็นสหรัฐเลย
และจริงๆ ก็ไม่น่าเป็นผลดีกับสหรัฐเลยสักนิดเดียว
ทรัมป์ทำไปเพื่ออะไร มันไม่มีคำอธิบายกับเรื่องนี้จริงๆ
…หรือบางที นี่อาจเป็นออเดอร์จากเคลมลินส์
ที่มีต่อสหาย Krasnov ก็เป็นไปได้นะ 555…..
การช่วงชิงพื้นที่ยุทธศาสตร์ มันเคยหายไปพักนึง
หลังจากสงครามเย็นได้จบสิ้นลง
แต่เมื่อรัสเซียเปิดสงครามในยูเครน ทุกอย่างก็กลับมาเหมือนเดิม แถมเพิ่มเติมจีนเข้ามาในสมการเข้าไปอีก
สิ่งนี้จะทำให้ทั้งโลกยุ่งเหยิง ซึ่งไม่ใช่เรื่องดีเลย
ในทุกมิติ ไม่ว่าจะความมั่นคง หรือเศรษฐกิจ มันจะแย่ไปหมด
จากสิ่งที่เรียกว่า โลกหลายขั้ว
มันจริง ที่ในยุคสหรัฐครองโลก สหรัฐเอาเปรียบ
และเอาแต่ใจตัวเองมากไป
แต่สิ่งที่โลกได้ ก็คือความสงบสุข ชาติเล็กๆเอง
ก็ไม่กล้ามีปัญหาต่อกัน เพราะทุกฝ่ายต้องมองหน้าสหรัฐ
เพียงผู้เดียว และไม่กล้าเสี่ยง เพราะไม่รู้ว่าสุดท้าย
หลังมีปัญหาแล้ว ดาบของสหรัฐจะไปลงฝ่ายไหน
ปัจจุบัน ชาติใหญ่ชาติเล็ก กล้ามีปัญหากันเองมากขึ้น
เพราะรู้ว่า หากเกิดความขัดแย้ง ก็จะเรียกมหาอำนาจ
สองฝ่ายมาคานกันได้ เพราะมหาอำนาจ จะมองที่การหา
พื้นที่ทางยุทธศาสตร์ความมั่นคงในปัจจุบันมากที่สุด
มันทำให้จอมทรราช เข่น ฮุนเซน หรือใครก็ตาม
ที่มีพฤติกรรมคล้ายกัน ที่ดูแลพื้นที่ยุทธศาสตร์อยู่
สามารถเรียกราคา และผลประโยชน์ให้ตัวเองได้
ซึ่งนั่น ทำให้แนวโน้มความขัดแย้บนโลกใบนี้ หลายภูมิภาค
ลุกบานปลายไปเรื่อยๆ และจะยิ่งมากขึ้น ตามความตึงเครียด
ระหว่างมหาอำนาจ
ทรราชชอบครับ มันเรียกผลประโยชน์ง่าย
มหาอำนาจต้องแข่งกันจ่าย แบบไม่มีเงื่อนไขให้พวกนี้
เพื่อความได้เปรียบของมหาอำนาจเอง
ในไทย หลายคนสนับสนุนโลกหลายขั้ว เพราะเอือมสหรัฐ
ซึ่งนั่นก็ไม่ผิดอะไร ที่จะไม่ชอบถูกกดขี่
…แต่ถ้าถามว่าไทยได้อะไรจากโลกหลายขั้วล่ะ…???
…ความจริงคือเราไม่ได้อะไรเลย แถมมีแต่ผลเสีย…
…บางครั้ง ผมจึงไม่เข้าใจคนพวกนี้เหมือนกัน ว่าทำไม
เราจึงไม่มองผลประโยชน์ประเทศ ก่อนอารมณ์ทางการเมือง…
…สงครามกับเขมร มันอาจเป็นแค่จุดเริ่มเท่านั้น…
…ภูมิภาคนี้ ยังต้องเผชิญกับการรุมทึ้งของมหาอำนาจ
หลายขั้วไปอีกนาน ก็เตรียมรับผลของมันเถอะ…
…เพราะมันจะมีบางกลุ่ม บางคน ที่ได้ประโยชน์ เงินทอง
และอำนาจ จนก่อเรื่องขึ้นมาอีกแน่นอน …
เป็นไงล่ะ สนุกไหมครับ โลกหลายขั้วที่อยากได้กัน
…มันไม่ใช่แค่มหาอำนาจซัดกันเอง แล้วเรารอดหรอกนะ…
เมื่อช้างสารเค้าชนกัน…คงมีแต่หญ้าแพรกโง่ๆ เท่านั้นแหละ
ที่คิดว่าตัวเองรอด หรือได้ประโยชน์ โดยไม่แหลกลงไปด้วย
…ขอให้มีความสุข กับโลกหลายขั้วนะครับ ….
https://www.investing.com/news/world-news/explainerwhy-does-trump-want-the-us-to-control-greenland-4421382
สหรัฐอเมริกา
การเมือง
russia
1 บันทึก
5
2
1
5
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย