4 ก.ค. 2020 เวลา 01:57 • สุขภาพ
เรื่องเล็บไม่ใช่เรื่องเล็ก ควรใส่ใจก่อนที่จะต้องทนทรมานกับอาการเจ็บปวดกันเถอะ
เล็บขบ คือ สภาพเล็บที่งอกเข้าไปจิกบาดเนื้อเยื่อบริเวณข้างๆ เล็บ ทำให้เกิดอาการเจ็บปวดมีการอักเสบบวมแดง ถ้าเป็นมากๆ ก็อาจมีหนองร่วมด้วย ซึ่งจะสร้างความทุกข์ทรมานสำหรับคนที่เป็น แค่อักเสบก็ทำให้เจ็บจะแย่แล้ว ถ้าหากเป็นหนองหรือติดเชื้อหนักๆ ขึ้นมา อาจถึงขั้นต้องถอดเล็บเลยทีเดียว เป็นคมเล็กๆ ข้างเล็บที่ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ให้เกิดปัญหาขึ้นมาจริงๆ
/canva
สาเหตุของการเกิดเล็บขบ
1. เกิดจากการตัดเล็บที่ไม่ถูกต้อง
โดยการตัดมุมเล็บออกไปด้วย ทำให้เล็บที่งอกขึ้นมาใหม่มีมุมคมที่ทำให้ทิ่มเนื้อเยื่อข้างเล็บจนบาดเจ็บได้ วิธีแก้ไขคือควรตัดเล็บให้มีแนวตรงและเหลือมุมเล็บเอาไว้ เพื่อปล่อยให้เล็บงอกไปตามธรรมชาติ
2. การใส่รองเท้าที่ไม่เหมาะสมกับรูปเท้า
โดยเฉพาะคนเท้าใหญ่แต่ใส่รองเท้าหัวเรียวปลายแหลมทำให้นิ้วเท้าต้องเบียดกัน เมื่อใส่เดินไปนานๆ จะทำให้เล็บขบถูกกดแล้วเข้าไปทิ่มบาดกับเนื้อเยื่อข้างเล็บทำให้เกิดเป็นอาการเล็บขบ ถ้าเจ็บมากๆ บางทีถอดรองเท้าออกมาถึงกับเลือดท่วมเลยก็มีนะ
3. เกิดจากการเล่นกีฬา
การเล่นกีฬาบางชนิดก็ทำให้สามารถเกิดเล็บขบได้ เพราะต้องเคลื่อนไหวมากและต้องใส่รองเท้าที่คับพอดีเท้าอย่างเช่น บาสเกตบอล ฟุตบอล วอลเลย์บอล วิ่ง ยิ่งถ้าตัดเล็บไม่ถูกวิธีด้วยยิ่งมีโอกาสเป็นได้สูงที่จะต้องมาพบกับปัญหาเล็บขบได้นั่นเอง
4. เกิดจากอุบัติเหตุ
เกิดจากความซุ่มซ่ามเองเป็นส่วนใหญ่ อย่างเช่น การเดินเตะโต๊ะ ตู้ เตียง เก้าอี้ มีส่วนที่ทำให้เล็บผิดรูปทรงไปจากปกติได้ และทำให้เล็บเข้าไปกดเนื้อเยื่อข้างในให้บาดเจ็บได้
วิธีตัดเล็บไม่ให้เกิดเล็บขบ ควรทำตามนี้
1. ตัดเล็บแค่ส่วนที่เป็นสีขาวออกไป
ธรรมชาติสร้างส่วนที่เป็นเล็บสีขาวมาให้เรารู้อยู่แล้วว่า เราควรตัดเล็บส่วนเกินออกแต่เพียงแค่นั้น ไม่ควรตัดลึกไปกว่านี้ เพราะการตัดลึกเกินไปทำให้เจ็บและมีส่วนเนื้อใต้เล็บไม่ได้รับการปกป้องนั้นบาดเจ็บและทำให้เล็บที่ขึ้นใหม่เสียรูปทรงเอาได้
2. ไม่แคะขี้เล็บแซะเล็บเวลาตัด
หลายๆ คนมักมีนิสัยเมื่อเห็นขี้เล็บหรือส่วนเกินต่างๆ แล้วทนไม่ได้ อยากจะทำความสะอาดให้หมดจดด้วยการหาตะไบหรือว่าไม้แซะเล็บต่างๆ มาแคะมาขูดพวกขี้เล็บเศษเนื้อต่างๆ ออกไปจนหมด แต่ว่าการใช้ของพวกนั้นแซะเล็บก็มีส่วนทำให้เล็บผิดไปจากรูปร่างเดิม อาจทำให้เล็บที่เกิดขึ้นใหม่นั้นแทงทะลุเนื้อเยื่อ ก่อให้เกิดเป็นเล็บขบเอาได้ค่ะ อันนี้ปล่อยมันเถอะค่ะ ยิ่งทำจะยิ่งเป็นเล็บขบเอาได้ค่ะ
3. ไม่ตัดเล็บแหลมที่มุมเล็บ หรือแต่งเล็บให้เป็นเหลี่ยมๆ
สาวๆ อย่างเราย่อมอยากที่จะได้เล็บที่สวยสำหรับการทาเล็บนั่นเอง หากมุมเล็บดูเหลี่ยมๆ หน่อยเวลาทาออกมาแล้วจะดูสวย แต่ก็เป็นเรื่องที่ไม่ดีสำหรับการไว้เล็บแบบธรรมชาติเลย นั้น เมื่อเล็บยาวขึ้นมุมเล็บที่แหลมคมก็ทำให้ส่วนที่แหลมนั้นแทงทะลุเข้าไปในเนื้อเยื่อได้ อาจทำให้เจ็บและอักเสบนั่นเอง ทางที่ดีควรตัดขอบเล็บให้มีความมนไม่มีมุมแหลมไว้ทิ่มเนื้อดีกว่าค่ะ
4. ไม่ปล่อยเล็บยาวเกินไป
เล็บเท้าเป็นส่วนที่หลายๆ คนมักจะละเลยไม่ได้ให้ความใส่ใจกันเท่าไหร่นัก แต่ที่จริงแล้วเราควรหมั่นดูแลและตัดเล็บอยู่เป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อที่จะได้เห็นปัญหาและแก้ไขได้ทันหากว่าเล็บมีความผิดปกติไปจากเดิมนั่นเอง ถึงได้มีคนบอกว่าคนที่ดูแลเล็บดี คือคนที่ให้การใส่ใจเรื่องการดูแลตัวเองดีมากนั่นเอง
5. กรรไกรตัดต้องคม
ถ้าเราใช้กรรไกรตัดเล็บที่ไม่ดีและอาจจะตัดเล็บได้ไม่หมด ทำให้เล็บโดนตัดไม่สุดหรือมีการตัดแล้วดึงกรรไกรออกจากเล็บ โดยที่เล็บไม่ขาดกระเด็ดออกไปเอง อาจทำให้ลึกมีการฉีกแหว่งเข้าไปในเนื้อหรือปลายนิ้วทำให้เกิดเป็นแผลเอาได้ ดังนั้นแล้วหากกรรไกรตัดเล็บที่ใช้อยู่เริ่มไม่ดีก็ควรที่จะเปลี่ยนใหม่เสีย เพื่อลดความเสี่ยงที่จะบาดเจ็บเวลาตัดเล็บเอาได้ค่ะ
6. ไม่ฉีกหรือดึงเล็บ
หลายๆ คนชอบใช้วิธีกัดเล็บ ฉีกเล็บแทน การตัดเล็บ หรือถ้าหากว่าเล็บฉีกมีขนจมูกเล็บขึ้นมาก็จะดึงออกโดยที่ไม่ได้ใช้กรรไกรตัดเล็บ อยากบอกว่าเป็นวิธีที่ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง เพราะถ้าฉีกเล็บจะทำให้เล็บหลุดออกแบบไม่เป็นระเบียบเท่ากับการใช้กรรไกร อาจจะกินเนื้อเล็บมากไปจนเลือดออกเป็นแผลได้ เล็บที่ขึ้นใหม่อาจผิดรูปและมุมเล็บที่แทงเข้าไปในเนื้อเยื่อได้
ขนจมูกเล็บก็เช่นเดียวกันแม้จะเป็นเศษเนื้อเล็กๆ ข้างเล็บ แต่การดึงหรือฉีกออกจะทำให้เนื้อเยื่อรอบๆ เล็บเสียหายได้ นอกจากจะได้แผลและเลือดออกแล้ว การดึงขนจมูกเล็บบ่อยๆ เสี่ยงต่อการป่วยเป็นโรคต่อมน้ำเหลืองอักเสบเอาได้ด้วยนะคะ
7. หลังตัดเล็บควรตะไบเล็บให้มน
การตะไบเล็บคือการที่ทําให้เล็บมีความทู่ ไม่มีเหลือความคมที่จะทำให้เกิดอันตรายกับเราได้ เพราะเล็บที่ตัดใหม่ๆ บางทีก็จะมีมุมที่แหลมคมหลงเหลืออยู่ ดังนั้นแล้วหลังจากที่ตัดเล็บเสร็จแล้ว ควรตะไบเล็บให้หมดความคมลงไปไม่เหลือส่วนแหลมคมทิ้งไว้ โดยเฉพาะข้างมุมเล็บก็จะช่วยลดความเสี่ยงจะเป็นเล็บขบเมื่อเล็บยาวขึ้นด้วยค่ะ
8. หากว่านิ้วหรือเล็บเป็นแผลควรทำการดูแลรักษาให้ดี
เมื่อเกิดแผลที่นิ้วหรือเล็บ ควรรีบทำการรักษาไม่ว่าจะเป็นการใช้ยาฆ่าเชื้อ ใช้พลาสเตอร์ปิดแผล ดูแลความสะอาดอย่างเคร่งครัด จนกว่าแผลจะหาย หากมีอาการปวดบวมอักเสบมากกว่า 3 วัน ควรพบแพทย์เพื่อทำการตรวจรักษาอย่างละเอียดอีกทีค่ะ
9. ใส่รองเท้าที่มีความพอดีเท้า
ไม่ควรสวมใส่รองเท้าที่คับ แน่นและบีบรัดนิ้วเท้ามากจนเกินไป ถ้าเลือกได้ควรเลือกรองเท้าที่ปลายเท้าไม่บีบเข้าหากัน หรือคับแน่นจนทำให้เวลาเดินรู้สึกทรมานและลำบาก เพราะถ้าใช้เดินไปนานๆ อาจจะทำให้นิ้วเท้าบาดเจ็บและเป็นแผลเอาได้ค่ะ
10. บำรุงเล็บสม่ำเสมอ
แล้วถ้ารู้ตัวว่าเล็บตัวเองไม่แข็งแรง เปราะหักหรือฉีกขาดง่าย ก็ควรบำรุงเพิ่มเติมด้วยการใช้โลชั่นน้ำมันมะกอกหรือน้ำมันมะพร้าวมาทาบำรุงดูแลเล็บหลังตัดเล็บและก่อนเข้านอนเป็นประจำ ก็จะให้เล็บแข็งแรงสวยงามได้แล้วล่ะค่ะ
ที่นี้คุณสาวๆ ก็จะได้ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานกับอาการเจ็บที่ต้องเป็นเล็บขบอีกต่อไปแล้วนะคะ แค่ดูแลตัดเล็บ อย่างถูกวิธีเพียงเท่านี้ ก็ห่างไกลจากการเป็นเล็บขบได้แล้วล่ะค่ะ
สรุปวิธีการตัดกันอีกรอบ
/canva cr.pic : https://www.coolbsfashion.com/Nails-c39489.html?papillonspa.com.au
บทความ โดย : Akine_noxx
เผยแพร่ครั้งแรกในเว็บ Spice/Pepper
ฝากติดตาม กดไลค์ กดแชร์ คอมเม้นท์เป็นกำลังใจกันด้วยนะคะ
โฆษณา