4 ก.ค. 2021 เวลา 02:09 • สุขภาพ
รู้จักกับ “ไคลโนมาเนีย” เช็คด่วนเลย!!! คุณเป็นคนหนึ่งที่เสพติดการนอนอยู่หรือเปล่า?
นี่ถือเป็นอีกเช้าที่ผมปล่อยให้เสียงปลุกจากโทรศัพท์มือถือ ทำหน้าที่รบกวนการนอนของตัวเองต่อไปโดยไม่มีทีท่าว่าจะปิดมัน!!!
1
แน่นอนว่ามันกินเวลานานหลายนาที กว่าที่ผมจะเอื้อมมือไปทำให้เสียง “เรดาร์” ที่ดังเป็นชุดอยู่นั้นเงียบสงบลง
1
ก่อนที่จังหวะต่อมาผมจะค่อยๆ ขยับตัวลุกขึ้นนั่งบนเตียงพร้อมกับหาวกว้างเหยียด จากนั้นก็บิดขี้เกียจยืดยาวราวกับ “Cheese Toast” ซึ่งทุกการกระทำนั้นบ่งบอกว่าผมยังคงอาลัยอาวรณ์เตียงนุ่มๆ นี้อย่างมากมาย
จากการที่ได้ลองสังเกตตัวเองก็พบว่าที่ผ่านมาผมเป็นอย่างนี้บ่อยมาก ยิ่งวันก่อนนี่หนักเลย ขลุกอยู่บนเตียงนอนทั้งวันตั้งแต่เช้ายันเย็น!!!
แล้วไอ้ความอยากรู้อยากเห็นส่วนตัวก็บอกให้ผมนำอาการของตัวเองไปเสิร์จดูในกูเกิลทันที
“ไคลโนมาเนีย” ท่ามกลางการประมวลผลคำอันยาวเหยียดยังกับบิลโลตัส ดูเหมือนคำๆ นี้จะสะดุดตาผมมากที่สุดแล้ว
ว่าแต่มันคืออะไรกันนะ?
ไคลโนมาเนียคืออะไร?
ไคลโนมาเนีย (Clinomania) นั้นมีรากศัพท์มาจากภาษากรีก โดยคำว่า “clino-” นั้นหมายถึงเตียงนอน ส่วน “-mania” หมายถึง การติดอยู่กับสิ่งนั้น รวมกันก็จะประมาณ “การติดอยู่กับเตียงนอน” นั่นเอง
1
ซึ่ง Dr. Mark Salter จาก Royal College of Psychiatrists ได้อธิบายให้เราเข้าใจได้ง่ายๆ ว่า ไคลโนมาเนีย มันคือความรู้สึก “ไม่อยากลุกขึ้นจากเตียงนอนในตอนเช้า” โดยบางครั้งมีผลมาจากภาวะซึมเศร้า รวมถึงการอ่อนล้าเรื้อรังของร่างกาย และจิตใจ โดยอาจมาจากสิ่งที่เราต้องเจอในแต่ละวันไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิตหรือว่าการทำงาน ซึ่งเมื่อสะสมมากเข้าก็ส่งผลให้เกิดภาวะต่อมหมวกไตล้า จนนำมาซึ่งอาการติดเตียงในที่สุด และนี่อาจส่งผลต่อเนื่องให้พัฒนาเป็นโรคซึมเศร้า หรือโรคจิตอารมณ์อื่นๆ ตามมาได้ด้วยเช่นกัน
2
ที่จริงแล้วอาการของไคลโนมาเนียนั้นเป็นอย่างไร?
เรียกแบบบ้านๆ ให้เห็นภาพชัดๆ ก็คงจะอาการประมาณ “เตียงดูด” นั่นแหละ กล่าวคือผู้ที่มีอาการนี้นั้นจะไม่อยากจะลุกไปไหน หรือว่าทำอะไรทั้งนั้น ซึ่งหากเป็นหนักแล้ว ก็จะส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ เพราะจะว่าไปไคลโนมาเนียนั้นถือว่าเป็นโรคจิตเบาๆ ชนิดหนึ่งก็ว่าได้
อาการทางกาย
1. อ่อนเพลียเรื้อรัง
2. รู้สึกไม่สดชื่น งัวเงียอยู่ตลอดเวลา
อาการทางจิต
1. คอยบอกตัวเองว่าต้องการนอนอยู่ตลอดเวลา ซึ่งในบางรายนั้นจะมีภาวะเครียดปะปนอยู่ด้วย
1
2. รู้สึกเครียด และเป็นกังวลว่าจะถึงเวลาที่ต้องตื่นนอน หรือต้องลุกขึ้นจากเตียง เพราะความสุขที่สุดของชีวิตคือการได้อยู่บนเตียงทั้งวันนั่นเอง
3. ถ้าต้องทำกิจกรรมใดก็อยากที่จะทำบนเตียงเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นดูโทรทัศน์ เล่นโทรศัพท์มือถือ เล่นเกม อ่านหนังสือ ฯลฯ หรือ แม้กระทั่งกินก็ตาม
4. กว่าจะลุกจากเตียงได้ในแต่ละครั้งนั้นมักจะอ้อยอิ่งใช้เวลานาน
5. เตียงนอน คือที่แรกที่คิดถึง ไม่ว่าจะสุขหรือเศร้าก็ตาม ซึ่งแม้ว่าจะใช้ชีวิตอยู่นอกบ้าน ก็รู้สึกอยากให้มีเตียงมาอยู่ใกล้ๆ ด้วย และรอคอยช่วงเวลาที่จะได้กลับไปอยู่บนเตียงอยู่ตลอดเวลา
แล้วจะแยกแยะได้ยังไงว่าเราเป็นไคลโนมาเนียอยู่หรือเปล่า?
นอกจากอาการที่พูดถึงข้างต้นแล้ว ถ้าคนปกติทั่วไป อยากนอนต่อเพราะความอ่อนเพลีย ก็คงจะนอนแค่ 1-2 ชั่วโมงก็หายแล้ว แต่คนที่เป็นไคลโนมาเนียไม่เป็นแบบนั้น พวกเขาจะนอนยาวไปเรื่อยๆ แม้จะไม่ได้รู้สึกอ่อนเพลียหรือง่วงเลยก็ตาม
ไคลโนมาเนียรักษาได้อย่างไร?
ในการรักษาสามารถทำได้ 3 กรณี ดังนี้
1. การออกกำลังกาย
ในกรณีที่อาการของไคลโนมาเนียอยู่ในระยะเริ่มต้น จิตแพทย์อาจจะแนะนำให้ผู้ป่วยลองออกกำลังกายดูก่อน นั่นก็เพราะการออกกำลังกายนั้นเป็นวิธีหนึ่ง ที่ช่วยเพิ่มความรู้สึกสดชื่น และกระปรี้กระเปร่าได้ตามธรรมชาตินั่นเอง
2. การปรับพฤติกรรมการบริโภค
บางทีความอ่อนเพลียจนทำให้รู้สึกอยากนอนทั้งวันนั้นอาจเป็นเพราะร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ หรืออาจเป็นเพราะพฤติกรรมการบริโภคอาหารชวนง่วงเป็นประจำจนทำให้เกิดอาการ ไคลโนมาเนียได้เช่นกัน ดังนั้นถ้าวันไหนที่นอนทั้งวันจนรู้สึกไม่สดชื่น ลองดื่มกาแฟเพิ่มความสดชื่นให้ร่างกายดู หรือจะดื่มน้ำหวานเย็นๆ ดูก่อนก็อาจจะช่วยได้นะ
3. การใช้ยารักษา
โดยวิธีนี้จะใช้กับผู้ป่วยที่มีอาการติดเตียงขั้นรุนแรงเป็นหลัก และการใช้ยานั้นจะอยู่ภายใต้การดูแลของจิตแพทย์เท่านั้น ซึ่งโดยส่วนมากจิตแพทย์จะเลือกใช้ยาที่มีฤทธิ์ต่อเซโรโทนิน (serotonin) กล่าวคือนี่จะเป็นการบำบัดด้วยการปรับฮอร์โมนที่ส่งผลต่อการนอนหลับ และอารมณ์ความรู้สึกของผู้ป่วย ซึ่งในทางปฏิบัติแล้วก็จะคล้ายการรักษาโรคเครียด และโรคซึมเศร้านั่นเอง
สรุปแล้วพฤติกรรมบางอย่างที่เราคิดว่าเป็นความเคยชิน ทำจนติดเป็นนิสัย อย่างการนอนกินบ้านกินเมือง แท้จริงแล้วอาจบ่งบอกได้ถึงความไม่สบายกายไม่สบายใจของเราก็ได้นะ ฉะนั้นหมั่นสังเกตอาการของตัวเอง และคนรอบข้างอยู่เสมอก็จะดีมากๆ ครับ
1
อย่างไรก็ตาม ถ้าไม่แน่ใจก็ควรไปพบแพทย์ เพื่อที่จะรับการประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง และรักษาอย่างถูกวิธีต่อไป
ผมทำบทความนี้จบไปได้หลายนาทีแล้ว มาถึงตรงนี้ฟันธงได้เลยว่า ตอนนี้ผมไม่ได้เป็น “ไคลโนมาเนีย” อย่างแน่นอน แต่ถ้าจะให้อธิบายอาการที่ผมเป็นในตอนเช้าในช่วงนี้นั้น แถวบ้านเรียกไม่ซับซ้อนว่า “ขี้เกียจ” ครับผม!!! 555
2
เรื่องบนเตียง - บอย Peacemaker
ทั้งนี้ยืนยันว่าบทความของผมไม่ใช่คำตอบ หรือบทสรุปที่ดีที่สุด ทุกท่านควรใช้วิจารณญาณส่วนตัวในการรับข้อมูลด้วยนะครับ
ขอบคุณทุกการตอบรับ ไม่ว่าจะเป็นการติดตาม ไลค์ คอมเมนท์ หรือว่าแชร์ ทุกกำลังใจสำคัญสำหรับผมเสมอ
ติดตามอ่านบทความได้ที่
ขอบคุณทุกคนครับ
แล้วพบกันใหม่ในโพสต์หน้า
สวัสดีครับ
ขอบคุณเจ้าของรูปภาพทุกท่าน
ขอบคุณที่มาจาก
โฆษณา