28 ก.ย. 2021 เวลา 09:51 • การตลาด
6 เทคนิคการขายของออนไลน์ผ่าน LINE Official Account
1. ตอบกลับลูกค้าใน 5 นาที
LINE แนะนำให้ตอบกลับลูกค้าอย่างช้าที่สุดภายใน 5 นาที ใช้ภาษาสุภาพและเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย เพื่อสร้างความไว้วางใจ, มีสกิลการขาย (Cross-sell / Upsell) พร้อมให้คำแนะนำลูกค้าอย่างใจเย็น และจริงใจ และที่สำคัญคือ อย่าเร่งรัดลูกค้า
2. ส่งคอนเทนต์อย่างน้อยวันละ 1 ชิ้น
ควรส่งคอนเทนต์ หรือข้อความที่น่าสนใจ เพื่อโปรโมทร้านค้าอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละ 1 ชิ้น โดยอาจจะเป็นรูปภาพสินค้าสวยๆ วิดีโอเท่ๆ หรือข่าวสารที่เป็นประโยชน์กับลูกค้า
3. จัดแคมเปญกระตุ้นยอดขาย
การจัดแคมเปญกระตุ้นยอดขาย ช่วยดึงดูดความสนใจจากลูกค้าได้อย่างดี และช่วยเพิ่มยอดขายอย่างรวดเร็วในระยะสั้น ผู้ประกอบการยังสามารถใช้ความคิดสร้างสรรค์กิจกรรมแปลกใหม่ๆ ได้หลากหลาย
4. อัดฉีดโฆษณาบนแพลตฟอร์ม
ถ้าสินค้าหรือบริการเราดี แต่ถ้าผู้บริโภคไม่รู้ ก็ไม่เกิดยอดขาย และด้วยการแข่งขันที่สูงขึ้นอย่างทุกวันนี้ การสื่อสารผ่านช่องทางของร้านอย่างเดียวอาจไม่พอ การซื้อพื้นที่โฆษณาจะยิ่งช่วยเพิ่มโอกาสให้ร้านค้าเป็นที่รู้จักในวงกว้าง หรือในกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ซึ่งเดี๋ยวนี้ในหลายๆ แพลตฟอร์มรวมถึง LINE OA ก็เปิดให้ร้านค้าสามารถซื้อโฆษณาได้ด้วยตัวเองแล้ว
5. ใช้ฟีเจอร์ให้เป็น
ศึกษาและเข้าใจฟีเจอร์ต่างๆ ที่ช่วยประหยัดเวลาในการขายและส่งเสริมให้การติดต่อกับลูกค้าเกิดประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะสร้างการรับรู้ หรือปิดการขาย
6. รักษาลูกค้าเก่า
หลายๆ ธุรกิจอาจจะโฟกัสกับการขยายฐานลูกค้าด้วยการหาลูกค้าใหม่ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนไม่น้อย แต่อย่าลืมการรักษาลูกค้าที่เคยซื้อของกับเราและพึงพอใจกับสินค้าและการให้บริการกับเรา การวางแผนกิจกรรมสำหรับสร้างสัมพันธ์กับลูกค้าเก่าให้ดี ก็สามารถสร้างยอดขายให้กับร้านค้าได้โดยไม่ต้องลงทุนสูงเท่ากับการหาลูกค้าใหม่
นรสิทธิ์ สิทธิเวชวิจิตร รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายการพาณิชย์ บริษัท ไลน์ คอมพานี (ประเทศไทย) อธิบายว่า Social Commerce ถือเป็นกลยุทธ์การทำธุรกิจในปัจจุบันที่เข้าถึงคนเอเชีย โดยเฉพาะคนไทยได้เป็นอย่างดี จะเห็นได้ว่า Social Commerce ในประเทศไทยและรวมถึงแถบเอเชีย เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง จนทำให้ประเทศฝั่งตะวันตกเริ่มมีการลองกลยุทธ์ Social Commerce มากขึ้นจากเดิมที่ซื้อขายกันผ่านเว็บไซต์เป็นหลัก รวมไปถึง Marketplace ใหญ่ๆ ระดับโลกยังเริ่มมีการทำ Social Commerce มากขึ้นในปัจจุบัน ทำให้เห็นว่า Social Commerce กำลังจะเป็นอนาคตของ E-Commerce ไม่ใช่แค่ช่องทางหนึ่งในการทำ Omni Channel แต่เป็นการสร้างความสัมพันธ์แบบยั่งยืนให้กับลูกค้า ซึ่งเป็น Value ที่สำคัญที่สุดที่กลยุทธ์หรือช่องทางอื่นไม่สามารถทำได้
พร้อมกันนี้ นรสิทธิ์ ยังได้แนะนำข้อคิดสำคัญๆ สำหรับการทำ Social Commerce ไว้ 4 ข้อ คือ
1) Trust Over Price เน้นความเชื่อใจ ไว้วางใจ มากกว่าราคา
2) Personalized Treatment การตอบรับและสนองความต้องการในระดับบุคคล ปัจจุบันแบรนด์ที่ตอบสนองลูกค้าได้ตรงใจที่สุดจึงจะเป็นแบรนด์ที่รักของลูกค้า ผู้ค้าขายในโลกของ Social Commerce จึงต้องออกแบบการ Treat ลูกค้าให้เป็น Personalize
3) Ease of Ordering ความง่ายในการซื้อขาย นอกจากความไว้เนื้อเชื่อใจแล้ว ความง่ายและสะดวกในการซื้อขาย ก็นับเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการทำ Social Commerce แบรนด์ต้องทำให้ลูกค้ามีความสะดวกในการซื้อมากที่สุด ไม่บังคับลูกค้าว่าจะซื้อผ่านช่องทางไหน
4) Retention Over Acquisition คงลูกค้าประจำ พร้อมหาลูกค้าใหม่อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามในการทำ Social Commerce คือการรักษาไว้ซึ่งลูกค้าประจำ
โฆษณา