14 ต.ค. 2021 เวลา 05:00 • ข่าวรอบโลก
#10 The Brain Club : Vintage เมื่อถุงน่องขาดตลาด
ถุงน่องคือไอเทมยอดนิยมสำหรับผู้หญิงเสมอมา แต่จะเกิดอะไรขึ้นหากวันหนึ่งไม่มีถุงน่องให้พวกเราใช้เพียงพอกับความต้องการที่ไม่เคยหมดไป
ชื่อบทความอาจดูเหมือนหลุดมาจากหนังสยองขวัญยุค 90 แต่ความจริงไม่มีอะไรน่ากลัวขนาดนั้นครับ เพราะในบทความนี้คือเรื่องราวของ " ถุงน่อง " สินค้าสุดแสนจะธรรมดาที่ครั้งหนึ่งเคยสร้างเรื่องราวสุดแปลกบนแผ่นดินอเมริกันในยุคสงครามโลก
ในอดีตถุงน่องผู้หญิงถ้าจะได้ชื่อว่ามีคุณภาพระดับเกรดเอ ต้องผลิตมาจากผ้าไหมชั้นดีเท่านั้น แต่ค่านิยมดังกล่าวได้แปรเปลี่ยนไปในปี 1939 เมื่อบริษัท " ดูปองท์ (DuPont) สัญชาติอเมริกันได้ริเริ่มการนำไนลอนมาเป็นวัสดุหลักในการผลิตแทนผ้าไหม
ถุงน่องไนลอนถูกวางขายแบบจำกัดครั้งแรกในเดือนตุลาคมปีเดียวกัน เพื่อติดตามกระแสตอบรับของตลาด ซึ่งผลที่ได้ตรงตามเป้าหมายเพราะถุงน่องไนลอนจำนวน 4 ล้านคู่ขายหมดภายเวลาเพียงแค่สองวัน จึงมีการเปิดตัวสินค้าผ่านร้านตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศในอีกหนึ่งปีต่อมา
ด้วยอำนาจนิยมของความแปลกใหม่ ทำให้หญิงสาวอเมริกันในยุคนั้นต่างพากันแห่ซื้อถูกน่องไนลอนกันจนเกลี้ยงแผง ถึงแม้ว่าราคาจะสูงพอๆ กับถุงน่องผ้าไหมก็ตาม
ด้วยความนิยมเกินต้านทานนี้เอง ทางบริษัทดูปองท์จึงต้องเร่งการผลิตเพื่อให้ทันกับความต้องการซื้อที่เพิ่มมากถึงขีดสุด แต่ผลิตออกมาเท่าไหรก็ยังไม่เพียงพอ เพราะสาวๆ อเมริกันก็ยังบ่นไม่ขาดปากว่า " ของมันมีไม่พอ "
เวลาผ่านล่วงเลยมาจนถึงปี 1942 เป็นช่วงที่สหรัฐอเมริกาได้ตบเท้าเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่สองอย่างเป็นทางการ อย่างที่เราทราบกันดีว่าสงครามครั้งนี้มันส่งผลกระทบต่อชีวิตผู้คนมากขนาดไหน
แต่ในอีกแง่มุมเล็กๆ ที่หลายคนอาจไม่เคยรู้ว่าบนแผ่นดินอเมริกาในช่วงเวลานี้คือฝันร้ายของผู้หญิงโดยแท้จริง เนื่องจากพวกเธอไม่สามารถหาซื้อถุงน่องไนลอนมาสวมใส่ได้เพียงพอกับความต้องการนานถึง 3 ปี
สาเหตุเกิดจากวัสดุมีไม่เพียงพอกับการผลิต เพราะไนลอนจำนวนมหาศาลถูกเหมาซื้อโดยกองทัพอเมริกัน เพื่อนำไปใช้เป็นวัสดุทดแทนในการผลิตร่มชูชีพทหาร เชือก และตาข่าย
แน่นอนว่าเมื่อเกิดปัญหาย่อมมีวิธีแก้ปัญหาตามมาเสมอ จนเกิดเป็นไอเดียสุดแหวกแนวที่ได้รับความนิยมจนกลายเป็น " ถุงน่องหนังมนุษย์ " แฟชั่นแห่งยุคสมัยสำหรับสาวอเมริกัน
ร้านเสริมสวยหลายร้านเปิดรับงานเสริม โดยการวาดถุงน่องจำลองบนขา โดยให้อิสระตามความต้องการของลูกค้าอย่างเต็มที่ โดยหนึ่งในผู้สนับสนุนใหญ่ของแนวคิดนี้คือ " เฮเลนา รูบินสไตน์ (Helena Rubinstein) " เธอได้เปิดบริการใหม่ในร้านเสริมสวยของเธอภายใต้ชื่อ " บาร์ขา (Bare Leg) "
โดยบาร์แห่งนี้จะให้บริการวาดถุงน่องโดยเฉพาะ มาพร้อมกับครีมแบบพิเศษ มาสก์เย็นสำหรับขา แป้งทาเท้า และเครื่องสำอางค์อื่นๆ อีกหลายตัวไม่ต่างอะไรจากบริการเสริมสวยปกติ
ในวันเปิดตัวมีการสาธิตวาดถุงน่องประเภทต่างๆ หลายแบบ แต่ละอันก็ดูสมจริงมากๆ ถ้าหากไม่สังเกตุจริงๆ ไม่มีทางรู้ว่าเป็นเครื่องสำอางค์ เรียกได้ว่าเป็นบริการที่เยียวยาหัวใจได้ดีในช่วงที่ถุงน่องขาดตลาด
อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจคือถ้าหากเป็นช่างที่มีทักษะสูง จะช่วยทำให้ถุงน่องดูสมจริงมากยิ่งขึ้น โดยการใช้ดินสอเขียนคิ้ววาดขอบตะเข็บให้เหมือนของจริง
แต่ถ้าหากไม่สะดวกไปที่ร้าน ก็มีผลิตภันฑ์สำหรับทาสีที่เรียกว่า " Silque Liquid Stockings " เป็นขวดสำหรับบรรจุเครื่องสำอางค์แบบเหลวโดยเฉพาะ ซึ่งผลิตครั้งแรกในเมืองบอสตัน
ในปี 1945 คือจุดสิ้นสุดของสงครามโลกครั้งที่สอง เหล่าทหารหนุ่มผู้รอดชีวิตได้เดินทางกลับบ้านเกิดอีกครั้ง ภรรยาที่รออยู่บ้านคงจะดีใจไม่น้อยที่ได้กอดสามีสุดที่รักอีกครั้ง
แต่ผมเชื่อว่าอีกหนึ่งเรื่องที่จะทำให้สาวๆ หัวใจพองโตนั้นคือการที่ดูปองท์กลับมาเปิดสายการผลิตถุงน่องไนลอนแบบเต็มพิกิดอีกครั้งหลักจากวางมือไปนานสามปี
ทำให้ในช่วงแรกเริ่มต้องวางขายแบบจำกัดอีกครั้ง ส่งผลให้เกิดการแย่งซื้อครั้งใหญ่ จนนักข่าวในสมัยนั้นเรียกว่า " การจลาจลไนลอน "
การกลับมาของถุงน่องไนลอนทำให้ธุรกิจถุงน่องหนังมนุษย์เริ่มทยอยตายไปอย่างช้าๆ จนหายไปอย่างสมบูรณ์เหลือเอาไว้เพียงเรื่องราวและภาพถ่ายให้เรารับชม
📌 เรียบเรียงโดย : สโมสรสมอง
** กรุณาแชร์ต่อ ห้ามคัดลอกบทความไปเผยแพร่ซ้ำ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา