11 เม.ย. 2022 เวลา 02:54 • หนังสือ
#38 CWG. 4️⃣ — บทที่ 🔟 (ตอนที่ 5) : “สาเหตุ” ของการลงมาเกิดบนโลกมนุษย์ของ “สิ่งมีชีวิตที่มีวิวัฒนาการขั้นสูง”
ผู้แปล : คุณซิม จากเพจ Books for Life
ผู้เรียบเรียง : แอดมิน (ซึ่งผมอาจแก้ไข เพิ่มคำแปล และ เรียบเรียงประโยคใหม่บางส่วน)
Q : You have said these words to me many times before. Still, within this present context, they make even more sense to me, ring even more true. But why wouldn’t this be true also for Highly Evolved Beings?
นีล : พระองค์เคยกล่าวถ้อยคำเหล่านี้กับผมมาหลายครั้งแล้ว แต่ทว่า ด้วยบริบทที่พูดคุยกันอยู่ในตอนนี้ ทำให้ผมรู้สึกว่ามันยิ่งสมเหตุสมผลและสะท้อนให้เห็นถึงความจริงมากขึ้นไปอีก แต่ทำไมสิ่งเหล่านี้ถึงไม่เป็นจริงกับเหล่าสิ่งมีชีวิตที่มีวิวัฒนาการขั้นสูงด้วยล่ะครับ❓
A : As just noted, HEBs do not embody for this reason. They have already experienced physicality fully. They have done so to completion. So they do not “start over” in each embodiment, unless it serves them to do so in a particular physicalization.
พระเจ้า : ก็อย่างที่บอกไปแล้วนั่นละ สวส.ไม่ได้มาอยู่ในรูปกายเพื่อการนี้ พวกเขามีประสบการณ์ของการอยู่ในรูปกายในทุกรูปแบบจนครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว ดังนั้น พวกเขาจึงไม่ต้อง “กลับมาเริ่มต้นใหม่” ในแต่ละการเข้าสู่สภาวะของการมีร่างกายอีก นอกเสียจากว่าการทำแบบนั้นเป็นประโยชน์ต่อจุดมุ่งหมายของพวกเขามากกว่าในสถานการณ์บางอย่างที่จำเพาะเจาะจง
.
Q : What does that mean?
นีล : หมายความว่ายังไงครับ❓
A : If a Highly Evolved Being enters into physical form in its dimension, it is because that HEB wishes to recreate and re-experience something that cannot be created or experienced in the metaphysical state. “Starting over” from an initial embodiment state is rarely required in order to do this.
พระเจ้า : หากสิ่งมีชีวิตที่มีวิวัฒนาการขั้นสูงได้เข้าสู่สภาวะของการมีรูปกายในขณะที่ยังอยู่ในมิติของพวกเขาเอง นั่นเป็นเพราะว่า สวส. ปรารถนาที่จะสร้างและมีประสบการณ์บางอย่างใหม่อีกครั้ง ประสบการณ์ที่ไม่สามารถสร้างหรือมีได้หากอยู่ในสภาวะไร้ร่างกาย ซึ่ง “การเริ่มต้นใหม่” จากสภาวะแรกเริ่มของร่างกาย (เด็กทารก) นั้นจึงไม่ใคร่จำเป็นนักสำหรับการทำแบบนั้น (หรือไม่ตอบโจทย์ในการทำแบบนั้น)
If a Highly Evolved Being enters into physical form not in its dimension, it is because that HEB wishes to offer assistance to sentient beings in the Realm of the Physical in the understanding, expressing, and full experiencing of themselves as who they really are. HEBs may then choose to “start over” in a life cycle as they physicalize.
แต่หากสิ่งมีชีวิตที่มีวิวัฒนาการขั้นสูงได้เข้าสู่สภาวะของการมีรูปกายนอกมิติที่พวกเขาอยู่ (มิติทางกายภาพ) นั่นเพราะ สวส. ปรารถนาที่จะให้ความช่วยเหลือแก่เหล่าสิ่งมีชีวิตที่มีจิตสำนึกที่ดำรงอยู่ในมิติทางกายภาพนั้น เพื่อช่วยให้พวกเขาเกิดการตระหนักรู้ แสดงออก และมีประสบการณ์ถึงตัวตนที่แท้จริงของพวกเขาได้อย่างเต็มที่★ ด้วยเหตุนั้น สวส. อาจเลือก “การกลับมาเริ่มต้นใหม่” ในวัฏจักรชีวิตของรูปกาย
★เหมือนหากยังอยู่ในมิติเหนือกาลเวลาที่พวกเขาดำรงอยู่ แม้จะเสกร่างตัวเองขึ้นมาเพื่อลงมาช่วยเหลือมนุษย์ [อาจมองตรงนี้เป็น สวส. นิสัยดีเผ่าพันธุ์ต่างๆ เช่น ชาวอาร์คทูเรี่ยน ชาวดาวลูกไก่ (พลีเดี้ยน) เป็นต้น] ก็อาจไม่เกิดประโยชน์ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยนัก เพราะมันอาจทำให้ช่วยโลกหรือช่วยมนุษย์ได้ไม่เต็มที่เท่าไหร่นัก อาจช่วยได้แบบอ้อมๆ เช่น ให้ความช่วยเหลือทางด้านเทคโนโลยีสะอาด เป็นมิตรต่อโลก มอบคำสอนผ่านการสะกดจิต ผ่านการแชลแนลลิ่ง (Chanelling) และอื่นๆ ฯลฯ แต่เนื่องจากมันต้องช่วยเหลือผ่านม่านพลางหรือตัวกรองระหว่างมิติ จึงอาจทำให้คำสอนนั้นผิดเพี้ยนไปได้ เป็นต้น
และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ พวกเค้าต้องเคารพกฎสูงสุด ที่พระเจ้ามอบให้ไว้กับสรรพชีวิตทั้งมวล นั่นคือ "เจตจำนงอิสระ" ที่จะเลือกทำอะไรก็ได้ตามใจปรารถนา (หากมนุษย์ส่วนใหญ่เลือกทำลายล้างตัวเอง พวกเขาก็ห้ามไม่ได้ คงได้แต่ช่วยชะลอแล้วก็พยายามช่วยเปลี่ยนแปลงจิตสำนึกมวลรวมของทั้งเผ่าพันธุ์) พวกเขาจึงไม่สามารถแทรกแซงอะไรได้มากนักในสภาวะนั้น
แต่หากพวกเขา (อาสา ก็เพราะรัก) ลงมาเกิดบนโลกเป็นมนุษย์สะเองเลย จะได้ช่วยเหลือมวลมนุษย์ให้ยกระดับจิตสำนึกได้อย่างเต็มที่ ด้วยการสอน นี่คือการยกระดับทางจิตวิญญาณ คือการช่วยยกระดับจิตสำนึกมวลรวมของมนุษย์ คือการช่วยเหลือทั้งเผ่าพันธุ์มนุษย์อย่างแท้จริง นี่ทำให้ผมนึกถึง พระเยซู , พระพุทธเจ้า , พระกฤษณะ หรืออวตารหรือนักบุญท่านอื่นๆอีกหลายคนเลยครับงานนี้ 🤔😁 — ซึ่งในบทต่อๆไปพระองค์มีอธิบายถึงเรื่องนี้แน่นอนครับ
2
และทั้งสองแบบต่างก็มีข้อดีของมัน ท่านๆ สวส. คงแบ่งหน้าที่กันทำงาน และทำควบคู่กันไปทั้งสองแบบแหละ
ปล. (ผมก็อดไม่ได้) ข้าพเจ้าขอกราบคาราวะ 🙇 ให้กับพวกคุณทุกคนที่อาสาลงมาเพื่อช่วยเหลือมนุษย์โลก (รวมถึงพวกคุณๆทุกคนที่รู้ว่าตัวเองกำลังทำบางสิ่งเพื่อช่วยยกระดับจิตสำนึกมวลรวมของมนุษย์อยู่ด้วย ซึ่งตรงนี้หมายรวมถึงแค่การลงมามีชีวิตอยู่บนโลกแม้จะไม่ได้ทำอะไรก็ตามด้วย) — อ่านเรื่องนี้ทบทวนเพิ่มเติมได้ตามลิงค์ครับ
ด้วยจิตคารวะอันยิ่ง ♥️ — แอดมิน —
(มีต่อ)

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา