Ep 2 Self Conscious
สติดี….สตางค์อยู่
วี้หวอ วี้หวอ วี้หวอ …
เสียงไซเรนดังก้องถนนพร้อมรถAmbulance ที่วิ่งตะบึงอย่างรวดเร็ว บนท้องถนน เป็นสิ่งที่เราๆคงคุ้นตากันดี แต่คงไม่มีใครคิดจะใช้บริการนี้อย่างแน่นอน
แต่อะไรๆมันก็ไม่แน่นอน มีคาดฝันว่าวันนึงเราจะเป็นผู้ที่ต้องโดยสารรถคันนั้นเอง
อุบัติเหตุเกิดขึ้นในเย็นวันนึงขณะวิ่งออกกำลังกายตามปรกติ บนทางเดินรอบอาคารที่พักอาศัย ไม่รู้ตัวว่าเหตุเกิดขึ้นได้อย่างไร รู้ตัวอีกที ลงไปนอนพังพาบอยู่กับพื้นเรียบร้อยแล้ว เราพยายามที่จะยันตัวลุกขึ้น แต่ทำไม่ได้ เพราะรู้สึกเหมือนแขนซ้ายคล้ายหายไป ไม่สามารถยันตัวลุกขึ้นได้ ต้องร้องขอความช่วยเหลือคนที่อยู่แถวนั้น บอกพวกเค้าว่ารู้สึกแขนจะหัก
เราถูกพยุงพามานั่งพัก ทั้งตัวมีเพียงกุญแจห้อง เรานั่งอยู่ในสภาพแขนซ้ายที่ห้อยลง แล้วเริ่มบวมและปวด รวมทั้งที่หน้าผากและเข่าซ้ายถลอกมีเลือดซิบๆ จะทำอะไรมากก็ไม่ได้ อยู่คนเดียวไม่มีโทรศัพท์จะติดต่อใครได้ พยายามตั้งสติคิด เลยขอร้องคนที่พามานั่งพักช่วยโทรแจ้งเหตุ 1669 เรียกรถพยาบาลให้หน่อย รวมทั้งช่วยโทรบอกพี่สาวที่ออกไปข้างนอกให้ทราบเรื่อง
15นาที ต่อมารถพยาบาลมาถึง เค้าบอกเราว่าโชคดีทีเค้าจอดแสตนบายไม่ไกลนัก เค้าจัดการดามแขน ระหว่างนั้นก็มีการซักถามว่าเรามีประกันมั้ย วงเงินเท่าไร จะไปโรงพยาบาลไหน ซึ่งคอนโดที่พักตั้งอยู่บริเวณถนนวิภาวดี โรงพยาบาลที่ใกล้สุดเป็นรพ เอกชนหมดเลย
เราก็พยายามตั้งสติทำความเข้าใจคำถามเพื่อจะตอบ แต่ยากมากอยู่เพราะแขนปวดหนักขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็พยายามคิดคำถามกลับว่าไปเอกชนแล้วเป็นยังไง เค้าว่าเบื้องต้นที่เคยเห็นก็เป็นแสนขึ้น มากน้อยขึ้นอยู่กับเเรทและขั้นตอนของรพ นั้นๆ เจ้าหน้าที่เลยต้องถามเราเรื่องวงเงินประกันที่เรามี
เราก็ได้คิดตามเพราะเคยได้ยินมาบ้างว่าแพงเอาเรื่องอยู่ เลยถามต่อว่าถ้าไปรพ ที่มีประกันสังคมล่ะ ซึ่งเรามีที่วชิระพยาบาล เค้าว่าก็ไกลหน่อย ต้องรอคิว
เราก็เลยพยายามใข้สติคิดประเมินสถานการณ์ สุดท้ายก็ขอไปที่รพ ประกันสังคม เพื่อลดความเครียดของค่าใช่จ่ายที่เราอาจต้องจ่ายเอง ซึ่งไม่รู้เลยว่าจะขนาดไหน
ถนนบ้านเรามันแย่มาก ตอนนอนประคองแขนบนรถฉุกเฉิน สะเทือนมาก พอถึงก็เจอปัญหาอีกว่าต้องใช้บัตรประชาชน เลยต้องจอให้เจ้าหน้าที่โทรหาพี่สาวที่ถือกระเป๋าตังค์ตามมา ถ่ายส่งไลน์มาก่อน
ต้องรอคิวจริงๆ เหตุเกิด 6 โมงกว่าๆ ประสานรถพยาบาลได้เกือบทุ่ม ตกลง รพ ได้ และส่งถึง รพ เกือบ 2 ทุ่ม รักษาตามขั้นตอน กว่าจะจบ 5 ทุ่ม ใส่เฝือก ให้กลับบ้าน แลัวนัดตามอาการ
สรุปอาการที่เป็น ข้อศอกซ้ายหลุด ทำให้มีเส้นเอ็นขาดหนึ่งเส้นต้องผ่าตัดเย็บต่อเส้นเอ็น แล้วต้องทำกายภาพบำบัดอย่างต่อเนื่อง และอื่นๆ ค่าใช้จ่ายเกือบทั้งหมดเบิกประกันสังคม เท่าที่รวมคร่าวๆก็เกือบแสนนี่ขนาดเป็น รพที่มีประกันสังคมนะ ที่ต้องจ่ายส่วนเกินเองก็ค่าอุปกรณ์เทียมที่ไม่อยู่ในทะเบียนเบิก สี่พันกว่าๆ เท่านั้น
จริงๆแล้วเราเป็นลูกจ้าง ที่บริษัทก็มีประกันอุบัติเหตุหมู่อยู่ละ แต่ตอนเกิดเหตุ ไม่แน่ใจว่าจะคุ้มครองได้เท่าไร ถ้าไปเอกชนจะถูกเรียกเก็บขนาดไหนเพราะฟังมาเยอะว่าฟันเละ ยิ่งถ้าบอกมีประกันยิ่งจัดเต็ม
เราตอนนั้นแม้จะปวดมากนะ แค่ก็พยายามตั้งสติคิดตามที่เจ้าหน้าที่เค้าถาม แล้วหาทางออกเท่าที่จะคิดได้ตอนนั้น เลือกปลอดภัยไว้ก่อนโดยไปโรงพยาบาลที่เรามีประกันสังคมก่อน ซึ่งเราก็คิดถูก ส่วนต่างที่เกิดก็เอาไปเบิกกับประกันบริษัทต่อ โดยเราไม่ค้องจ่ายเพิ่มเองเลย
ถามว่าทำไมรู้ว่าคิดถูกหรือ เพราะระหว่างที่เรารักษาที่โรงพยาบาล ก็มีคนไข้ที่ประสบอุบัติเหตุคล้ายกันกับเราขอย้ายจากโรงพยาบาลเอกขนมารักษาทีนี่ เพราะตอนเกิดเหตุรถพยาบาลพาไปรพ เอกชนโดนชาร์จไป สี่แสนกว่าบาทประกันที่มีไม่พอ ต้องจ่ายเพิ่มเอง ไม่ไหวเลยต้องขอย้ายมารักษาต่อที่โรงพยาบาลที่ตนเองมีประกันสังคม
เรารู้สึกตัวเองโชคดีที่มีสติ คิดประเมินสถานการณ์ รวมทั้งขอบคุณตัวเราที่หาความรู้รอบตัวเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ ไว้เพราะไม่อาจรู้เลยว่าจะเป็นเราเมื่อไร พอมัเหตุคับขันแบบนี้ สติที่ดีจะข่วยเราได้จริงๆ
ขอย้ำ สติที่ดี ข่วยสตางค์ยังอยู่ครบจริงๆนะค่ะ
Tips
- 1669 พึ่งได้ มีเหตุโทรได้เลย
- ควรมีรูปบัตรประชาขนหน้าแรกติดโทรศัพท์ไว้ เผื่อฉุกเฉิน
- เบิกประกันสังคมก่อน ส่วนเกินค่อยใช้จากประกันอื่นๆที่มี
#สุขภาพ #สคิ #ออมเงิน #ประหยัดเงิน #วางแผนการเงิน
- 4
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
