30 พ.ค. 2022 เวลา 03:33 • หนังสือ
#61CWG. 4️⃣ — บทที่ 1️⃣6️⃣ (ตอนที่ 1) : เสียงและภาพที่เธอปล่อยให้ลูกหลานของเธอเสพอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงต้นวัยนั้นส่งกระทบต่อแนวคิดของพวกเขาในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชีวิต
▪️ผู้แปล : แอดมิน
{🔸ซึ่งผมอาจนำคำแปลบางส่วน ของคุณซิม จากเพจ Books for Life มาใช้ด้วยครับ ก็ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ที่ทำให้งานแปลมันสมบูรณ์ขึ้นครับ 🙏 นี่เป็นงานแปลที่ผมตั้งใจแปลมาก ๆ หากมีข้อผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ทีนี้ด้วยครับ🔸}
Q : Golly, there are so many implications to all this, and I could talk with you about it forever, but I do want to look at some of the other items on that list, so that we can know what we're talking about as we seek to rouse ourselves from our long sleep—
นีล : โอ้พระเจ้า มันมีความนัยอีกมากมายหลายเรื่องเลยที่ข้องเกี่ยวกับสิ่งที่พระองค์เพิ่งอธิบายไป (เมตาฟิสิกส์ 101) และผมก็สามารถพูดคุยกับพระองค์เกี่ยวกับประเด็นพวกนั้นได้ทั้งชาติเลย แต่ผมอยากกลับมาสำรวจรายการที่พระองค์ให้ไว้ก่อนหน้า เพื่อที่เราจะได้รู้ว่าเรากำลังพูดถึงเรื่องอะไรกันอยู่ ในขณะที่เรากำลังพยายามปลุกตัวเองให้ตื่นขึ้นจากการหลับไหลอันยาวนาน—
A : —and from your more recent experience of being awake but not knowing it, or not acting like it—
พระเจ้า : —และจากประสบการณ์ล่าสุดของการที่เธอตื่นอยู่แล้วแต่ไม่รู้ตัว หรือรู้แต่ไม่ยอมประพฤติตนเช่นผู้ที่ตื่นแล้ว—
.
Q : —yes, and as we then humbly hope to awaken others.
นีล : —ใช่ครับ และเราก็ยังหวังอย่างลมๆแล้งๆที่จะปลุกผู้อื่นให้ตื่นขึ้นอีกด้วย
Let’s move now to Item #2, may we?
เราไปกันที่ข้อ 2 เลยดีกว่าไหมครับ❓
A : Yes. #2 says: An awakened species tells the truth, always. Humans in an unawakened state too often lie, to themselves as well as others.
พระเจ้า : ได้สิ ข้อ 2 บอกไว้ว่า เผ่าพันธุ์ที่ตื่นแล้ว–พูดความจริงเสมอ ส่วนมนุษย์ที่ยังไม่ตื่น–มักโป้ปดแก่ทั้งตัวเองและผู้อื่นอยู่เป็นประจำ
For instance, you would have a hard time convincing a Highly Evolved Being that the constant stream of sounds and images you place before your offspring in their youngest years has absolutely no effect on their ideas about life, and therefore nothing to do with how your next generation creates its daily experience.
ยกตัวอย่างเช่น เธอจะพบกับความยากลำบากมากในการพยายามโน้มน้าวให้สิ่งมีชีวิตที่มีวิวัฒนาการขั้นสูงเชื่อว่า เสียงและภาพที่เธอปล่อยให้ลูกหลานของเธอเสพอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงต้นวัยนั้นไม่มีผลกระทบใดๆต่อแนวคิดของพวกเขาในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชีวิต ดังนั้นมันจึงไม่มีทางส่งผลกระทบถึงการสร้างประสบการณ์ใด ๆ ในชีวิตแต่ละวันของคนรุ่นต่อไปอย่างแน่นอน
You, on the other hand, can’t admit that the increasing violence in your society arises, at least in part, from the continual onslaught of such images, because if you did, you would have to do something about it. And you think there is nothing you can do about it, so it is better to ignore it.
เธอ ในทางตรงกันข้าม “ไม่สามารถ” ยอมรับได้ว่า การเพิ่มขึ้นของความรุนแรงในสังคม อย่างน้อยส่วนหนึ่งก็เป็นผลมาจากการชี้นำของภาพและเสียงเหล่านั้น เพราะถ้าเกิดเธอยอมรับว่าตัวเธอเองนั่นแหละ ที่เป็นผู้กระทำให้ความรุนแรงเหล่านั้นเกิดขึ้น เธอก็จะต้องลงมือทำอะไรสักอย่างกับมัน และเธอก็คิดว่า เธอคงทำอะไรกับมัน “ไม่ได้” หรอก ดังนั้นเธอจึงเพิกเฉยหรือทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเสียเลยดีกว่า
.
Q : Yes, we’ve talked several times now about television programs and movies and video games and Internet sites, and even children’s toys that depict—and even encourage our offspring to use as forms of “play’—enactments of violence, violence, violence at every turn.
นีล : ใช่ครับ เราเคยคุยกันหลายครั้งแล้วเกี่ยวกับเรื่องรายการโทรทัศน์ ภาพยนตร์ วิดีโอเกม และเว็บไซต์ต่างๆ แม้กระทั่งของเล่นเด็กที่แสดงภาพหรือบรรยายให้เห็นถึง —ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือการสนับสนุนให้ลูกหลานของเราใช้รูปแบบของ “การเล่น” ที่แสดงถึงความรุนแรง— ความรุนแรง และความรุนแรง ในทุกทางอย่างต่อเนื่อง
A : And yet you imagine yourselves to be—or, worse yet, allow yourselves to be—powerless to do anything about any of this.
พระเจ้า : แล้วเธอก็ยังจินตนาการให้ตัวเองเป็น—หรือที่แย่กว่านั้นคือ ยอมให้ตัวเองเป็น— ผู้ไร้พลังอำนาจที่ไม่สามารถทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้เลย
.
Q : Some of us do the same thing with tobacco. Or a constant diet of unhealthy food. Or a lack of exercise. Or the societal values that drive our human experience toward constant conflict.
นีล : พวกเราบางคนก็ทำสิ่งเดียวกันนี้กับยาสูบ หรือ การบริโภคอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพอย่างต่อเนื่อง หรือ การขาดการออกกำลังกาย หรือ การนับถือค่านิยมในสังคมที่ขับเคลื่อนให้ประสบการณ์ของมนุษย์เต็มไปด้วยความขัดแย้งอยู่ตลอดเวลา
A : This business of looking straight at self-damaging behaviors and doing nothing about them is the mark of sentient beings who do not care enough about themselves, or do not understand enough about themselves, to do enough for themselves to stop the harm they are doing to themselves.
พระเจ้า : เรื่องการเห็นพฤติกรรมที่ทำลายตัวเองอยู่ต่อหน้าต่อตา แต่กลับไม่ทำอะไรเลยซักอย่างนี่ เป็นเครื่องหมายแสดงให้เห็นถึงสิ่งมีชีวิตที่มีจิตสำนึกที่ไม่ใส่ใจในเรื่องของตนเองอย่างเพียงพอ หรือไม่เข้าใจตนเองอย่างเพียงพอ ที่จะทำเพื่อตนเองให้มากพอ เพื่อหยุดอันตรายที่พวกเขากำลังทำกับตนเอง
★อ่านทบทวนเรื่องวิถีชีวิตของ สวส. ได้ตามลิงค์ครับ —แอดมิน—
(มีต่อ)

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา