12 มิ.ย. 2022 เวลา 05:41 • ปรัชญา
นิทานเซนสอนใจ ตอนที่ 16
เรื่อง “ภูผาสูงมิอาจขวางเมฆลอย”
1
เครดิตภาพ: wallpapersafari.com
เมื่อซั่นจิ้งอายุได้ 27 ปี ได้ละทิ้งตำแหน่งขุนนางเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ เดินทางขึ้นเขาเล่อผู่ไปกราบเป็นศิษย์ของอาจารย์เซนหยวนอาน อาจารย์มอบหมายให้ซั่นจิ้งดูแลสวนผักของวัด หวังให้เขาได้เรียนรู้ปปรัชญาเซนจากการทำงานในสวนผัก
4
วันหนึ่งที่วัดมีพระหนุ่มรูปหนึ่งเข้าใจว่าตนเองสำเร็จธรรมมะแล้วอยากลงเขาออกธุดงค์ไปในโลกกว้าง จึงได้ไปกราบขออนุญาตจากอาจารย์เซนหยวนอาน
เมื่ออาจารย์เซนหยวนอานได้ทราบความต้องการของพระหนุ่ม เพียงแต่แย้มยิ้มและกล่าวว่า “สี่ทิศล้วนคือภูสูง เจ้าจักไปในทางใด?” ทว่าพระหนุ่มมิอาจเข้าใจปรัชญาเซนที่แฝงอยู่ในคำถามนั้น จึงได้แต่หมุนตัวกลับไป
3
พระหนุ่มบังเอิญผ่านไปยังแปลงผักของวัด พอดีกับที่ซั่นจิ้งกำลังดายหญ้าอยู่ เมื่อซั่นจิ้งเห็นพระรูปนี้ออกอาการหน้านิ่วคิ้วขมวดจึงได้เอ่ยถามว่า “ศิษย์พี่เป็นไรไปแล้ว?” พระหนุ่มจึงได้ถ่ายทอดเรื่องราวโดยละเอียดให้ศิษย์น้องฟัง
เมื่อได้ฟัง ซั่นจิ้งพลันเข้าใจทันทีว่า “ภูสูงสี่ทิศ” หมายถึงอุปสรรคนานัปการ ที่แท้อาจารย์เซนหยวนอานเพียงต้องการทดสอบว่าพระหนุ่มมีความตั้งใจมั่นในการไปธุดงค์มากน้อยเพียงใด แต่น่าเสียดายที่พระรูปนี้ไม่เข้าใจความนัย
2
ซั่นจิ้งจึงบอกว่า “กอไผ่ทึบมิอาจกั้นสายน้ำไหล ภูผาสูงมิอาจขวางเมฆลอย” ความหมายคือ หากแม้มีความมุ่งมั่นพยายาม อุปสรรคใดๆก็ล้วนผ่านไปได้
8
พระหนุ่มยินดียิ่ง รีบกลับไปพบอาจารย์หยวนอาน จากนั้นจึงกล่าวประโยคที่ว่า “กอไผ่ทึบมิอาจกั้นสายน้ำไหล ภูผาสูงมิอาจขวางเมฆลอย” ออกมาทั้งยังมั่นใจว่าอาจารย์จะต้องพอใจและเอ่ยปากชมเชยแล้วตนก็จะออกเดินทางลงเขาทันที
ผิดคาด เมื่ออาจารย์เซนฟังจบนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นขมวดคิ้วจ้องตาพระหนุ่มพลางกล่าวว่า “นี่ย่อมมิใช่คำตอบที่เจ้าคิดเอง ผู้ใดช่วยเหลือเจ้ากันแน่?”
1
...
พระหนุ่มเห็นอาจารย์เซนปักใจเพียงนั้นจึงได้แต่สารภาพ เอ่ยชื่อพระซั่นจิ้งออกมา อาจารย์เซนหยวนอานจึงได้กล่าวกับพระหนุ่มว่า
“ในภายภาคหน้าพระซั่นจิ้งที่ดูแลสวนผักต้องพบกับความสำเร็จไม่มากก็น้อย ส่วนเจ้ายังคงต้องศึกษาต่อไปให้มาก ยามนี้ขนาดซั่งจิ้งยังไม่เคยเอ่ยว่าจะลงจากเขา แล้วตัวเจ้ายังจะลงเขาไปอีกหรือไม่?”
1
เครดิตภาพ: https://bcnc.net/events/2019/06/chinese-brush-painting-for-adults-vegetables
  • สรุปข้อคิดจากนิทานและถอดเป็นความคิดออกมาได้ว่า
  • ภูสูงสี่ทิศที่อาจารย์เซนกล่าวไว้ในนิทาน เปรียบเหมือนอุปสรรครอบด้านที่คอยขัดขวางเราไปสู่เป้าหมายที่เราได้ตั้งไว้หรืออยากไปให้ถึง ทำให้เราหยุดอยู่กับที่หรือต้องถอยหลังเพื่ออยู่ที่เดิมไม่มีคืบหน้าในทางเดินชีวิตจึงไม่ประสบความสำเร็จ
6
...
  • สายน้ำไหลผ่านทะลุกอไผ่ทึบ หรือ เมฆลอยเหนือข้ามภูสูง ดั่งที่พระซั่นจิ้งในนิทานได้กล่าวและเปรียบไว้ก็เหมือนทางออกของปัญหา ไม่ว่าอุปสรรคจะอยู่สูงเสียดฟ้าหรือเกาะแน่นหนาอย่างไร ย่อมต้องมีทางออกให้เราสามารถผ่านออกไปได้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ขึ้นอยู่กับปัญญาและความรู้ของตัวเราเอง
5
  • อุปสรรคชีวิต 4 อย่าง ที่ทำให้เราไม่ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ ขอสรุปออกมาเพื่อให้สอดคล้องกับภูผาสูงสี่ทิศในนิทานนี้ คือ
1. กลัว
5
เกิดจากการที่เราไม่อยากรับความผิดหวังหรือเสียใจหากเกิดทำไม่ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ข้อนี้ยังทำให้เสียโอกาสในการเริ่มทำสิ่งใหม่ๆอีกด้วย คงจะได้ยินบ่อยๆกับคำว่า “Comfort zone” หากเราหลุดออกจากบริเวณนี้ได้ถือว่าสำเร็จไปเปราะหนึ่งแล้ว
3
2. ขี้เกียจ
5
การคิดที่จะทำหรือมีไอเดียแน่นอนมันง่ายกว่าการลงมือปฏิบัติทำ เพราะการลงมือทำให้เราต้องเสียสละแบ่งปันเวลาที่สุขสบายของตัวเราออกมาใช้นั่นเอง ข้อนี้จึงเป็นกับดักหรืออุปสรรคหนึ่งที่ทำให้เราไม่อยากเดินไปต่อ
4
3. ไม่รู้
5
คล้ายๆกับความกลัว (เกิดกับใจเราเอง) แต่ความไม่รู้จะเกิดจากปัจจัยภายนอกด้วยที่คอยบอกเราว่า “สิ่งนี้ทำไม่ได้ สิ่งนี้ไม่เหมาะกับเรา” ซึ่งอาจสั่งสมมาตั้งแต่วัยเด็กหรือจากการเลี้ยงดูของครอบครัว หรือสภาพสังคมที่มีค่านิยมบางอย่างที่ไม่ตรงกับค่านิยมส่วนใหญ่ ถ้าหากเรารู้แล้วย่อมที่จะกล้าเดินต่อไปข้างหน้านั่นเอง
4
4. ท้อ
5
การประสบความสำเร็จไม่ได้เกิดขึ้นเพียงข้ามคืน หลายๆครั้งระหว่างทางต้องพบกับความผิดหวัง บ้างก็ต้องรอคอยโอกาสที่บางทีก็รอนานจนดูเหมือนจะไม่มีวันถึง สิ่งที่ตามมาคือความท้อ ทำให้เรารู้สึกว่าการตัดสินใจที่ผ่านมาคงเป็นสิ่งที่ผิดและอยากเลิกทำเสียกลางคัน สิ่งที่จะทำให้ก้าวข้ามไปได้คือพลังใจที่จะไม่ยอมแพ้เช่นเดียวกับความเชื่อมั่นว่าความสำเร็จจะอยู่ตรงหน้าในวันหนึ่ง
3
  • “ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น” เป็นสำนวนที่ใช้ได้ทุกยุคทุกสมัย ผู้เขียนขอขยายความประโยคนี้และยกตัวอย่างข้อยกเว้นดังนี้
  • ความพยายามไม่จำเป็นต้องมีต้นทุนชีวิตที่สูง อย่างเช่น ไม่จำเป็นต้องมีฐานะที่มั่งมี แต่ถ้าเรามีความพยายามอดทน (ที่สำคัญต้องซื่อสัตย์) เราย่อมได้ความสำเร็จอาจเป็นเรื่องของชื่อเสียง เป็นรางวัลตอบแทนสิ่งที่ได้พยายามทำ
  • ประโยคนี้อาจไม่จริงเสมอไป ถ้าเรามุ่งแต่ทำงานไปข้างหน้าอย่างเดียวและทำตามวิธีเดิมๆ ไม่หยุดคิดวิเคราะห์ หยุดทบทวนสิ่งที่เราได้ทำลงไปว่าเป็นเส้นทางที่ถูกต้องไปสู่ความสำเร็จหรือไม่ อาจทำให้เราเสียเวลาเปล่าและถึงเป้าหมายความสำเร็จไม่ทันการ การหยุดเพื่อเริ่มต่อด้วยการพัฒนาตัวเราให้ดีขึ้นจึงเป็นสิ่งที่ควรทำ
6
  • ในมุมมองด้านธุรกิจ อุปสรรคย่อมมีเช่นกัน ผู้เขียนขอยกตัวอย่างข้อหลักๆที่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่จะเจอ เช่น ธุรกิจขาดทุน ขาดหรือหาแหล่งเงินทุนที่เหมาะสมไม่ทันเวลา ขาดทรัพยากรด้านบุคคลที่มีฝีมือความสามารถในธุรกิจที่ทำ ไม่มีเครือข่ายธุรกิจที่กว้างเพียงพอ เป็นต้น
4
  • ที่มาของนิทาน:
2
หนังสือ 《禅的故事精华版》, 慕云居 เรียบเรียง, สำนักพิมพ์ 地震出版社, 2006.12, ISBN 7-5028-2995-4

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา