28 มิ.ย. 2022 เวลา 05:16 • หนังสือ
#79 CWG. 4️⃣ — บทที่ 1️⃣9️⃣ (ตอนที่ 6) : จงระลึกไว้เสมอว่า “ผู้นำ” ไม่ใช่คนที่พูดว่า “จงตามเรามา” แต่คือคนที่พูดว่า “ฉันจะนำไปก่อน”
▪️ผู้แปล : แอดมิน
{🔸ซึ่งผมอาจนำคำแปลบางส่วน ของคุณซิม จากเพจ Books for Life มาใช้ด้วยครับ ก็ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ที่ทำให้งานแปลมันสมบูรณ์ขึ้นครับ 🙏 นี่เป็นงานแปลที่ผมตั้งใจแปลมาก ๆ หากมีข้อผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ทีนี้ด้วยครับ🔸}
Q : But as I said earlier, how would we earning a living if everybody shared everything with everyone, and every definition of “profit” had to include benefit for everyone?
นีล : แต่อย่างที่ผมพูดไว้ก่อนหน้านี้ เราจะหาเลี้ยงชีพกันได้ยังไงครับถ้าทุกคนต้องแบ่งปันทุกอย่างกับทุกคน และนิยามของคำว่า “กำไร” ไม่ว่าจะในแง่มุมไหนจำต้องรวมผลประโยชน์ของทุกคนเข้าไปด้วยงั้นหรือครับ❓
A : The experience of living is not something that one should have to “earn.” Life is a gift, given to all of you, and it is not something you should have to make yourself worthy of every day of your existence.
พระเจ้า : การมีชีวิตอยู่ไม่ใช่การมีประสบการณ์ถึงการ “หาเลี้ยงชีพ” หรือการต้องเอาชีวิตให้รอดไปวันๆ ชีวิตคือ “ของขวัญ” ที่ฉันได้มอบให้แก่พวกเธอทุกคน และเธอก็ไม่จำเป็นต้องทำให้ตัวเองมีค่าคู่ควรในทุก ๆ วันของการมีชีวิตอยู่
A system could easily be devised by any civilization that would allow society to fulfill individual and group needs without the members of that society having to sell their soul and abandon their dreams in order to survive.
ไม่ว่าอารยธรรมใดๆก็สามารถคิดค้นหรือสร้างระบบที่จะช่วยให้สังคมสามารถตอบสนองต่อความต้องการส่วนบุคคลและส่วนรวมได้โดยที่สมาชิกของสังคมนั้นไม่ต้องขายวิญญาณและละทิ้งความฝันเพื่อเอาชีวิตรอด ได้อย่างง่ายดาย
.
Q : I hear that. There must be a way to create a social system in which everyone contributes more or less equal energy and everyone benefits more or less equally, with no one having to live a bare bones existence, and no one having to let go of any hope to do something they really love in this life in order to stay alive.
Until our whole society changes, it’s not going to be easy to create this, I guess.
นีล : ทราบแล้วครับ มันต้องมีวิธีสร้างระบบสังคมที่ทุกคนสามารถออกแรงได้พอๆกัน (ไม่ใช่กลุ่มหนึ่งต้องทำงานอย่างหนัก อีกกลุ่มทำงานเบาสบาย) และทุกคนสามารถรับประโยชน์ได้เท่าๆกันโดยไม่มีใครต้องมีชีวิตอยู่ด้วยความลำบากยากแค้น และไม่มีใครต้องละทิ้งความฝันในการทำสิ่งที่พวกเขารักในชีวิตเพื่อที่จะเอาชีวิตให้รอด
จนกว่าสังคมทั้งสังคมของเราจะเปลี่ยนไป มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะสร้างระบบแบบนั้นขึ้นมา ผมคิดว่างั้นนะ
A : Actually, your whole society will change when the majority sees how easy it really is for those of you who choose to lead the way. I said earlier that the object of self-selecting to help awaken the species was not to declare yourself to be a leader, but rather, one who has been led, by a deep inner knowing, to another way to be human.
พระเจ้า : อันที่จริง สังคมโดยรวมของพวกเธอจะเปลี่ยนไป เมื่อคนส่วนใหญ่เห็นว่าการทำแบบนั้นมันง่ายเพียงใด เพราะเห็นกลุ่มคนที่ตัดสินใจเลือกทำแบบนั้นนำไปก่อนให้เห็นเป็นตัวอย่าง
และฉันได้พูดไปแล้วก่อนหน้านี้ว่า เป้าหมายของการตัดสินใจเลือกด้วยตัวเองเพื่อช่วยปลุกเผ่าพันธุ์ของตนให้ตื่นขึ้นนั้น ไม่ใช่เพื่อประกาศให้โลกรู้ว่าตนเองคือผู้นำ (ผู้ช่วยให้รอด) แต่เป็นใครคนหนึ่งที่เกิดการตระหนักรู้จากภายในอย่างลึกซึ้งและปฏิบัติตนไปตามนั้น ในการเป็นมนุษย์ในแบบที่ต่างไป ★
★มนุษย์ในแบบที่ตื่นขึ้นแล้ว
—แอดมิน—
Remember always that a “leader” is not one who says, “Follow me.” A leader is one who says, “I’ll go first.”
จงระลึกไว้เสมอว่า “ผู้นำ” ไม่ใช่คนที่พูดว่า “จงตามเรามา” แต่คือคนที่พูดว่า “ฉันจะนำไปก่อน”
You can’t change overnight the way your Earthly societies function, but you can individually demonstrate and model the foundational qualities of an awakened species immediately—by going first.
เธอไม่สามารถเปลี่ยนระบบสังคมบนโลกของเธอได้ในชั่วข้ามคืน แต่เธอสามารถแสดงคุณสมบัติอันเป็นรากฐานของเผ่าพันธุ์ที่ตื่นแล้วให้เห็นเป็นแบบอย่างได้ในทันที—ด้วยการลงมือทำนำไปก่อนเลย
========= จบบทที่ 19 =========

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา