4 ก.ค. 2022 เวลา 06:02 • หนังสือ
#83 CWG. 4️⃣ — บทที่ 2️⃣0️⃣ (ตอนที่ 4) : ทุกสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นบนโลกอยู่ในขณะนี้ เป็นไปตาม “จิตสำนึกมวลรวม” ของพวกเธอ
▪️ผู้แปล : แอดมิน
{🔸ซึ่งผมอาจนำคำแปลบางส่วน ของคุณซิม จากเพจ Books for Life มาใช้ด้วยครับ ก็ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ที่ทำให้งานแปลมันสมบูรณ์ขึ้นครับ 🙏 นี่เป็นงานแปลที่ผมตั้งใจแปลมาก ๆ หากมีข้อผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ทีนี้ด้วยครับ🔸}
Q : But what if we were all attacked, all at once, by entities other than our own species? It was you who said earlier that there are advanced beings from other planets in the Realm of the Physical who are violent. Don’t we have to worry about them coming to Earth one day and destroying us?
นีล : แล้วถ้ามนุษย์ทุกคนถูกโจมตีพร้อมกันโดยสิ่งมีชีวิตจากเผ่าพันธุ์อื่นล่ะครับ❓ พระองค์เป็นคนบอกเองก่อนหน้านี้ว่า สิ่งมีชีวิตที่มีพัฒนาการขั้นสูงจากดาวเคราะห์ดวงอื่นในจักรวาลทางกายภาพของเรายังมีพวกที่นิยมใช้ความรุนแรงอยู่ เราไม่ต้องกังวลว่าวันหนึ่งพวกเขาจะมายังโลกและทำลายเราหรือครับ❓
A : No. Violent sentient beings from other galaxies will not be allowed to destroy your civilization. The Highly Evolved Beings existing in Another Dimension would make that impossible.
พระเจ้า : ไม่หรอก สิ่งมีชีวิตหัวรุนแรงจากกาแลคซีอื่นจะไม่ได้รับอนุญาตให้ทำลายอารยธรรมของพวกเธอ เพราะสิ่งมีชีวิตที่มีวิวัฒนาการขั้นสูงที่ดำรงอยู่ในอีกมิติหนึ่งจะห้ามพวกเขาไม่ให้ทำอย่างนั้น
.
Q : Why? Why would they step in and do that?
นีล : พวกเขาทำอย่างนั้นทำไมครับ❓ ทำไมพวกเขาถึงเข้ามาก้าวก่ายเรื่องของสิ่งมีชีวิตทางกายภาพอย่างพวกเราด้วยล่ะครับ❓
A : Because it serves their purpose to express and experience their True Identity by doing so. They have understandings and objectives different from beings who experience themselves primarily as physical entities living in a physical dimension.
พระเจ้า : เพราะการทำแบบนั้นมันรับใช้ต่อจุดมุ่งหมายในการแสดงออกและการมีประสบการณ์ถึงตัวตนที่แท้จริงของพวกเขาน่ะสิ พวกเขามีความเข้าใจและเป้าประสงค์ที่ต่างไปจากสิ่งมีชีวิตที่ซึ่งรู้สึกว่าตัวตนที่แท้จริงของตนคือสิ่งมีชีวิตทางกายภาพที่มีชีวิตอยู่ในมิติทางกายภาพ★
★ทั้งที่จริงแล้วตัวตนที่แท้จริงของพวกเรา คือ พระเจ้า (วิญญาณ) ที่กำลังมามีประสบการณ์อยู่ในมิติทางกายภาพในฐานะสิ่งมีชีวิตทางกายภาพเท่านั้นเอง —แอดมิน—
.
Q : Yet they will let an entire civilization dismantle life as it has known it on its own planet. They are letting us do this right now.
นีล : แต่ทว่าพวกเขา (สวส.) ก็ยังปล่อยให้ทั้งอารยธรรมทำลายชีวิตตามที่มันรู้จักบนโลกของมันเอง พวกเขากำลังปล่อยให้พวกเราทำอย่างนั้นอยู่ในตอนนี้
A : That is an act of a civilization’s conscious choice, of its Collective Will, it is not an act that violates the Collective Conscious Will of another civilization on another planet.
พระเจ้า : นั่นคือพฤติกรรม (ทำลายตนเอง) ที่เกิดจากการเลือกอย่างมีจิตสำนึกของทั้งอารยธรรม เป็นไปตามเจตจำนงมวลรวมของทั้งอารยธรรม มันเกิดจากเจตจำนงมวลรวมของพวกเธอเอง ไม่ได้เกิดจากการโจมตีของอารยธรรมอื่นที่มาจากดาวดวงอื่น★
★ด้วยเหตุนั้น สวส. ถึงทำอะไรไม่ได้ ก็มันคือ เจตจำนงอิสระของพวกเราเองที่เลือกทำลายตัวเองอย่างนั้น
`กฎบัญญัติสูงสุดในจักรวาล` ก็คือ “เจตจำนงอิสระ” ที่พระเจ้าประทานไว้ให้กับสิ่งมีชีวิตทั้งมวล ที่จะเลือกสร้างสรรค์อะไรก็ได้ตามแต่ที่ตนนั้นปรารถนา
ฉะนั้น แม้ สวส. เอง ก็ไม่มีทางละเมิดกฎข้อนี้ แต่ถ้ามีเอเลี่ยนจะบุกมาทำลายโลก โดยที่มนุษย์ส่วนใหญ่ไม่ได้ปรารถนาอย่างนั้น สวส. ก็จะช่วยหยุดยั้งไม่ให้มันเกิดขึ้น แต่ถ้าเกิดมนุษย์ส่วนใหญ่ต้องการทำสงครามอวกาศ (แบบในสตาร์วอร์อะไรงี้) สวส. ก็คงทำอะไรไม่ได้ ก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามเจตจำนงร่วมของเผ่าพันธุ์นั้นๆ พระองค์ถึงบอกว่าปัญหาทั้งมวลแก้ไขได้ด้วยการยกระดับจิตสำนึกรวมหมู่
—แอดมิน—
Even on Earth you make this difference. It is the difference between someone choosing to end their own life of their own free will, or someone choosing to end the life of another against that other’s will.
แม้แต่บนโลก พวกเธอก็ยังเลือกทำสิ่งที่แตกต่างกัน มันมีความต่างระหว่าง การที่ใครบางคนเลือกจบชีวิตตนเองด้วยความสมัครใจ (ด้วยเจตจำนงอิสระของตน) กับ การที่ใครบางคนเลือกจบชีวิตของผู้อื่นโดยที่คนผู้นั้นมิได้ยินยอม
On a galactic scale, the first would be compassionately allowed by HEBs, while the second would be stopped.
ในระดับกาแล็กซี่ พฤติกรรมแบบแรกจะได้รับความยินยอมจากเหล่า สวส. ด้วยความเมตตากรุณา ในขณะที่แบบที่สองจะถูกหยุดยั้ง
.
Q : You once told me that no one dies at a time or in a way that is not of their choosing.
นีล : พระองค์เคยบอกผมไว้ว่า ไม่มีใครตายในเวลาหรือในวิธีที่พวกเขาไม่ได้เป็นผู้เลือกเอง
A : That is correct.
พระเจ้า : ถูกต้อง
(มีต่อ)

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา